“วิทยา” ปัดยื้อสอบปลัด สธ.กับพวกเอี่ยวทุจริตจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉิน ล่าช้าเหตุสอบลำบาก ต้องรอบคอบ โปร่งใส เป็นธรรม แถมมีขรก.นอกสังกัด สธ.นอกเหนืออำนาจ รมว.สธ. ระบุรอหารือปลัด สำนักนายกฯ ก่อนเพื่อขอแนวทางการดำเนินการตามกฎหมาย ภายใน 10 วัน
วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ว่านายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สรุปผลการสอบสวนโครงการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงของ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลค่า 340 ล้านบาท โดยให้ สธ.ดำเนินการ 3 แนวทาง คือ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน แจ้งความดำเนินคดี หรือส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน แต่จนถึงขณะนี้เลยกำหนดเวลาแล้ว
แต่ สธ.ยังไม่มีการดำเนินการตรวจสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใดนั้นว่า ได้ส่งหนังสือชี้แจงไปยัง สตง. ถึงเหตุผลที่ทำให้การตรวจสอบล่าช้าไปแล้ว และ สตง.ก็ไม่มีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนสาเหตุที่ยังไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบได้เนื่องจากข้าราชการที่มีชื่อต้องถูกตรวจสอบ คือ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ เป็นถึงระดับปลัด สธ. เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในกระทรวง ดังนั้น การที่ตนจะหารือกับข้าราชการใน สธ. เพื่อดำเนินการสอบสวนปลัด สธ.ทำได้ลำบาก ประกอบกับมีข้าราชการจากหน่วยงานอื่นนอกสังกัด สธ.ด้วย ซึ่งการจะดำเนินการเอาผิดจึงไม่สามารถดำเนินการได้เพราะอยู่นอกอำนาจของรัฐมนตรีสาธารณสุข
นายวิทยากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้ที่มีรายชื่อเป็นผู้กระทำผิดทั้งข้าราชการใน สธ. และข้าราชการนอกสังกัด สธ.ได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมาที่ตน ดังนั้น การดำเนินการสอบสวนจึงต้องทำด้วยความรอบคอบ ไม่อย่างนั้นอาจถูกร้องเรียนว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายได้ ดังนั้น ในเร็วๆ นี้ หารือกับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอแนวทางในการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 10 วัน นอกจากนี้ การดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ทุจริตโครงการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงของ สธ. ยังมี ป.ป.ช.ร่วมดำเนินการตรวจสอบด้วย จึงอยากให้ไปติดตามผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ด้วย
“ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้ยื้อ แต่การดำเนินการจะต้องทำด้วยความรอบคอบโปร่งใส ที่สำคัญเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตน คงไม่เอาภาระมาใส่บ่าตนเอง เพราะทุกอย่างต้องโปร่งใส ทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม ผมไม่มีมีหน้าที่มาล้างแค้นให้กับใครที่เขาเคยเข่นฆ่ากัน” นายวิทยา กล่าว
สำหรับรายชื่อข้าราชการที่ถูก สตง.ชี้มูลความผิด ประกอบด้วย นพ.ปราชญ์ บุณยวงวิโรจน์ ปลัด สธ. ในฐานะผู้อนุมัติจัดซื้อจัดจ้างรถพยาบาลฉุกเฉินฯ นพ.สุรวิทย์ เตชธุวานันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ในขณะนั้นเป็นประธานคณะกรรมการกำหนดคุณสมบัติรถพยาบาลฯ ซึ่งขณะนี้ลาออกจากราชการสังกัด สธ. นพ.มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ รองปลัดสธ.ในขณะนั้นเป็นประธานและคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างรถพยาบาลฯ และนพ.กิตติศักดิ์ กลับดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงในขณะนั้นเป็นประธานคณะกรรมการตรวจรับรถพยาบาลฯ ขณะนี้เกษียณอายุราชการแล้ว
นายวิทยา กล่าวถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิปรายในสภาเรื่องงบประมาณ สธ.กระจุกตัวอยู่บ้างจังหวัด เช่น นครศรีธรรมราช ตรัง สุราษฎร์ธานี และแพร่ ว่า คงเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะงบ สธ.มีประมาณ 20,000 ล้านบาท คงไม่สามารถจัดสรรอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้ และงบส่วนใหญ่ในขณะนี้เป็นงบสำหรับยกระดับสถานีอนามัย ให้เป็นโรงพยาบาลตำบล และจัดซื้อเครื่องแพทย์ ให้มีความทันสมัยขึ้น