xs
xsm
sm
md
lg

กทม.สั่งปิดร.ร.435แห่งครม.ให้ขรก.หยุดดูแลลูกติดหวัดตายเพิ่มอีก3 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- กทม. เด็ดขาด! สั่งปิดโรงเรียนในสังกัด 435 แห่ง ศูนย์เลี้ยงเด็ก 200 แห่ง และศูนย์ฝึกอาชีพ 13 แห่ง 5 วัน สกัดหวัดพันธุ์ใหม่ ครม.ไม่สั่งปิดเรียนทั่วประเทศ แต่มีมติให้ผู้ปกครองที่เป็นขรก.สามารถหยุดดูแลลูกได้โดยไม่ถือเป็นวันลา "วิทยา" เผยครม.อนุมัติงบ 850 ล้านบาทซื้อยา-วัคซีน ขณะที่วอร์รูม "เสธ.หนั่น" เลิกรายงานงานตัวเลขป่วย-ตายรายวัน ฮึ่มใส่คอนเสิร์ต บี้งดจัด 2 สัปดาห์ ลั่นต้องรับผิดชอบหากมีคนติดหวัด สธ.พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม.ว่า คณะผู้บริหารกทม.มีความกังวลต่อสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยที่ประชุมมีมติใช้มาตรการเชิงรุกในการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะเมื่อต้องไปในสถานที่ที่มีประชาชนอยู่จำนวนมาก

ทั้งนี้ กทม.จะแจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวน 2 ล้านชิ้นให้กับประชาชนและหน่วยงานต่างๆ โดยจะนำไปแจกตามสถานที่ที่มีผู้สัญจรไปมาจำนวนมาก เช่น สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นต้น พร้อมทั้งประสานความร่วมมือไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) เพื่อให้ช่วยแจกหน้ากากอนามัย โดยกทม.จะมอบให้คนละ 10,000 ชิ้น

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ กทม.ยังจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ "กทม. ขอร้อง ใส่หน้ากาก ล้างมือ สู้ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ด้วยความปรารถนาดีจากกรุงเทพมหานคร" เพื่อประชาสัมพันธ์ตามสถานที่ต่างๆ ในกทม. โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนั้นยังประสานกับสถานีวิทยุชุมชนในกทม.ทั้งหมดมาขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารวิธีป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพื่อเป็นการสร้างวัฒนธรรมใส่หน้ากากอนามัยให้มากขึ้น รวมถึงทำแถบบันทึกเสียงแจกจ่ายไปยังชุมชนทั้ง 1,981 ชุมชนเพื่อกระจายเป็นระยะส่วนตามตรอกซอยนั้นจะใช้รถเทศกิจกระจายเสียงประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง ตลอดจนจะมีการประสานขอความร่วมมือกับผู้ให้บริการมือถือค่ายต่างๆ เพื่อให้ส่งข้อความไปยังผู้ใช้บริการอีกด้วย

ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนสังกัดกทม.นั้นได้สั่งแถบปรอทวัดไข้จำนวน 22,000 ชิ้นเพื่อให้ครูประจำชั้นวัดไข้นักเรียนก่อนเข้าเรียน ซึ่งหากเกิน 37.5 องศาก็จะให้กลับบ้าน และเพิ่มมาตรการงดการใช้เครื่องปรับอากาศในห้องเรียน และงดการประชุมใหญ่ในโรงเรียนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

ปลัดกทม.สั่งปิด ร.ร.435 แห่ง

นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม.เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารที่เกี่ยวข้องว่า กทม.ออกได้คำสั่งให้ปิดโรงเรียนในสังกัดกทม.ทั้ง 435 แห่ง ศูนย์เลี้ยงเด็ก 200 แห่ง และศูนย์ฝึกอาชีพ 13 แห่ง ระหว่างวันที่15-19 ก.ค.นี้ โดยจะเปิดตามปกติในวันวันจที่ 20 ก.ค. 2552 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยในระหว่างที่มีการปิดนั้นจะมีการล้างทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคทั้งหมด

ดับเซ่นหวัดมรณะอีก 3

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า วานนี้(14 ก.ค.) สธ.ขึ้นทะเบียนผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย โดยรายที่ 22 เป็นหญิงวัย 57 ปี ชาว กทม. เสียชีวิตวันที่ 12 ก.ค. โดยมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูงและเบาหวานมานานกว่า 3 ปี น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 23 เป็นหญิงอายุ 67 ปี อยู่ กทม. เสียชีวิตวันที่ 12 ก.ค.ด้วยโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายที่ 24 เป็นหญิงอายุ 32 ปี จังหวัดสมุทรสาคร เสียชีวิตเมื่อเช้าวานนี้ (14 ก.ค.) มีน้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม มีประวัติเป็นโรคหอบหืด

นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตที่จังหวัดเชียงใหม่อีก 1 รายเป็นเด็กชายอายุ 7 เดือน โดยขณะนี้ยังจัดอยู่ในข่ายผู้ป่วยสงสัยเพราะต้องรอผลการชันสูตรศพ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในเร็วๆ นี้ ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น วานนี้(14 ก.ค.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม 174 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมทั้งประเทศอยู่ที่ 4,057 ราย

"วิทยา"บอกไม่รู้เรื่องถูกไล่พ้นสธ.

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ.กล่าวก่อนการประชุม ครม.ถึงกระแสกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งเพราะไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ว่า ไม่เคยได้ยินข่าว ส่วนกรณีกระแสข่าวว่าเป็นเพราะ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.ใกล้เกษียณอายุราชการ ทำให้การสั่งการลงไปยังพื้นที่ทำได้ไม่เต็มที่นั้น คงไม่ใช่ เพราะทุกคนทำงานด้วยความเข้มแข็ง อย่าเอามาทำให้เป็นเรื่องปัญหาการเมืองในสธ.

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะ สธ.ทำงานที่ล่าช้าจึงไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ นายวิทยากล่าวว่า สิ่งที่รุนแรงกว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ คือ ความรู้สึกของประชาชนที่ตื่นตระหนก ซึ่งที่ผ่านมาสธ.ได้รณรงค์ออกคำแนะนำวิธีการป้องกันดูแลตัวเองมาโดยตลอด แต่หากประชาชนไม่ปฏิบัติตามก็ไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้

ศธ.ค้านปิดเรียน หวั่นเด็กไม่อยู่บ้าน

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวก่อนการประชุม ครม.ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการบังคับให้โรงเรียนปิดเทอมก่อนกำหนด ว่า คงต้องถามต่อไปว่าถ้าปิดโรงเรียนแล้วเด็กจะไปอยู่ที่ไหน เพราะถ้าหยุดไปแล้วเด็กไม่ได้อยู่บ้าน แต่เข้าอยู่ในที่สาธารณะจะอันตรายมากขึ้นหรือไม่ ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่งมีการระบาดน้อยจะปิดหรือไม่

ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา (สพฐ.) กล่าวว่า จากการสุ่มตรวจเด็กตามโรงเรียนต่างๆ ในการคัดกรองเด็กที่มีอาการเป็นไข้ ไม่สบายพบว่า มีเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาบางส่วนไม่สามารถส่งกลับบ้านได้ เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่ออกไปทำงานหาเช้ากินค่ำ และไม่มีใครอยู่บ้านทางโรงเรียนจำเป็นต้องแยกเด็ก และต้องดูแลเด็กกลุ่มนี้แทน ส่วนเด็กมัธยมศึกษาเคยปล่อยให้เด็กกลับบ้าน แต่พบว่าเด็กไปเดินเที่ยวอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ได้กลับบ้านตามที่แจ้งไป

วธ.ห่วงโรงหนังชั้น 2 ตจว.เพาะหวัด

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า ผลการตรวจสอบร้านเกม โรงภาพยนตร์ และร้านคาราโอเกะเป็นที่น่าพอใจ โดยร้านต่างๆ ให้การร่วมมือการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระดับหนึ่ง แต่ยังมีความน่าเป็นห่วงโรงภาพยนตร์ชั้นสองหรือโรงภาพยนตร์ที่อยู่ในต่างจังหวัด เพราะฉายภาพยนตร์หลายรอบต่อวัน และประชาชนที่เข้าไปใช้บริการก็มีจำนวนมาก จึงเกรงว่าโรงภาพยนตร์จะมีมาตรการการป้องกันที่ไม่ได้มาตรฐาน และอาจส่งผลให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดได้ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือในการทำความสะอาดพื้น เบาะที่นั่ง ที่ซื้อตั๋ว รวมทั้งในส่วนผู้ชมเองก็ควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะเข้าชมด้วย และหากมีอาการไอ จาม หรือเป็นไข้ก็ไม่ควรเข้าชมในโรงภาพยนตร์

ครม.ยังไม่สั่งปิดโรงเรียน

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ.กล่าวว่า ในการประชุมครม.วานนี้(14 ก.ค.) ครม.ไม่ได้มีการนำเรื่องสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศเข้าหารือ แต่ให้ใช้มาตรการเดิมคือการให้นักเรียนที่ป่วยหยุดรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยไม่ถือเป็นวันลา รวมถึงผู้ปกครองซึ่งเป็นข้าราชการที่ป่วยหรือต้องเฝ้าดูแลบุตรหลาน ก็สามารถหยุดอยู่กับบ้านได้โดยไม่ถือเป็นวันลาเช่นเดียวกัน

ส่วนในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน กำลังหารือกับผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ที่ป่วยหยุดพักรักษาตัวอยู่บ้าน โดยไม่ถือเป็นวันลาและไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ เพราะทุกคนสามารถป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้เพียงรอบเดียว ซึ่งมาตรการเช่นนี้จะดำเนินการไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะคลี่คลายลง

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ผู้ว่าฯ กทม.สั่งปิดโรงเรียนในสังกัดทั้งหมดเป็นเวลา 5 วันระหว่างวันที่ 15-19 ก.ค.นั้น สามารถดำเนินการได้ตามอำนาจของท้องถิ่นและมีความเหมาะสมเพราะกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในประเทศ ส่วนโรงเรียนในต่างจังหวัดถือเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารโรงเรียนที่จะสั่งปิดโรงเรียน

สำหรับข้อเสนอของสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชาที่เสนอให้มีการลดจำนวนวันที่ครม.สั่งปิดโรงเรียนกวดวิชาลงนั้น ได้นำเข้าแจ้งให้ครม.รับทราบแต่ยังไม่มีการพิจารณาลดจำนวนวันลง

อนุมัติงบ 850 ล้านบาทซื้อยา-วัคซีน

นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ครม.มีมติ อนุมัติงบประมาณกลางปี 2552 จำนวน 850 ล้านบาท สำหรับใช้ในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จำนวน 600 ล้านบาท และซื้อยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ 250 ล้านบาท ส่วนงบในการประชาสัมพันธ์เรื่องไข้หวัดใหญ่ 70 ล้านบาท ยังไม่ได้นำเสนอเข้าที่ประชุม เนื่องจากเห็นว่า กรมประชาสัมพันธ์ให้เวลาในการเผยแพร่และให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้กับประชาชนอยู่แล้ว

ด้านนพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีเพียงบริษัทเดียวคือ บ.ซาโนฟี่ปาสเตอร์ลิมิเต็ด ที่สามารถให้รายละเอียดในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ราคา และกำหนดส่งมอบได้ ซึ่งองค์การเภสัชกรรมให้ความเห็นชอบในการดำเนินการสั่งจองวัคซีนดังกล่าวในราคา 6 ยูโร/โดส กำหนดส่งมอบภายใน 4-5 เดือน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือบริษัทผู้ผลิตแจ้งว่าวัคซีนดังกล่าวเป็นการผลิตเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขและมีความต้องการของผู้ซื้อที่ต้องการไว้จำนวนมาก ดังนั้นหากเกิดความผิดพลาดขึ้นผู้ผลิตจะไม่รับผิดชอบ เว้นแต่เป็นความเสียหายอันเกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือจงใจเท่านั้น ดังนั้น สธ.จึงจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากครม. ซึ่งครม.ก็มีมติเห็นชอบตามที่สธ.เสนอ

ทั้งนี้ การเกิดอาการข้างเคียงของวัคซีนนั้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และมีอัตราการเกิด 1 ต่อ 1 ล้านราย ซึ่งอาการนั้นก็ไล่ระดับจากเป็นไข้ ผื่น จนรุนแรงถึงเสียชีวิต ซึ่งสิ่งที่เป็นประสบการณ์อันเลวร้ายคือที่เกิดขึ้นที่สหรัฐฯที่มีการฉีดวัคซีนแล้วพบว่ามีคนที่แขนขาอ่อนแรงหลายร้อยราย

ยกเครื่องยุทธศาสตร์สู้

ที่สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ โดย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.แถลงผลการประชุมว่า สธ.ได้เสนอปรับยุทธศาสตร์ เพื่อจัดการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่ของประเทศ 3 ด้าน ได้แก่ 1.การดูแลรักษาผู้ป่วย โดยปรับระบบบริการในโรงพยาบาลทุกแห่งให้มีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะ มีแนวทางในการรักษาและให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ป่วย และพิจารณาตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรงและเพื่อการเฝ้าระวัง โดยมีกระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ และกทม. รับผิดชอบ

2.การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยเปลี่ยนจากการคัดกรองผู้ที่เดินทางระหว่างประเทศ มาเป็นการป้องกันในสถานที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สถานบันเทิง สถานประกอบการ ค่ายทหาร และมีการปรับมาตรการในการควบคุมป้องกันโรค ให้สอดรับกับความรุนแรงของการแพร่ระบาด มีกระทรวงแรงงานฯ มหาดไทย กลาโหม ศธ. สธ.และกทม. รับผิดชอบ และ3.ปรับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยขยายช่องทางในการสื่อสาร และเสริมบทบาทท้องถิ่น ชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น มีกรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) รับผิดชอบ ทั้งนี้อยู่ระหว่างการจัดทำคู่มือสำหรับแพทย์และประชาชนทั่วไปด้วย

"สธ.ขอความร่วมมือไนท์คลับ ผับ บาร์ ให้ดูแลสถานที่ให้ปลอดเชื้อ มีอากาศถ่ายเทสะดวก รวมถึงการจัดแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ ขอความร่วมมือให้งดจัดกิจกรรมนาน 2 สัปดาห์ เพื่อลดการระบาดของโรค ซึ่งผู้จัดคอนเสิร์ตต้องรีบผิดชอบหากมีคนติดหวัดจากการดูคอนเสิร์ต" ปลัด สธ.กล่าว

รับตรวจเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากนี้ไปห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อต่างๆ ทั้งของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลเอกชน ตรวจวิเคราะห์เชื้อเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง มีโรคประจำตัว หรือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น โดยไม่ต้องส่งเชื้อของผู้ป่วยตรวจทุกราย เพราะไม่มีความจำเป็น ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ เฉพาะที่ห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลรามาธิบดี มีการส่งเชื้อตรวจมากถึงวันละ 4,000-5,000 ราย ซึ่งจากข้อมูลผู้ป่วยพบว่า ในผู้ป่วยที่เป็นหวัดไปพบแพทย์ 100 ราย เมื่อตรวจเชื้อแล้วพบว่า เป็นผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สูงถึง 80-90 ราย ซึ่งแพทย์ก็ไม่ได้รอแผลตรวจยืนยันหากพบว่ามีอาการรุนแรง เป็นกลุ่มเสี่ยงก็จะให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ทันที

เลิกรายงานตัวเลขป่วย-ตายรายวัน

ด้านนายอัครพล สรสุชาติ รองเลขานุการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรายงานและการนำเสนอตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะมีการแถลงข่าวทุกวันพุธสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป ยกเว้นในกรณีพิเศษ ซึ่งมาตรการนี้ถือเป็นมาตรฐานสากลดำเนินการตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
กำลังโหลดความคิดเห็น