ครม.มีมติสั่งปิด ร.ร.กวด 13- 28 ก.ค. สกัดหวัด แฉ!! คอนเสิร์ต ดงบังชิงกิ-อัสนีวสันต์ ต้นตอแหล่งเพาะหวัด ส่วน คาราโอเกะ ผับ ร้านเกม อาจเป็นรายต่อไปที่ถูกสั่งปิดสธ.ขอความร่วมมือ รพ.เอกชน กำหนดราคากลางในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่เกิน 4,000 บาท “หมอปราชญ์” เผยตัวเลขผู้ติดหวัดที่แท้จริงต้องคูณ 68 คาดยอดรวมเฉียด 2 แสน
เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 9 ก.ค.ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจัดการประชุมการดูแลรักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งมีบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเข้าร่วมประชุมประมาณ 50 คน โดยนพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ เลขาธิการสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า มีการหารือแนวทางปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ในโรงพยาบาลเอกชนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่กระทรวงกำหนดและให้มีการรายงานข้อมูลผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตไปยังสธ.ทันที แต่เนื่องจากขณะนี้มีการส่งเชื้อตรวจพิสูจน์เป็นจำนวนมากอาจทำให้การรายงานผลล่าช้าไปด้วย นอกจากนี้มีการกำหนดค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนทั้งค่าตรวจคัดกรอง ค่าตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่เกิน 4,000 บาท ขณะที่ค่ายาและค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ประมาณ 800-1,500 บาท
“ช่วงแรกค่าตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มีการร้องเรียนเก็บค่าตรวจพิสูจน์สูงอยู่ประมาณ 7,000-8,000บาท ซึ่งสมาคมฯเห็นด้วยว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนจึงจะมีการตั้งราคากลาง โดยเป็นค่าตรวจคัดกรอง 1,000 บาท ซึ่งจะบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเอหรือบี เท่านั้น ส่วนค่าตรวจหาเชื้อไวรัสหากเข้าเกณฑ์ที่สธ.กำหนด คือ เป็นกลุ่มเสี่ยงและผู้มีอาการรุนแรง หากนำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ฟรีอยู่แล้ว ขณะที่หากส่งตรวจที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500บาท รวมค่าจัดส่งไม่เกิน 3,000บาท ดังนั้น ราคาที่โรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บจะต้องไปเกิน 4,000 บาท”นพ.เฉลิมกล่าว
นพ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ย้ำว่าหากผู้ป่วยประกันสังคมที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาใดๆ ทั้งสิ้น โดยในวันที่ 10 ก.ค.เวลา 13.00 น.ที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซอยศูนย์วิจัย จะมีการประชุมเพื่อขอความร่วมมือโรงพยาบาลเอกชนซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณ 200 แห่ง ในการเก็บค่าตรวจพิสูจน์เชื้อในอัตราที่เท่ากัน โดยเชื่อว่าในการประชุมนั้นโรงพยาบาลเอกชนจะให้ความร่วมมือ
**คาดตัวเลขติดจริงเฉียด 2 แสน
ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีจำนวนมากกว่าที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วยยืนยันของสธ. ซึ่งนักวิชาการระบุว่า จะต้องนำ 68 คูณกับจำนวนผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด ซึ่งตัวเลข 68 เป็นเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดแล้วเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ดังนั้น ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันเป็นโรคไข้หวัดใหญ่2009ในประเทศไทยจำนวน 2,925 เท่ากับมีผู้ติดเชื้อประมาณ 198,900 ราย
“การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นไปอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ประเด็นทางการเมืองซึ่งตนไม่อยากให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้น ทั้งๆ ที่แพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลา 68 วัน ตั้งแต่ได้รับทราบข้อมูลว่ามีการระบาดครั้งแรก ที่สหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก”นพ.ปราชญ์กล่าว
***ระดมผู้เชี่ยวชาญนับร้อยสู้
นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวนกว่า 2,000 ราย พบว่ามีผู้ป่วยอาการรุนแรงทั้งหมดจำนวน 20 ราย คิดเป็น 0.74% มี 15 รายที่มีโรคประจำตัว 1-3 โรคร่วมกัน เช่น โรคหัวใจ โรคไต ลูคีเมีย หรือมีปัจจัยเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่ง ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 7 ราย ส่วนผู้ป่วยอีก 5 ราย เป็นกลุ่มที่ไม่มีโรคประจำตัวหรือปัจจัยเสี่ยง แต่เสียชีวิตแล้วจำนวน 4 ราย ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลช้าอยู่ระหว่าง 6-8 วัน ทำให้ได้รับการรักษาช้าไม่ทันท่วงที
“ขณะนี้ได้มีการระดมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 30-40 ราย รวมถึงแพทย์อาสาสมัครรวมประมาณ 100 ราย เพื่อให้การสนับสนุนการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต่างๆ ที่ขอความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้เหลือผู้ป่วยที่มีอาการหนักน่าเป็นห่วงอยู่ในห้องไอซียู จำนวน 10 ราย ซึ่งรายที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดขณะนี้คือผู้ป่วยรายที่รักษาตัวอยู่ จ.อยุธยา และจ.สมุทรปราการ ซึ่งผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวจะต้องระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เนื่องจากมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ”นพ.เรวัติกล่าว
***ครม.สั่งปิดกวดวิชา 15วัน
วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปิดโรงเรียนกวดวิชาทั่วประเทศชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 13-28 กรกฎาคมนี้ เป็นเวลา 15 วัน เพื่อต้องการลดการแพร่ระบาดของโรค เพราะโรงเรียนกวดวิชามีสภาพแออัด และเชื้อระบาดได้ง่าย
ทั้งนี้จะมอบให้เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช. ) ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งสถาบันกวดวิชาต้องปฏิบัติตาม เพราะว่า สช.สามารถออกใบอนุญาตให้ดำเนินการสอน และมีอำนาจให้ปิดชั่วคราว อีกทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน โดยเชื่อว่าโรงเรียนกวดวิชาจะให้ความร่วมมือ ส่วนการชดเชยการสูญเสียรายได้ในระหว่างการปิดนั้น เห็นว่าสถาบันกวดวิชาอย่าเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก เพราะสถาบันสามารถสอนชดเชยได้ ส่วนร้านเกมและอินเทอร์เน็ตนั้น กระทรวงวัฒนธรรมจะขอความร่วมมือด้วย ทั้งนี้หลังจากปิด 15 วันแล้วจะพิจารณาจากคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักว่าให้เปิดสอนต่อได้หรือไม่
ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของโรคเข้าในโรงเรียนมัธยมที่มีนักเรียนผู้หญิงโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามเสียชีวิตแล้วนั้น กระทรวงศึกษาธิการจะต้องดำเนินการตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยแต่ละโรงเรียนจะมีการคัดแยกเด็กที่มีอาการป่วย และหากพบ กระทรวงสาธารณสุขจะเข้ามาดูแลรักษา โดยจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ นี้เป็นต้นไป หากโรงเรียนใดต้องการที่จะปิดก็ให้หารือกับสาธารณสุขประจำพื้นที่
***ชี้ 2 คอนเสิร์ตยักษ์ตัวแพร่เชื้อ
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ ที่กำกับดูแลคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวว่า จะทำหนังสือถึง สช.เพื่อออกหนังสือขอความร่วมมือไปยังสถาบันกวดวิชาต่าง ๆทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง ให้ปิดทำการเรียนการสอนระหว่างวันที่ 13-28 ก.ค.52 นี้ เป็นเวลา 15 วัน เนื่องจากทางกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานต่อที่ประชุม ครม.พบว่า สถาบันกวดวิชาเป็นแหล่งที่มีการเพาะเชื้อไข้หวัด 2009 ตามรายงานที่พบว่า ในกทม.หรือแม้ในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น จ.อุบลราชธานี ก็มีเด็กนักเรียนป่วยจากสถาบันกวดวิชาเช่นกันเนื่องจากสถาบันเหล่านี้มีเด็กจำนวนมากไปเรียนในห้องที่แคบ ทางครม.มีมติให้ขอความร่วมมือดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังจะไม่ถึงขั้นลงโทษหากสถาบันเหล่านี้ไม่ได้ให้ความร่วมมือ
“ขณะที่เด็กที่ป่วย และขาดสอบจะให้ครูมาสอนเสริม เป็นรายบุคคล ขณะที่เราไม่สั่งปิดโรงเรียนปกติก็เนื่องจากความกว้างขวางของโรงเรียน ที่สามารถควบคุมระเบียบวินัยต่าง ๆได้ ส่วนโรงเรียนสอนภาษาต่าง ๆยังให้เปิดตามปกติ”
ขณะที่มาตรการกับสถานที่อื่น ๆ เช่นสถานบันเทิง กระทรวงวัฒนธรรมจะไปดูตัวเลขและประเมินผู้ป่วยที่แน่ชัด รวมทั้ง ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ที่มีเด็กไปเล่นจำนวนมากก็ขอความร่วมมือให้ปิดหากพบว่ามีเด็กป่วยจากโรคหวัด
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้นำตัวเลขผู้ป่วยมารายงานให้ ครม.รับทราบ โดยเฉพาะผู้ป่วยการการไปชมคอนเสิร์ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น คอนเสิร์ต อัสนี-วสันต์ และคอนเสิร์ตจากศิลปินเกาหลี (ดงบังชิงกิ)ที่อิมแพก อารีน่า เมืองทองธานี โดยมีหลักฐานจากผู้ป่วยว่า ได้ไปชมคอนเสิร์ตทั้ง 2 รายการและไม่เกิน 3 วันก็ป่วยและพบว่า มีตัวเลขผู้ป่วยที่สูงขึ้นหลังจากทั้ง 2 คอนเสิร์ตนี้
อย่างไรก็ตามในกรณีของสถานบันเทิง เช่น โรงภาพยนตร์ ร้านคาราโอเกะ ผับ บาร์ ฯลฯ แม้จะมีการหารือกันว่าเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะเป็นพื้นที่เสี่ยงจะเป็นแหล่งเพาะชื้อ ได้มอบหมายกระทรวงวัฒนธรรมไปดูรวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประเมินความเสียหายหากมีการปิดสถานที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตามครม.ยังไม่มีการประเมินว่า จะชดเชยให้กับสถานที่ต่างๆอย่างไรหากมีความเสียหายเรื่องรายได้
***สั่งร้านเกมติดป้ายเป็นหวัดห้ามเข้า
ด้าน นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ร้องขอให้มีการปิดโรงเรียนกวดวิชา และร้านเกม นั้น ในส่วนของร้านเกมที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.) ยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่ให้สวช.เฝ้าระวังให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการ 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ทำความสะอาดร้านเกม โดยใช้ผงซักฟอกผสมน้ำถูพื้น และเช็ดทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญไม่ควรที่จะปัดกวาดให้เกิดฝุ่นละอองคละคลุ้ง ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เชื้อไข้หวัดใหญ่ระบาดขยายได้ 2.ให้ร้านเกมดูเรื่องระบบระบายอากาศ ควรที่จะมีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้อากาศในร้านเกิดการถ่ายเท และ3.ให้ร้านเกมช่วยเฝ้าระวัง ผู้ใช้บริการ หากเห็นว่า บุคคลนั้นเป็นหวัด ไม่ควรให้ใช้บริหาร ควรขอให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดในเบื้องต้น
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า วธ.จะให้ร้านเกม ทั่วประเทศติดป้ายประกาศ หากใครเป็นไข้หวัด งดให้บริการ ที่หน้าร้าน รวมทั้งให้ติดป้ายประกาศวิธีการป้องกันและอาการของไข้หวัด2009 เพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัด2009 ส่วนพนักงานที่ให้บริการในร้านเกม หากรู้ตัวว่า ป่วยควรงดทำหน้าที่ทันทีและพักผ่อนอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ ตนจะสั่งการให้สวช.แจ้งเตือนยังร้านคาราโอเกะ และโรงภาพยนตร์ให้ดำเนินมาตรการเข้มข้นเหมือนกับร้านเกมด้วย อย่างไรก็ตาม วธ.จะประกาศให้ร้านเกมทั่วประเทศทำความสะอาดอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เป็นต้นไป
