ขรก.กทม.แห่ขอรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเพียบ

เริ่มแล้วโครงการปรับหนี้บัตรเครดิตให้ข้าราชการลูกจ้างกทม.คนแห่ขอรีไฟแนนซ์เพียบ ขณะที่ธนาคารอิสลาม-ออมสินพร้อมให้ความร่วมมือหน่วยงานอื่นปรับหนี้ให้ ขรก. “ธีระชน” เผยอนุมัติเงินยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพไปแล้วกว่า 30 ล้าน

วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมาหนคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส กลุ่มลูกค้าบุคคล และนายพงศธร คุณานุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง โครงการปรับหนี้ (Refinance) บัตรเครดิตของข้าราชการ และลูกจ้าง กทม. โดยโครงการดังกล่าวจะให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและผ่อนชำระในระยะยาวแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อปรับหนี้บัตรเครดิตให้ข้าราชการและลูกจ้าง กทม.

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับเงื่อนไขในการผ่อนชำระของธนาคารออมสิน คือ ให้กู้รายละไม่เกิน 40 เท่าของเงินเดือน หรือไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 6.60 โดยข้าราชการหรือลูกจ้างตั้งแต่ระดับ 1-7 ต้องมีผู้ค้ำประกัน ส่วนระดับ 8 ขึ้นไปไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และไม่กำหนดวงเงินในการรับซื้อหนี้บัตรเครดิต ขณะที่ธนาคารอิสลามฯ จะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 8 ต่อปี กรณีเป็นข้าราชการไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน หากเป็นลูกจ้างต้องให้ข้าราชการระดับ 3 ขึ้นไป เป็นผู้ค้ำประกัน โดยกำหนดวงเงินในการรับซื้อหนี้บัตรเครดิตไว้ จำนวน 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ ข้าราชการ และลูกจ้าง กทม. ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนได้ทันทีในวันเปิดงาน ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น. โดยจะได้รับการพิจารณาเป็นกลุ่มแรก ซึ่งธนาคารจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ หากไม่สามารถยื่นเอกสารภายในวันงานได้สามารถติดต่อขอสินเชื่อโดยตรงที่ธนาคารทั้งสองแห่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์กองการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร www.bangkok.go.th/pdd โทร.0-2224-3001, 0-2224-5393

นอกจากนี้ กทม.ยังเปิดโครงการบ้านยิ้มระยะ 2 ให้ข้าราชการและลูกจ้าง กทม.ได้เลือกซื้อที่อยู่อาศัย ปลูกบ้าน ซ่อมบ้าน หรือทำสัญญาเงินกู้ใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต่อปี ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี โดยผู้ประสงค์จะขอใช้สิทธิให้ยื่นแบบคำขอใช้สิทธิได้ที่หน่วยงานต้นสังกัดภายในวันที่ 26 มิ.ย.52 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย กทม. โทร.0-2538-9538, 0-2538-8067

ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารทั้ง 2 แห่งยินดีที่จะให้หน่วยงานราชการอื่น รัฐวิสาหกิจ ที่สนใจโครงการนี้นำโครงการไปใช้ รวมทั้งบริษัทมหาชน ทาง 2 ธนาคารก็แสดงความสนใจ นอกจากนี้ทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยสนใจให้ผู้ขับขี่รถจัรยานยนต์รับจ้างเข้าร่วมโครงการปรับหนี้ซึ่งจะหารือในรายละเอียดต่อไป

นายธีระชนยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งได้จัดโครงการให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อกู้เงินดอกเบี้ยต่ำไปประกอบอาชีพว่า จากที่มีผู้ยื่นเอกสารกู้เงินประมาณ 5,000 คน ซึ่งขณะนี้ธนาคารได้อนุมัติไปแล้วเพียง 700 รายมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่ล่าช้าส่วนหนึ่งมาจากการยื่นเอกสารไม่ครบ และขั้นตอนการยื่นตรวจสอบเครดิตบูโร ซึ่งทางธนาคารออมสินแจ้งว่าอาจพิจารณาปรับไม่ต้องตรวจสอบเครดิตบูโร ส่วนธนาคารอิสลามอาจจะไม่ตรวจสอบเครดิตบูโนเช่นกัน เนื่องจากธนาคารออมสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารทั้ง 2 แห่งได้รายงานผลความคืบหน้าให้ตนทราบทุกวันที่ 5 ของเดือน สำหรับผู้ที่ยังยื่นเอกสารไม่ครบจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 31 ส.ค.2552 เพื่อจะได้เงื่อนไขดอกเบี้ยเดิมและใช้ผู้ค้ำประกัน 1 คนแต่หากหลังจากนี้จะต้องเพิ่มผู้ค้ำประกันอีก 1 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีผู้ข้าราชการลูกจ้าง กทม.ให้ความสนใจเดินทางลงทะเบียนยื่นขอปรับหนี้บัตรเครดิตกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสอบถามส่วนใหญ่ดีใจที่มีโครงการนี้ขึ้นมา