xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” เต้นโผ คกก.พัฒนาระบบยาฯ เตรียมเรียก 3 ยี้คุยตัวต่อตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ.
“วิทยา” รับแก้โผคณะกรรมการพัฒนาระบบยาฯ หากกังวลไม่เหมาะสม เตรียมเรียกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3 รายมาคุยด้วยตัวเอง พร้อมสั่งรื้อร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างความสัมพันธ์ฯ หลังถูกแก้ตั้งแต่ชื่อยันเกณฑ์การเยียวยา เน้นประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายผู้บริโภค นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นางปรียานันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ นายสุบิน นกสกุล ประธานชมรมเพื่อนโรคไตได้เข้าพบ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือเรื่องความโปร่งใสของการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ โดยใช้เวลาหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง

น.ส.สารี กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายวิทยา ทบทวนการรายชื่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบยาฯ ทั้ง 10 คน ใหม่ เพราะ ในจำนวนนี้ มี 3 คน ที่มีประวัติ หรือ มีพฤติการณ์ที่ส่อว่าจะขัดกับเจตนารมณ์ของการเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ที่มีหลักการว่ากรรมการจะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเรื่องยา การคุ้มครองผู้บริโภค และต้องมาจากองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร โดยรายแรก มีประวัติพัวพันกับคดีทุจริตยา ซึ่งมี นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องโทษจำคุก รายที่ 2 ถูกคัดเลือกมาจากองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค และไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเป็นองค์กรที่ไม่แสวงกำไรหรือไม่ และรายที่ 3 ไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเรื่องยา ซึ่งหากตั้งคณะกรรามการตามโผรายชื่อนี้ อาจทำให้นายวิทยา ได้นรับความเสื่อมเสีย เพราะมีความไม่เหมาะสม

ขณะที่นางปรียานันท์ กล่าวว่า ขอความเป็นธรรมเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในระบบบริการสาธารณสุข พ.ศ. ... ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(สคก.)เรียบร้อยแล้ว และรอเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร์ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ ถูกแก้ไขจากร่างกฎหมายฉบับเดิมไปมาก โดยมีประเด็นขอให้ทบทวนและแก้ไข 3 เรื่อง คือ 1.ชื่อกฎหมาย จากเดิมใช้ ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากระบบบริการสาธารณสุข พ.ศ.... เพรามีเจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วย 2.สัดส่วนของคณะกรรมการจ่ายเงินชดเชยความเสียหาย ที่มีการเพิ่มโควต้าเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งไม่เป็นธรรม ควรมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆอย่างเท่าเทียมกัน

นางปรียานันท์ กล่าวต่อว่า 3.สำนักงานคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข จากในร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดิม กำหนดให้เป็นองค์กรอิสระ แต่ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ กำหนดให้เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สธ. แล4.กรณีเกิดความเสียหายขึ้นผู้ป่วยควรได้รับการชดเชยเยียวยาทันทีโดยไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ แก้ไขให้เพิ่มขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ทำให้การชดเชยล่าช้าไปอีก

นายวิทยากล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นรายชื่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ดังกล่าวแต่อย่างใด และยังไม่มี การเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย แต่เข้าใจว่ารายชื่อดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นผู้เสนอรายชื่อ และมีปลัด สธ.เป็นผู้พิจารณาเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม เพื่อความโปร่งใส ตนจะเชิญผู้ที่ถูกร้องเรียนทั้ง 3 ราย มาหารือด้วยตนเอง โดยสอบถามถึงข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และหากพบว่ามีหลักฐานยืนยันว่าเป็นจริงตามที่ร้องเรียน ตนจะสั่งให้ถอนรายชื่อออกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ทันที

“คนดีๆ ที่ทำงานของ สธ.มีเยอะ ขณะเดียวกัน คนที่ถูกกล่าวหาและไม่มีมูลความจริงก็ไม่ควรต้องมีมลทินไปตลอดชีวิต แต่หากเป็นความจริงก็ต้องสั่งให้ดำเนินคดี ดังนั้นจะต้องเรียกมาคุยเป็นรายบุคคลเป็นการส่วนตัวก่อน”นายวิทยากล่าว

นายวิทยากล่าวต่อว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ.เสริมสร้างความสัมพันธ์ฯ ได้มอบหมายให้ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ.รับหน้าที่พิจารณาแก้ไขรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ โดยให้ยึดหลักว่าประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด โดยจะต้องช่วยแก้ปัญหาการฟ้องร้องให้ลดลง ไม่สร้างความแตกแยก ซึ่ง นพ.ศิริวัฒน์ จะหารือร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพต่อไป ทั้งนี้ แม้ว่า สคก.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้แล้วก็ตาม แต่กระบวนการยังไม่สิ้นสุด จะต้องผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทบราษฎร ซึ่งมีการปรับแก้ไขเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น