ชาวป้อมมหากาฬกร้าว ฮือปิดล้อมพื้นที่ต้าน จนท.เข้ารื้อชุมชน

แกนนำชุมชนป้อมมหากาฬ ประกาศใช้มาตรการปิดล้อมพื้นที่ป้อมฯ ชี้เคยทำมาแล้วสมัย “สมัคร” เป็นผู้ว่าฯ ระบุจะกันคนเข้าทั้งหมดตั้งแต่นักท่องเที่ยวยันเจ้าหน้าที่รัฐ ห้ามเข้าในพื้นที่ ลั่นปิดล้อมเกินกว่า 1 ปีก็ทำได้หาก กทม.ไม่ยอมปรับท่าที

นายวิมล แดงสะอาด แกนนำชุมชนป้อมมหากาฬ ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ยืนยันที่รื้อย้ายชุมชนป้อมมหากาฬว่า อาจจะมีการปิดพื้นที่ป้อมมหากาฬทั้งหมดเพื่อเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวหรือเจ้าหน้าที่รัฐรวมทั้งบุคคลเข้าไปในพื้นที่ได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวชาวชุมชนเคยกระทำมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2546 สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม.และคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน เป็นปลัด กทม. ซึ่งช่วงนั้นนายสมัครและคุณหญิงณัษฐนนท ให้นโยบายร่วมกันที่จะรื้อย้ายชุมชนทั้งหมดออกจากพื้นที่ด้วยการอ้างเหตุผลด้านกฎหมายเวนคืนที่ดินเช่นเดียวกัน โดยเริ่มต้นด้วยการย้ายท่าเรือผ่านฟ้าจากเดิมที่ตั้งอยู่ฝั่งติดกับตัวป้อมมหากาฬซึ่งสมัยนั้นเป็นแหล่งทำมาหาเลี้ยงชีพของชาวชุมชนไปอยู่บริเวณฝั่งซ้ายของคลองแสนแสบในปัจจุบัน รวมทั้งจะปิดถนนมหาไชยบริเวณหน้าป้อมมหากาฬเพื่อไม่ให้ประชาชนทั่วไปรับรู้ว่ากำลังมีการรื้อย้ายชุมชนป้อมมหากาฬ ชาวชุมชนจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการปิดพื้นที่ป้อมมหากาฬทั้งหมดเพื่อป้องกันสิทธิตัวเองเพราะไม่สามารถไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐได้

“ครั้งนั้นมีการปิดตายพื้นที่ถึง 6 เดือน จนกระทั่งเปิดพื้นที่อีกครั้งในวันที่ 12 สิงหาคม ส่วนครั้งนี้หากมีความจำเป็นเราอาจจะปิดตายนานกว่านั้นก็ได้คือ 6 เดือนหรือ 1 ปี ขึ้นอยู่กับท่าทีของ กทม.” นายวิมล กล่าว

นายวิมลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีอีกมาตรการหนึ่งคือการรวมพลชาวชุมชนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกับชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งทางชุมชนมีเครือข่ายกับทางกลุ่มออมทรัพย์ของชุมชนเมืองที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ โดยใน กทม.นั้นมีเครือข่ายอยู่ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขตซึ่งตนมั่นใจว่าหากหารือกับชาวชุมชนและเครือข่ายทั้งหมดแล้วเห็นพ้องต้องกันก็จะผนึกกำลังรวมตัวกันไปทวงถามต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังศาลาว่าการ กทม.เพราะไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนจนเลย