ยังตายรายวัน สธ.ขึ้นทะเบียนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อีก 3 ราย ส่วนรัฐบาลเตรียมใช้แผนเชิงรุกใช้รถโมบายล์ให้การรักษาประชาชนถึงบ้าน “วิทยา” ขู่ไม่ให้ความร่วมมือตามนโยบายป้องกันคงต้องใช้กฎหมายบังคับตัดสิทธิบางอย่าง คาดโทษแอลกอฮอล์ล้างมือปลอม ด้านผอ.สถาบันสุขภาพเด็กฯ เผยเด็กติดเชื้อหวัด 2009 อายุน้อยสุด 1 ปี
วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายที่ 19 โดยเป็นเด็กชายวัย 13 ปี เสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่ 5 กรกฎาคม และล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ.เปิดเผยว่า สธ.ขึ้นทะเบียนยืนยันผู้เสียชีวิตจากหวัด 2009 อีก 2 ราย
ผู้เสียชีวิตรายที่ 20 เป็นหญิงวัย 46 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 5 ก.ค.รักษาตัวอยู่ที่บ้านจนถึงวันที่ 10 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการไข้ขึ้นสูงและไอ แพทย์พบว่ามีอาการเป็นปอดบวม จึงได้ส่งไปยังโรงพยาบาลศูนย์แห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 12 ก.ค.โดยผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัว คือ โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ซึ่งรักษามาแล้วกว่าหกปี
ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 21 เป็นหญิงอายุ 53 ปี เป็นคนกรุงเทพฯ เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 1 ก.ค.เข้ารักษาในคลินิกแห่งหนึ่งด้วยอาการหวัด จากนั้นก็กลับบ้านและพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในวันที่ 6 ด้วยอาการไข้ ไอ หอบ เมื่อเอกซเรย์พบว่าปอดอักเสบรุนแรงทั้งสองข้าง เสียชีวิตในวันที่ 12 ก.ค.ในรายนี้มีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง
ส่วนจำนวนผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ ยืนยันพบเพิ่มขึ้นอีก 329 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,883 คนแล้ว มีผู้ป่วยที่อาการน่าเป็นห่วง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งหมด 10 คน
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า สธ.ได้เร่งรัดจัดทำข้อมูลรายชื่อผู้มีโรคประจำตัว 2.4 ล้านคน ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรง หากป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ก่อน โดยมอบให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 19 เขต รวบรวมจากสถานพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบ และตรวจสอบกับฐานข้อมูลของสปสช. ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีโรคประจำตัวกลุ่มนี้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โดยให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำที่ถูกต้องแก่ผู้ที่มีโรคประจำตัว และให้ทันเวลาที่การทดสอบวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เสร็จสิ้น พร้อมฉีดให้กับกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องได้รับวัคซีนต่อไป
“ขณะนี้มีประชาชนสอบถามข้อมูลโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ทางหมายเลข 0-2590-1994 และ 0-2590-3333 วันละกว่า 500 ส่วนใหญ่ถามเรื่องอาการ วิธีป้องกัน การรักษาพยาบาล และวัคซีน แสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจและต้องการข้อมูลที่หลากหลาย สธ.จึงเปิดสายด่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เพิ่มอีก 10 คู่สายทางหมายเลข 0-2590-1422 และให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ จัดบริการสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์แก่ประชาชนในพื้นที่ร่วมด้วย”นพ.ไพจิตร์กล่าว
ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะประธานคณะกรรมการระดับชาติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการวันพรุ่งนี้ จะเตรียมเสนอให้การป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำงานในเชิงรุกมากขึ้น และเสนอของบจำนวน 70 ล้านบาท จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นงบกลาง ในการประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดรถโมบายล์เคลื่อนที่จัดการรักษาให้ประชาชนถึงบ้านด้วย ขณะเดียวกัน จะจัดทำหน้ากากป้องกันอีก 10 ล้านชิ้น แจกจ่ายประชาชนให้ทั่วถึง
นอกจากนี้ รัฐบาลจะขอความร่วมมือ รพ.เอกชน ปรับลดค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษาไม่ให้เกิน 3,500 บาท ส่วน รพ.ของรัฐก็จะพยายามให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโรคนี้ฟรีด้วย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้เดินหน้ากิจกรรมคัดกรองหาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หน้าเสาธงในโรงเรียน ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและควบคุมโรค หลังพบว่ามีนักเรียนติดเชื้อเป็นจำนวนมาก โดยจะดำเนินการต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 15 วัน มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาประจำที่โรงเรียนและร่วมคัดกรอง หากพบนักเรียนป่วย มีไข้ ให้หยุดพักรักษาตัวที่บ้าน 7 วัน โดยไม่ถือเป็นวันขาดเรียน และจะประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ให้โรงเรียนมีการสอนชดเชยทุกวันเสาร์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปหารือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการทั่วประเทศให้มีการให้ความรู้และคัดกรองผู้ป่วยในโรงงานทุกระดับชั้น เพราะเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีความเสี่ยง
นอกจากนี้ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ.เดินทางเข้าเยี่ยมเด็กที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งเข้ารับการรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กฯ จำนวน 3 ราย โดยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงเนื่องจากรายหนึ่งมีภาวะสมองอักเสบ ส่วนอีก 2 ราย มีโรคประจำตัวเป็นหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ลูคีเมีย โดยทั้งหมดมีอาการดีขึ้น
นายวิทยา กล่าวว่า การที่สธ.มีการรณรงค์ให้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลสวมหน้ากากทุกคน จะช่วยลดยอดผู้ป่วยเพราะจะทำให้ผู้มาติดต่อไม่ติดเชื้อ รวมถึง การคัดกรองนักเรียนที่มีอาการไข้หน้าเสาธง หากพบนักเรียนป่วยให้กลับบ้าน ซึ่งการที่นักเรียนป่วยพักฟื้นอยู่ที่บ้าน พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องระมัดระวังตัวให้ดีไม่ให้ติดเชื้อต่อจากเด็ก เนื่องจากนักระบาดวิทยามีการคาดการณ์ว่า ภายในเดือนหน้ากลุ่มที่จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009มากที่สุดคือกลุ่มผู้ปกครอง เพราะจะติดเชื้อจากนักเรียนที่เป็นบุตรหลาน ซึ่งมีจำนวนติดเชื้อมากที่สุดอยู่ในขณะนี้
นายวิทยา กล่าวต่อว่า การที่สธ.รณรงค์ให้มีการสวมหน้ากากอนามัยในการเข้าชมคอนเสิร์ตปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากครั้งก่อนที่ตนไปแจกหน้ากากอนามัยที่บริเวณหน้าคอนเสิร์ตมีคนใส่เพียง 30 % แต่เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ไปแจกอีกครั้งมีคนใส่มากถึง 70% อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือผู้จัดการคอนเสิร์ตรณรงค์ให้คนใส่หน้ากากอนามัยในการเข้าชมมากกว่านี้ ส่วนสนามมวยได้รับความร่วมมืออย่างดีเช่นกัน สนามมวยหลายแห่งห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยเข้าชมการแข่งขันมวย
“สธ.ไม่อยากใช้กฎหมายในการบังคับให้หน่วยงานต่างๆต้องทำตามมาตรการที่มีการเสนอ เพราะจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ออกมามาก โดยระบุว่าเป็นการลิดรอนสิทธิ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาของประเทศไทยอยู่ในระดับ 2 จาก 5 ระดับ คือมีอัตราการป่วยตายไม่เกิน 0.5 % แต่หากประชาชนหรือหน่วยงานต่างๆไม่ให้ความร่วมมือในการช่วยป้องกันเพื่อชะลอการแพร่ระบาด สถานการณ์อาจยกระดับเป็น ระดับ 3 คือมีอัตราป่วยตาย 0.5-1 % เมื่อถึงเวลานั้นอาจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย ด้วยการตัดสิทธิบางอย่างของประชาชน”นายวิทยากล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ก.ค.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยจะมีการขอความร่วมมือให้กรมการขนส่ง แจ้งไปยังผู้ประกอบการรถตู้โดยสารทุกรายให้เตรียมหน้ากากอนามัยไว้แจกให้กับผู้โดยสารทุกราย เนื่องจากประชาชนต้องใช้เวลาในการโดยสารแต่ละวันเป็นเวลานาน
ส่วนที่จังหวัดชัยภูมิเด็กนักเรียนชั้น ม. 3 และ ม. 6 หลายคนที่เพิ่งกลับจากการเข้าค่ายปฏิบัติธรรม มีไข้สูง ปวดเมื่อย และเจ็บคอ เข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล ต้องเร่งเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมแยกตัวนักเรียนที่ต้องสงสัย ไปกักตัวไว้ รอดูอาการ
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงการผลิตเจลแอลกอฮอล์ปลอมออกมาวางขาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะการล้างมือเป็นวิธีการกำจัดเชื้อโรคทุกชนิดไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ที่ได้ผลกว่าร้อยละ 80 โดยเฉพาะเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ จากการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิชาการพบว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ ติดมาจากการสัมผัสเชื้อที่ปนเปื้อนในสารคัดหลั่งของผู้ป่วยทางมือ มากกว่าการติดทางการหายใจ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงได้เน้นมาตรการการใส่หน้ากากอนามัยและการล้างมือ เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการต่อสู้ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ โดยสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและสอดส่อง หากพบมีการทำผิดให้ลงโทษอย่างเด็ดขาด
ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ล้างมือที่ไม่ต้องใช้น้ำ มีทั้งแบบที่เป็นเจลและแบบสเปรย์ หากต้องการประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ต้องเลือกที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอนเชื่อถือได้ เพราะหากมีปัญหาสามารถติดต่อหาผู้รับผิดชอบได้ และต้องมีฉลากภาษาไทย แสดงชื่อผลิตภัณฑ์ สารที่ใช้เป็นส่วนผสม ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า วันเดือนปีที่ผลิต วิธีใช้และปริมาณสุทธิ ทั้งนี้ ผู้ที่ผลิตเจลหรือสเปรย์ปลอม จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ
ด้านพญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ป่วยที่โรงพยาบาลรับเป็นผู้ป่วยในทั้งสิ้น 40 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 12 ราย คิดเป็น 30 % ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 ราย แบ่งเป็น 1.ผู้ป่วยอาการหนัก จำนวน 2 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยมีภาวะสมองอักเสบร่วมด้วย และมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด 2.ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว จำนวน 4 ราย ได้แก่ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด มะเร็งเม็ดเลือดขาว สมองพิการแต่กำเนิด และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และ3.ผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 2 ปี จำนวน 4 ราย
พญ.ศิราภรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีอายุ 10 เดือน – 12 ปี อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 ปี โดยในกลุ่มที่เป็นผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อายุจะอยู่ระหว่าง 1 – 11 ปี โดยผู้ป่วยที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 1 ปี มีอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นักเรียนที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 6 คน ขณะนี้ นักเรียน 4 คน หายป่วย กลับมาเรียนได้ตามปกติแล้ว ส่วนอีก 2 คน ยังคงเฝ้ารอดูอาการขณะที่โรงเรียนกวดวิชาในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เริ่มปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เป็นเวลา 15 วันแล้ว ตามมติของคณะรัฐมนตรีเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยได้ทำหนังสือแจ้งเปลี่ยนแปลงตารางสอนให้นักเรียนทุกคนทราบล่วงหน้าแล้ว