xs
xsm
sm
md
lg

“เชื้อไวรัสเป็น-ไข่ทำวัคซีนจากเยอรมนี” ถึงไทยแล้ว อภ.เตรียมลุยผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชื้อเป็นของไวรัสหวัดใหญ่ 2009 รวมถึงไข่ชนิดพิเศษจากเยอรมนีถึงไทยแล้ว เตรียมเข้าสู่กระบวนการผลิต ด้าน “วิทยา” เตรียมทำหนังสือขอบคุณเลื่อนคอนเสิร์ต เชื่อ ชะลอการระบาดได้ พร้อมตั้งคณะทำงานด้านวิชาการพิจารณาเงื่อนไขความจำเป็นกลุ่มที่ต้องฉีดอย่างรัดกุม มั่นใจไทยคุมหวัดใหญ่ 2009 ได้ หากทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชนร่วมมือจริงจัง

นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่พญ.มากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนประเทศอังกฤษ และเยอรมนี ที่สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1 ว่า อาจเป็นของปลอม ว่า ไม่ทราบสาเหตุที่องค์การอนามัยโลกประกาศเตือนดังกล่าว แต่ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้สั่งซื้อวัคซีนจาก 2 ประเทศดังกล่าว แต่สั่งซื้อจากบริษัท ปลาสเตอร์ เมอร์ริเออร์ ประเทศฝรั่งเศส จำนวน 2 ล้านโดส มูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีการผลิตวัคซีนมานานนับ 100 ปี และได้เชื้อไวรัสสกัดจากองค์การอนามัยโลกโดยตรง ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีบริษัทที่ผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ประมาณ 4-5 แห่ง เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ เป็นต้น

“ขณะนี้บริษัทยาต่างๆ อาจจะผลิตวัคซีนเสร็จแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำมาใช้ได้จริง เนื่องจากต้องผ่านขั้นตอนการทดลองในสัตว์ และคนกลุ่มเล็กๆ ก่อน เพื่อตรวจสอบว่าวัคซีนได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยหรือไม่ เกิดผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง และที่สำคัญ วัคซีนมีประสิทธิภาพกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้จริงหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3 เดือน จึงจะแล้วเสร็จ ซึ่งไทยจะได้วัคซีนประมาณเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งได้วัคซีนพร้อมๆ กับที่ชาวฝรั่งเศสจะได้รับวัคซีนเช่นเดียวกัน” นพ.มล.สมชาย กล่าว

ด้าน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ตามกำหนดการองค์การอนามัยโลก (WHO) จะส่งเชื้อไวรัสชนิดเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาถึงไทยในวันที่ 16กรกฎาคม เวลา 13.30 น.โดยเจ้าหน้าที่จากองค์การอนามัยโลกจะนำส่งด้วยตนเอง และเชื้อไวรัสดังกล่าวจะนำส่งไปเก็บไว้ที่ฝ่ายชีววัตถุองค์การเภสัชกรรม เพื่อปรับอุณหภูมิองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อตรวจสอบคุณภาพ และผ่านการลงทะเบียนเพื่อเตรียมเข้าสู่ระบบการผลิตที่โรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นำร่อง โดยจะส่งมอบให้ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ส่วนไข่ไก่ที่จะใช้เพาะเลี้ยงเชื้อไวรัสที่สั่งตรงมาจากประเทศเยอรมนีมาถึงในประเทศไทยเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการขอความร่วมมือให้หยุดกิจกรรมคอนเสิร์ตเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ว่า ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้จัดคอนเสิร์ตหลายแห่งที่ประกาศเลื่อนการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตออกไปในระยะนี้ก่อน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะทำหนังสือขอบคุณไปยังหน่วยงานต่างๆ เพราะถือเป็นการให้ความร่วมมือที่จะช่วยให้การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ชะลอตัวลงได้ดีกว่าการใช้มาตรการบังคับทางกฎหมาย เพราะไม่เป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน

“การควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของประเทศไทยจะประสบความสำเร็จได้ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างจริงจัง ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะการเลื่อนการแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ ออกไประยะหนึ่ง และยังแสดงให้เห็นว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยกย่องเป็นอย่างยิ่ง” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับการตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารผู้โดยสารก่อนเดินทางออกนอกประเทศ ตามที่บางประเทศได้เสนอนั้น สธ.ไทยจะรับไว้ โดยจะนำเข้าที่ประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เพื่อพิจารณาความจำเป็นในการทำ แต่ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกยังไม่แนะนำให้แต่ละประเทศทำ เนื่องจากขณะนี้เชื้อมีการแพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว และให้แต่ละประเทศมุ่งควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและจีน ยกเลิกการเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ไม่ได้เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้ในประเทศไทยเป็นหลัก แต่เป็นเพราะปัญหาภายในของแต่ละประเทศเอง เช่น ปัญหาการเมือง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคของประเทศไทย คลี่คลายลงก็จะแจ้งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำการโปรโมทเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับเข้ามาประเทศไทย

“ขณะนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับการพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตของไข้หวัดใหญ่ 2009 เกิดขึ้นมากจนน่ากลัว ซึ่งบางครั้งก็เป็นข้อมูลที่คลายเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริงทำให้ประชาชนเกิดความสับสน จึงอยากให้ประชาชนเชื่อถือในข้อมูลของสธ. เพราะการบอกข้อมูลอะไรก็ตามเป็นการประมวลจากผู้เชี่ยวชาญทุกด้านที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว”นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล อดีต รมว.สาธารณสุข เตือนเรื่องการใช้วัคซีนว่าอาจมีอันตรายนั้น เห็นด้วยว่าวัคซีนอาจมีอันตราย เพราะบริษัทยาได้แนบท้ายว่าอาจมีผลข้างเคียง จึงอยากบอกประชาชนว่า สิ่งสำคัญที่ดีที่สุดที่จะปลอดจากการติดเชื้อ คือ การป้องกันตนเองตามแนวทางที่กระทรวงแนะนำ ทั้งนี้ พบว่า ประชาชนมีความตื่นตัวในการป้องกันและเคร่งครัดต่อการระวังตนเองให้ปลอดจากเชื้ออย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นการป้องกันโรคถือได้ผล แต่มีผู้ผลิตบางรายขึ้นราคาสินค้าสูงมาก จากเดิมที่มีราคาเพียงแผ่นละ 90 สตางค์ ก็พบว่าบางรายมีการขึ้นราคาไปถึง 20 บาท จึงอยากแนะนำให้ประชาชนหันมาใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้า เพราะสามารถทำความสะอาดและนำมาใช้ซ้ำได้ ดีกว่าหน้ากากแบบใช้แล้วทิ้งที่จะสิ้นเปลืองมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น