xs
xsm
sm
md
lg

กทม.งัดสเปก BRT ขั้นเทพข่ม ขสมก.หยันเทียบกันไม่ติด ยันเดินหน้าต่อแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กทม.งัดสเปกรถ BRT โชว์ขั้นเทพกว่าเมล์ ขสมก.“ธีระชน” ยันพร้อมบริหารงานหากรับโอน ขสมกเพราะศึกษาแม่บทจราจรมา 4 ปีเต็ม ขณะที่ DSI ส่งสัญญาณเดินหน้าโครงการ BRT ต่อได้ ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ส่วนที่มีปัญหาปล่อยให้ป.ป.ช.ชี้มูล ยัน 15 พ.ค.นี้ใช้บริการชัวร์

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีที่นายปิยะพันธ์ จำปาสุต ประธานคณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ระบุว่าการจัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษ(BRT) ของ กทม.แพงกว่าการเช่ารถเมล์ NGV ของ ขสมก.ว่า จากการตรวจสอบรายละเอียดสเปกรถ BRT เบื้องต้นนั้นปรากฎว่าวัสดุตัวรถทุกอย่างต้องป้องกันไฟซึ่งต่างจากรถเมล์ทั่วไป มีระบบดิสก์เบรกป้องกันความปลอดภัย มีไฮฟลอร์สำหรับผู้พิการที่นั่งวิลแชร์สามารถเข็นเข้ามาในตัวรถได้ มีกล้อง CCTV ติดตั้งภายในตัวรถ โครงสร้างตัวถังมาตรฐานเยอรมัน เครื่องยนต์ยูโรทรี บานประตูเปิด-ปิด กว้าง 1.5 เมตร ซึ่งต้องขึ้นรูปใหม่หมด ดังนั้น เมื่อเทียบสเปกกันแล้วมันเทียบกันไม่ได้เลยกับรถเมล์ทั่วไป กทม.ซื้อแพงไม่แพงเป็นเรื่องที่ต้องเอาสเปกมาเทียบกัน ซึ่งขณะนี้ทางสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) ได้เตรียมเอกสารชี้แจงไว้หมดแล้ว

นายธีระชน กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าจากเดิมที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าจะให้เปิดบริการเดินรถ BRT ในวันที่ 5 ธันวาคมปีนี้นั้น คงไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเราไม่กล้าเคลื่อนไหว เนื่องจากมีการร้องเรียนการจัดซื้อตัวรถกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่ขณะนี้ทางดีเอสไอได้ส่งสัญญาณมาว่าเรื่อง BRT ต้องให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ เรื่องที่มีคดีมีปัญหาก็ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล แต่ว่าวิธีการที่จะให้รถ BRT วิ่งได้นั้น เราได้ตัดสินใจให้กรุงเทพธนาคม (KT) เข้ามาบริหารจัดการเดินรถโดยมีหน้าที่ต้องหารถมาวิ่งเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งตนเชื่อว่าคณะผู้บริหารกรุงเทพธนาคารจะดำเนินการด้วยความรอบคอบเกิดประโยชน์สูงสุด

ส่วนการจัดซื้อตัวรถหาก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าผิดเราพร้อมยกเลิก แต่หากโปร่งใส กทม.ก็พร้อมรับรถล็อตนี้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 จะต้องมีรถ BRT วิ่งให้บริการแน่นอน

นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อโครงการจัดซื้อตัวรถมีปัญหากทม.ก็ไม่ดันทุรังแต่รอให้ ป.ป.ช.ชี้มูล ถ้าผิดเรายกเลิก ถูกเราพร้อมรับแต่ประชาชนต้องไม่เสียประโยชน์มีโครงสร้างสถานีแต่เดินไม่ได้ใช้ ส่วนค่าซ่อมบำรุงรถ BRT 3 ปีนั้น เพียง 1 ล้านบาทเท่านั้นไม่ใช่ 1.6 ล้านบาท ขณะที่การบริหารงานหากได้รับโอน ขสมก.เข้ามาดูแล กทม.ยืนยันว่าเราพร้อมดำเนินการเพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาตนได้ศึกษาแผนแม่บทการจราจรที่นายคำรบลักข์ สุรัสวดี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.สมัย นายพิจิตต รัตตกุล ได้เขียนไว้มาอย่างละเอียดจึงเชื่อมั่นว่า กทม.บริหารได้

นายจุมพล สำเภาพล ผอ.สจส.กทม. กล่าวว่า การออกมาให้ข้อมูลของบางคนเกี่ยวกับการจัดซื้อและการซ่อมบำรุงรถประจำทางด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) ที่มีราคาแพงกว่ารถเมล์เอ็นจีวีขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงตามข้อเท็จจริง จึงขอชี้แจงว่าราคาจัดซื้อและซ่อมบำรุงไม่ได้สูงเกินจริงแต่อย่างใด

นายจุมพล กล่าว่า กทม.มีโครงการจัดซื้อรถ BRT ทั้งสิ้น 45 คัน ในราคาคันละกว่า 7 ล้านบาท โดยมีค่าซ่อมบำรุงปีละกว่า 3 แสนบาทต่อคัน หรือเฉลี่ยคันละเพียง 900 บาทต่อวัน ซึ่ง กทม.ใช้ระบบเหมาจ่ายเป็นเวลา 3 ปี ขณะที่รถเมล์เอ็นจีวีต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงสูงถึงคันละกว่า 2,000 บาทต่อวัน ขณะเดียวกันได้กำหนดเงื่อนไขด้วยว่า หากไม่สามารถซ่อมเสร็จตามเวลาที่กำหนด จะมีโทษเสียค่าปรับสูงถึงวันละ 4 หมื่นบาท ซึ่งมากกว่ารถเมล์เอ็นจีวีที่คิดค่าปรับเพียงวันละ 5,000 บาทเท่านั้น

นายจุมพล กล่าวว่า เหตุที่รถ BRT มีราคาสูงกว่ารถเมล์เอ็นจีวี เนื่องจากสั่งผลิตในจำนวนน้อยกว่าและมีคุณสมบัติสูงกว่ารถเมล์เอ็นจีวีในทุกด้าน โดยรูปลักษณ์ภายนอกออกแบบให้มีความลู่ลมตามหลักกลศาสตร์ (แอโรไดนามิก) คล้ายกับรถไฟฟ้าบีทีเอส เพราะต้องขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงและมีช่องทางวิ่งเฉพาะ และเครื่องยนต์ที่ใช้ในรถ BRT เป็นไปตามมาตรฐานยูโรทรี ซึ่งมีมลภาวะน้อยกว่ารถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก.ที่ใช้เครื่องยนต์ยูโรทูเท่านั้น และมี 6 เกียร์ ไม่ใช่ 4 เกียร์เหมือนรถเมล์ นอกจากนี้ ยังใช้แชสซีที่ผลิตจากประเทศเยอรมนี ซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่า ส่วนระบบห้ามล้อจะใช้ทั้งระบบอีบีเอส (อิเล็กทรอนิกส์ เบรก ซิสเต็ม) ควบคู่กับระบเอบีเอส (แอนตี้ล็อก เบรก ซิสเต็ม) รวมทั้งระบบป้องกันล้อหมุมฟรี และใช้ระบบกันสะเทือนเป็นระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ

นายจุมพล กล่าวต่อว่า สำหรับการออกแบบระบบความปลอดภัยภายในรถได้เลือกใช้วัสดุป้องกันการติดไฟ ทั้งหมด และมีกล้องบันทึกภาพที่เก็บข้อมูลย้อนหลังได้ถึง 72 ชั่วโมง อีกทั้งมีระบบนำทางอัตโนมัติ ทำให้รถ BRT สามารถจอดเทียบชานชาลาในระยะห่างไม่เกิน 7 เซนติเมตร จึงให้ความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสาร
กำลังโหลดความคิดเห็น