“จุรินทร์” เผยมีผู้บริหารระดับสูงองค์การค้า 4 คน แก้ไขสัญญาเอื้อประโยชน์บริษัทคู่ค้า ส่งผลให้องค์การค้าเสียผลประโยชน์ สั่งปลัด ศธ.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ สรุปผลฟันวินัยภายใน 45 วัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากที่สหภาพแรงงานองค์การค้าร้องเรียนให้ตรวจสอบการบริหารงานขององค์การค้า โดยนายสรรค์ วรอินทร์ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว โดยพบ 3 ประเด็น ได้แก่ 1.กรณีรับฝากขายปุ๋ยกับบริษัท 4 ภาคการเกษตร จำกัด พบว่าการดำเนินการธุรกิจรับฝากขายปุ๋ยนั้นสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย แต่ประเด็นที่เป็นมูลเหตุชี้ว่ามีการกระทำผิด พบว่ามีการแก้ไขสัญญาในภายหลังให้เป็นประโยชน์ต่อบริษัท โดยมีผู้บริหารระดับสูงขององค์การค้าที่แก้ไขสัญญาถือว่าทำผิดระเบียบขององค์การค้า เพราะมีการแก้ไขสัญญาเอื้อประโยชน์แก่บริษัทคู่ค้า ถือว่าไม่เป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับองค์การค้า จึงมีความผิดทางวินัย
2.กรณีอนุมัติเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการวางเงินมัดจำพิมพ์กล่องซีดี แผ่นซีดี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขถือว่าเป็นกระทำชอบขององค์การค้า แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ ไม่มีการวางมัดจำตามเงื่อนไขและยังพิมพ์กล่องซีดี แผ่นซีดี จนเสร็จและส่งมอบสินค้าโดยไม่มีมาตรการควบคุม ตรงนี้ถือว่าบกพร่องในหน้าที่ ทำให้องค์การค้าเสียประโยชน์ ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงจะต้องมีความผิดทางวินัย
และ 3.กรณีรับจ้างพิมพ์สมุดโรงเรียนของ อบจ.อุดรธานี ซึ่งการรับจ้างถือว่าปฏิบัติตามระเบียบถูกต้อง แต่ปัญหาได้มีการปล่อยให้ทำผิดสัญญา โดยไม่พิมพ์ข้อความต่อต้านยาเสพติด ทำให้เป็นการผิดสัญญาต่อผู้จ้าง ส่งผลให้องค์การค้าเสียหาย 2 ล้านบาท ผู้รับผิดชอบโดยตรงต้องรับผิดชอบทางวินัย ฐานมีพฤติการณ์ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของหน่วยงาน และก่อให้เกิดผลเสียต่อหน่วยงาน
ทั้ง 3 ประเด็นถือว่าคณะกรรมการได้ชี้มูลความผิดมา ขั้นตอนต่อไปได้มอบให้ ปลัด ศธ. ในฐานะประธาน สกสค.รับผิดชอบ ดูแลองค์การค้า ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยโดยให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน แล้วรายให้ รมว.ศธ.ทราบ
“มีผู้เกี่ยวข้องชัดเจน 4 คน ซึ่งได้ระบุชื่อว่ามีใครบ้าง ผมไม่ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อ แต่เป็นผู้บริหารระดับสูง บางคนยังปฏิบัติงานอยู่ บางคนก็ไม่อยู่”
เมื่อถามถึงความผิดผู้ที่ลาออกไปแล้ว นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัด ศธ.กล่าวว่า ยังให้ความเห็นในเบื้องต้นไม่ได้ ต้องให้สำนักนิติการ วินิจฉัยด้วย ซึ่งรายงานเรื่องนี้สรุปเพื่อรายงาน รมว.ศธ. โดยประธานสอบข้อเท็จจริง มีการระบุชื่อ 4 คน แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจบแค่นี้ต้องไปไล่เรียงความผิดวินัยต่อไป
ถามว่า 3 กรณีสร้างความเสียหายให้แก่องค์การค้ามากน้อยเพียงใด นายจุรินทร์กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้แจ้งมูลค่าความเสียหาย 3 กรณี ระบุไว้เพียงกรณีเดียว จำนวน 2 ล้านบาท ส่วนกรณีหนังสือปลอมไม่ได้อยู่ในข้อร้องเรียน ขณะที่การอนุมัติจ่ายเงิน 23 ล้านบาท ให้แก่บริษัท ไนกี้ เป็นการชำระหนี้ตามข้อผูกพันตามเงื่อนไขสัญญา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากที่สหภาพแรงงานองค์การค้าร้องเรียนให้ตรวจสอบการบริหารงานขององค์การค้า โดยนายสรรค์ วรอินทร์ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว โดยพบ 3 ประเด็น ได้แก่ 1.กรณีรับฝากขายปุ๋ยกับบริษัท 4 ภาคการเกษตร จำกัด พบว่าการดำเนินการธุรกิจรับฝากขายปุ๋ยนั้นสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย แต่ประเด็นที่เป็นมูลเหตุชี้ว่ามีการกระทำผิด พบว่ามีการแก้ไขสัญญาในภายหลังให้เป็นประโยชน์ต่อบริษัท โดยมีผู้บริหารระดับสูงขององค์การค้าที่แก้ไขสัญญาถือว่าทำผิดระเบียบขององค์การค้า เพราะมีการแก้ไขสัญญาเอื้อประโยชน์แก่บริษัทคู่ค้า ถือว่าไม่เป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับองค์การค้า จึงมีความผิดทางวินัย
2.กรณีอนุมัติเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการวางเงินมัดจำพิมพ์กล่องซีดี แผ่นซีดี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขถือว่าเป็นกระทำชอบขององค์การค้า แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ ไม่มีการวางมัดจำตามเงื่อนไขและยังพิมพ์กล่องซีดี แผ่นซีดี จนเสร็จและส่งมอบสินค้าโดยไม่มีมาตรการควบคุม ตรงนี้ถือว่าบกพร่องในหน้าที่ ทำให้องค์การค้าเสียประโยชน์ ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงจะต้องมีความผิดทางวินัย
และ 3.กรณีรับจ้างพิมพ์สมุดโรงเรียนของ อบจ.อุดรธานี ซึ่งการรับจ้างถือว่าปฏิบัติตามระเบียบถูกต้อง แต่ปัญหาได้มีการปล่อยให้ทำผิดสัญญา โดยไม่พิมพ์ข้อความต่อต้านยาเสพติด ทำให้เป็นการผิดสัญญาต่อผู้จ้าง ส่งผลให้องค์การค้าเสียหาย 2 ล้านบาท ผู้รับผิดชอบโดยตรงต้องรับผิดชอบทางวินัย ฐานมีพฤติการณ์ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของหน่วยงาน และก่อให้เกิดผลเสียต่อหน่วยงาน
ทั้ง 3 ประเด็นถือว่าคณะกรรมการได้ชี้มูลความผิดมา ขั้นตอนต่อไปได้มอบให้ ปลัด ศธ. ในฐานะประธาน สกสค.รับผิดชอบ ดูแลองค์การค้า ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยโดยให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน แล้วรายให้ รมว.ศธ.ทราบ
“มีผู้เกี่ยวข้องชัดเจน 4 คน ซึ่งได้ระบุชื่อว่ามีใครบ้าง ผมไม่ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อ แต่เป็นผู้บริหารระดับสูง บางคนยังปฏิบัติงานอยู่ บางคนก็ไม่อยู่”
เมื่อถามถึงความผิดผู้ที่ลาออกไปแล้ว นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัด ศธ.กล่าวว่า ยังให้ความเห็นในเบื้องต้นไม่ได้ ต้องให้สำนักนิติการ วินิจฉัยด้วย ซึ่งรายงานเรื่องนี้สรุปเพื่อรายงาน รมว.ศธ. โดยประธานสอบข้อเท็จจริง มีการระบุชื่อ 4 คน แต่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจบแค่นี้ต้องไปไล่เรียงความผิดวินัยต่อไป
ถามว่า 3 กรณีสร้างความเสียหายให้แก่องค์การค้ามากน้อยเพียงใด นายจุรินทร์กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้แจ้งมูลค่าความเสียหาย 3 กรณี ระบุไว้เพียงกรณีเดียว จำนวน 2 ล้านบาท ส่วนกรณีหนังสือปลอมไม่ได้อยู่ในข้อร้องเรียน ขณะที่การอนุมัติจ่ายเงิน 23 ล้านบาท ให้แก่บริษัท ไนกี้ เป็นการชำระหนี้ตามข้อผูกพันตามเงื่อนไขสัญญา