xs
xsm
sm
md
lg

กวดวิชาพร้อมปิด 14 วันล้างหวัด อัดขอหลักฐานแพร่ยัน สทศ.ไม่เลื่อน GAT-PAT

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
นายกสมาคม ร.ร.กวดวิชาประกาศพร้อมให้ความร่วมมือปิด 2 สัปดาห์เพื่อล้าง “หวัดพันธุ์ใหม่” แต่สวนกลับ สธ.ขอหลักฐานยืนยันว่าเป็นแหล่งแพร่ระบาดจริงๆ ซัดอย่าทำเป็นไฟไหม้ฟางโยนบาปให้ผู้อื่น หรือให้ข้อมูลกลับไปกลับมา จวกมาตรการควบคุมไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมระบุหากปิดจริงผู้เรียนจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการสอบ GAT และ PAT ที่จะมีในสัปดาห์นี้ ด้าน สทศ.ยันไม่เลื่อนสอบเพราะหวัดระบาดแน่ แต่อนุญาตให้คาดหน้ากาก-พกผ้าเช็ดหน้าเค้าสอบได้

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันที่ 9 ก.ค. นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เดินทางไปยังตรวจอาคารวรรณสรณ์ พญาไท ซึ่งเป็นอาคารที่มีสถาบันกวดวิชาเปิดดำเนินการอยู่จำนวนมาก หลังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะขอความร่วมมือให้ปิดทำการเรียนการสอนสถาบันกวดวิชาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่ 2009

โดยนายอนุสรณ์ ศิวะกุล นายกสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชา กล่าวว่า ได้มีการหารือกันด้วยวาจาระหว่างเจ้าของสถาบันกวดวิชาด้วยกัน คงไม่มีปัญหาหาก สธ.ต้องการให้ปิดสถาบันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เพียงแต่ขอให้ สธ.มีข้อมูลและตัวเลขยืนยันชัดเจนว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เกิดจากสถาบันกวดวิชาจริงๆ เพราะสิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือในประเทศไทยมีการแพร่ระบาดในวงกว้าง และจากข้อมูลที่มีออกมาสถาบันกวดวิชาไม่ใช่แหล่งแพร่ระบาดหรือเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่อย่างใด

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยได้ข้อมูลจาก สธ.เลย ข้อมูลที่เราได้รับมาจากการประสานงานกับผู้ปกครองแทบทั้งสิ้น ซึ่งในส่วนของเด็กที่มาเรียนที่อาคารแห่งนี้ มีเด็กจาก ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาชั้น ม.4 จำนวน 1 คน ที่เด็กติดหวัดมาจากที่อื่น มีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว และไปหาหมอ จากนั้นทางผู้ปกครองจึงได้แจ้งให้ทางสถาบันกวดวิชาทราบว่าเด็กติดเชื้อไข้หวัด 2009 เพราะกลัวว่าจะนำเชื้อมาแพร่ในอาคาร ซึ่งทางสถาบันก็ได้เฝ้าระวังเด็กที่นั่งใกล้เคียงกับเด็กคนนี้นับสิบรายแต่ก็ไม่พบว่ามีเด็กมีอาการไข้

“หาก สธ.เห็นว่าสถาบันกวดวิชาเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาด ก็อยากให้ สธ.ติดตามร่องรอยการติดเชื้อของผู้ป่วยเป็นรายกรณี เพื่อวางแผนป้องกันการแพร่ระบาด และ สธ.ก็ต้องทำอย่างเป็นรูปแบบ เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดให้ได้ผลอย่างจริงจัง ไม่ใช่ทำเป็นไฟไหม้ฟาง หรือโยนบาปให้หน่วยงานใดรับผิดไป หรือให้ข้อมูลกลับไปกลับมา ตอนแรกก็บอกไม่จำเป็นต้องปิด แต่ถึงตอนนี้บอกให้ปิดอีกแล้ว เพราะตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะเราปล่อยปละละเลยเกินไป กระทั่งมีเด็กติดเชื้อหวัด 2009 ใน ร.ร.เซนต์คาเบรียลจึงได้มีมาตรการเข้มข้นขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากนี้ ขอให้ผู้ที่ออกมาแถลงข่าวของ สธ.เป็นผู้ที่มีความรู้และมีข้อมูลชัดเจน ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องปิดสถาบันกวดวิชาก็พร้อมจะดำเนินการ”

นายกสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชา กล่าวอีกว่า หากมีการปิดสถาบันกวดวิชา 2 สัปดาห์จริง ผู้เรียนจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้เรียนและสถาบันฯ ได้วางแผนการเรียนการสอนไว้แล้ว และในสัปดาห์นี้เด็กก็ต้องสอบ GAT และ PAT แม้จะมีการเปิดสอนชดเชยก็อาจจะไม่ทัน
 
ทั้งนี้ ภายในอาคารวรรณสรณ์มีสถาบันกวดวิชาเปิดทำการสอนอยู่ประมาณ 20 แห่ง ซึ่งในวันจันทร์-ศุกร์ช่วงเวลา 17.00-20.00 น.จะมีเด็กหมุนเวียนประมาณ 10,000 คนต่อวัน ส่วนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีเด็กหมุนเวียน ประมาณ 40,000-50,000 คนต่อวัน ซึ่งการป้องกันเบื้องต้นภายในอาคารวรรณสรณ์จะมีเจลล้างมือแจกให้เด็กที่เข้ามาในอาคาร และมีหน้ากากอนามัยให้กับผู้ที่มีอาการหวัด และหากพบว่าเด็กมีอาการไข้หวัดก็จะให้หยุดเรียนทันทีโดยจะจัดสอนชดเชยให้เป็นรายบุคคล

ด้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวย้ำว่าสถาบันกวดวิชาเป็นแหล่งแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเฉพาะนักเรียนจากจังหวัดอุบลราชธานีที่ป่วยรายล่าสุดก็ติดเชื้อมาจากสถาบันกวดวิชา จึงได้สั่งปิดโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าวเป็นการชั่วคราวแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือจากโรงเรียนกวดวิชาที่สยามสแควร์ และพญาไท ให้ปิดเรียนในช่วงวันหยุดยาวก็ได้รับความร่วมมือด้วยดี ส่วนการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคดังกล่าวในโรงเรียนนั้น ได้ย้ำให้โรงเรียนคอยสังเกตนักเรียนว่า มีใครที่มีไข้ ตัวร้อนก็ให้หยุดเรียนไว้ก่อนและไปสอนชดเชยให้ในวันหลัง

ในขณะที่ ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวถึงการสอบความถนัดทั่วไปและความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ หรือ GAT และ PAT ในวันที่ 11-12 กรกฎาคมนี้ โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนการสอบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แน่นอน เพราะจะกระทบกับการสอบและการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยทั้งระบบ

อย่างไรก็ตาม นักเรียนที่ป่วยเป็นไข้หวัดก็ต้องพิจารณาว่าจะสามารถมาสอบได้หรือไม่ หากมาไม่ได้ก็ยังมีการสอบได้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนที่การสอบจะเป็นการรวมนักเรียนจำนวนมากนั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ต่างจากการไปศูนย์การค้า ดังนั้น นักเรียนแต่ละคนจะต้องรู้วิธีป้องกันตัวเอง โดยสามารถสวมหน้ากากอนามัยหรือพกผ้าเช็ดหน้าเข้าห้องสอบได้ แต่ก็ต้องให้ผู้คุมสอบตรวจสอบด้วย

ทั้งนี้ มีความพร้อมจัดการสอบ โดยข้อสอบได้ส่งถึงศูนย์สอบทั้งหมดแล้ว กระดาษคำตอบครั้งนี้จะพิมพ์ระบุชื่อผู้สอบ ดังนั้น ผู้ที่ไปผิดสนามสอบ ตามระเบียบจะไม่ให้สอบ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประธานศูนย์สอบ ส่วนปัญหาที่นักเรียนสอบถามมาก คือ พิมพ์บัตรเข้าสอบไม่ได้ ก็ได้ขึ้นคำแนะนำบนเว็บไซต์แล้ว แต่หากพิมพ์ไม่ได้ก็สามารถจดข้อมูลไว้ และใช้บัตรประชาชนหรือบัตรนักเรียนแสดงตัวเข้าสอบได้เช่นกัน ย้ำว่าควรวางแผนตรวจสอบข้อมูลให้ดี และพกบัตรแสดงตนไปด้วย สำหรับการสอบ GAT-PAT ครั้งนี้ มีนักเรียนสมัครสอบ 350,000 คน ในกว่า 100 สนามสอบทั่วประเทศ

กำลังโหลดความคิดเห็น