ช.พ.ค.สรุปโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.5 ส่งให้ ธ.ออมสินพิจารณา ให้บังคับครูกู้วงเงิน 6 แสนทำประกันชีวิต ผู้ค้ำประกัน 1 คน วงเงินต่ำกว่านั้นไม่บังคับทำประกันชีวิต โดยวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท ต้องมีผู้ค้ำประกัน 3 คน ไม่เกิน 3 แสนบาท ค้ำประกัน 1 คน กู้ไม่เกิน 4 แสนบาท ค้ำประกัน 2 คน ส่วนกรณีหักเงินเข้ากองทุนฯ 1 หมื่นบาท ให้เป็นไปตามความสมัครใจ สำหรับครูที่ได้รับเงินกู้และถูกหักเงินไปแล้ว จะรับเงินคืนให้ติดต่อรับคืนได้ที่ สกสค.จังหวัดใน สิงหาคมนี้
ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ฐานะประธานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) นัดพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับการข้อห่วงใยโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ว่าที่ประชุมพิจารณาข้อห่วงใยของ รมว.ศึกษาธิการใน 2 ประเด็น คือ 1.ทบทวนการบังคับทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ และ 2.การหักเงิน 1 หมื่นบาท เพื่อเข้ากองทุนรวมสวัสดิการเพื่อความมั่นคงของสมาชิก ชพค. ซึ่งจากการหารือในประเด็นการทบทวนการบังคับทำประกันชีวิตที่ประชุมมีความเห็นว่า ควรมีทางเลือก 2 แนวทาง ได้แก่
1.บังคับทำประกันชีวิต กรณีกู้เงินเต็มเพดานในวงเงิน 6 แสนบาท โดยมีผู้ค้ำประกัน 1 คน ตามเงื่อนไขเดิม 2.ไม่บังคับทำประกันชีวิต แต่ให้กู้ได้ในวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท โดยมีผู้ค้ำประกัน 3 คน และผู้รับประโยชน์เมื่อเสียชีวิตจะต้องให้การยินยอม เนื่องจากเมื่อสมาชิก ช.พ.ค.เสียชีวิตจะได้รับผลประโยชน์ 6.9 แสนบาท ซึ่งทาง ช.พ.ค.จะต้องจ่ายเงินให้ 1 แสนบาททันทีเพื่อเป็นค่าพิธีศพ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องกันเงินส่วนนี้ไว้ไม่สามารถให้กู้เต็มเพดานได้ ส่วนที่ต้องให้มีผู้ค้ำประกันถึง 3 คน ก็เป็นไปตามเงื่อนไขการกู้เงินปกติที่หากกู้ไม่เกิน 3 แสนบาท ต้องมีผู้ค้ำประกัน 1 คน กู้ไม่เกิน 4 แสนบาท ค้ำประกัน 2 คน และไม่เกิน 5 แสนบาท ค้ำประกัน 3 คน
ดร.ชินภัทร กล่าวต่อไปว่า สกสค.จะต้องนำเสนอหลักการการทำประกันชีวิตดังกล่าวต่อธนาคารออมสินเพื่อพิจารณาและขอเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่เคยทำไว้ก่อน หากธนาคารออมสินยินยอมก็จะนำมาใช้ได้ทันทีในกรณีของผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินกู้กว่า 1.6 แสนราย เนื่องจากมีผู้มายื่นกู้ไว้กว่า 1.8 แสนราย และได้รับเงินกู้ไปแล้วกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งผู้ที่กู้เกินกว่า 3 แสนบาทก็ถูกบังคับทำประกันชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตามหากธนาคารออมสินไม่เห็นด้วยกันแนวทางดังกล่าว สกสค.ก็คงต้องไปเจรจากันใหม่
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สำหรับประเด็นการหักเงิน 1 หมื่นบาทเข้ากองทุนรวมฯ นั้น ที่ประชุมมีมติว่าควรให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ ดังนั้น หากสมาชิกที่ได้รับเงินกู้ไปแล้วต้องการรับเงินคืนก็สามารถติดต่อได้ที่สำนักงาน สกสค.จังหวัด ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินกู้ก็จะมีช่องให้กรอกในแบบฟอร์มว่าจะประสงค์ให้หักเงินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากมีผู้สนใจลงทุนในกองทุนรวมน้อยก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมของกองทุนได้