“อิสสระ” แจงไทยไม่หย่อนปราบค้ามนุษย์ อาเซียนชมเปาะ แฉทำคดีช้าเหตุมีวิ่งเต้น

“อิสสระ” เผยไทยไม่นิ่งนอนใจปัญหาค้ามนุษย์ รับแก้ปัญหาอยู่ในระดับปานกลางไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ชี้ประเทศกลุ่มอาเซียนชมเปาะ สั่งเจ้าหน้าที่ศึกษาข้อมูลก่อนส่งรายงานแจงอเมริกาโดยเร็ว ในด้านคดีเตรียมประสาน ยธ.-สตช.เร่งรัดดดี แฉมีขบวนการวิ่งเต้นเปลี่ยนรูปคดีทำดำเนินคดีล่าช้า

จากการที่เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่รายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ.2552 พร้อมระบุว่า ความพยายามของรัฐบาลไทยในการปราบปรามการค้ามนุษย์ยังไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำ ในฐานะเป็นประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทางสำหรับการค้าผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กเพื่อการบังคับใช้แรงงานและการแสวงประโยชน์ทางเพศนั้น รัฐบาลไทยยังไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำอย่างเต็มที่ในการกำจัดการค้ามนุษย์นั้น

ล่าสุด วันนี้ (2 ก.ค.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า รัฐบาลไทยและกระทรวง พม.ได้ให้ความสำคัญการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์มาโดยตลอด และจากรายงานการค้ามนุษย์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประเมินการทำงานของประเทศไทยให้อยู่ในกลุ่มที่สองนั้น ตนขอชี้แจงว่า การประเมินการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศต่างๆ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 ดีเยี่ยม กลุ่ม 2 ปานกลาง และกลุ่ม 3 ต่ำกว่ามาตรฐาน ทั้งนี้ในส่วนการดำเนินการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของประเทศไทยในปี 2552 นี้ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่ 2 ซึ่งเท่ากับปี 2551 และในปีนี้ ประเทศไทยก็ได้รับคำชมจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนว่า มีการมาตรฐานในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ดีขึ้น ทั้งเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ.2551 รวมทั้งการช่วยเหลือดูแลเยียวยาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์มีการฝึกอาชีพก่อนส่งกลับประเทศต้นทาง ทั้งนี้คงต้องมาดูในรายละเอียดของรายงานฯ จากประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่งว่าเหตุใดจึงประเมินว่าประเทศไทยปราบปราบการค้ามนุษย์ยังไม่ได้มาตรฐานขั้นต่ำ

“ผมจะดูรายละเอียดของรายงานการค้ามนุษย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทำรายงานการดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ชี้แจงประเทศสหรัฐอเมริกาให้เร็วที่สุด เพราะรัฐบาลไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ และเชื่อว่าปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหรัฐอเมริกา”นายอิสระ กล่าว

นายอิสสระกล่าวอีกว่า ในรายงานฯ ที่ระบุว่าขั้นตอนเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนและดำเนินดคีกับผู้ที่ทำความผิดการค้ามนุษย์ยังล่าช้านั้น ตนยอมรับว่าความผิดการค้ามนุษย์นั้นเป็นคดีอาญา การสืบสวนสอบสวน การสอบปากคำเพื่อหาพยานหลักฐานต่างๆ ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ก่อนส่งให้ศาลตัดสิน ในส่วนนี้ตนจะหารือกับกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาวิธีในการลดขั้นตอนการดำเนินดดีการค้ามนุษย์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

อีกปัญหาหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์คือ มีขบวนการวิ่งเต้นเปลี่ยนรูปคดีของผู้ต้องหา จากคดีค้ามนุษย์ ปเป็นความผิดการค้าประเวณี หรือค้าแรงงานต่างด้าว เพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษของกฎหมายค้ามนุษย์ซึ่งจะมีโทษหนักกว่า ซึ่งจะต้องหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

เมื่อถามว่า กระทรวงแรงงานจะเปิดให้แรงงานต่างด้าวใต้ดินกว่า 2 ล้านคนมาลงทะเบียนแรงงาน และอาจมีแรงงานบางส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์จะมีมาตรการป้องกันอย่างไร นายอิสสระ กล่าวว่า ยอมรับว่าแรงงานต่างด้าวหลายคนก็ถูกหลอกโดยขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งจะใช้วิธีแรงงานบังหน้า ที่ผ่านมาประเทศไทยก็เปิดให้แรงงานต่างด้าวลงทะเบียนมาตลอด ปัญหาที่เกิดขึ้นคือภายหลังที่แรงงานต่างด้าวมาลงทะเบียนมีรายชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่พอตรวจสอบภายหลังกลับไม่พบตัวตนของแรงงานดังกล่าว ซึ่งอาจจะถูกหลอกไปค้ามนุษย์ ทำให้การแก้ปัญหาค้ามนุษย์เกิดความยากลำบากขึ้น ทั้งนี้ตนจะประสานไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อเพิ่มความเข้มงวดการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว และควรเพิ่มมาตรการตรวจสอบว่าแรงงานดังกล่าวมีตัวตนและได้ทำงานจริงในสถานประกอบการที่จดทะเบียนไว้หรือไม่