“จุรินทร์” สั่ง สพฐ.สำรวจจานดาวเทียม 12,000 แห่ง เพื่อต่อยอดจานดาวเทียมวังไกลกังวล หลังพบ ร.ร.ใน จ.สุพรรณฯ เด็กมีคะแนน O-NET เพิ่ม ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู จัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย พร้อมเป็นแบบอย่าง “ไม่สูบบุหรี่” แจงบุหรี่ชนวนให้เด็กก้าวไปสู่ยาเสพติด
วันนี้ (20 พ.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานการการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ (ผอ.สพท.) กล่าวว่า ขอให้ ผอ.สพท.ผู้อำนวยการสถานศึกษา เร่งดำเนินการนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพให้ครบ 100% โดยเร็ว ขณะเดียวกัน ขอให้ติดตามผลการดำเนินการว่ามีจุดบกพร่องตรงไหนจะได้นำมาปรับปรุงในปีถัดไป ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าประชาชนโครงการเรียนพึ่งพอใจมาก ซึ่งมีประชาชนห่วงว่าจะยกเลิก ขอยืนยันว่า ทำต่อไม่ล้มเลิก ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณปี 2553 ให้ ศธ.3.5 แสนล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญด้านการศึกษา นอกจากนี้ยังฝากให้ไปทำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัด กลุ่มจังหวัด รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ขอให้ทุกเรื่องที่ฝากไปเป็นการบ้านนั้น ผู้บริหารสถานศึกษา ผอ.สพท.ต้องรายงานความคืบหน้าทุกๆ 3 เดือน ในปีหน้าจะเน้นต่อยอดเรื่องคุณภาพการศึกษา ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการปฏิรูปการศึกษารอบสอง โดยจะต้องมีรูปธรรมและสามารถชี้วัดได้ ทั้งนี้จะนำเทคโนโลยีการศึกษาเข้ามาช่วยพัฒนาการศึกษา โดยมีโรงเรียนวังไกลกังวล ที่ อ.หัวหิน เป็นต้นแบบ และใช้จานดาวเทียมที่โรงเรียนเคยได้รับมอบ 10,000 จานมาใช้ ในโรงเรียนห่างไกล 12,000 แห่ง
“ขณะนี้ ให้ สพฐ.ไปสำรวจว่าจานดาวเทียมที่มีอยู่นั้นใช้งานได้อยู่จำนวนเท่าไหร่ เพราะการเรียนผ่านดาวเทียมสามารถประหยัดเงิน แก้ปัญหาขาดครูวิชาหลัก เพราะระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม สอนวิชาหลัก อังกฤษ ไทย คณิต วิทย์ และสังคม อีกทั้ง ศธ.มีงบ อี-เลิร์นนิง 300 ล้านบาท ซึ่งเราจะนำมาต่อยอดระบบจานดาวเทียมวังไกลกังวล เพราะพบว่าโรงเรียนในจังหวัดสุพรรณบุรี รับถ่ายทอดจากวังไกลกังวล ปรากฏว่าผล O-Net เพิ่มขึ้น”
จากนั้น นายจุรินทร์ กล่าวถึงโรงเรียนเอกชนว่า ปีการศึกษา 2552 ค่าเทอมของโรงเรียนเอกชนต้องลดลงร้อยละ 10 เพราะรัฐบาลได้จ่ายเงินอุดหนุนให้จากเดิมร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ดังนั้น ผู้ปกครองจะรับภาระจ่ายเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น ถ้าพบว่าโรงเรียนแห่งไหนยังไม่ปรับลดค่าเทอมลง ขอสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) เข้าไปดำเนินการ
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า การพัฒนาโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และทุกสังกัด ให้เป็นโรงเรียน 3 ดี (3 D) ได้แก่ 1.การส่งเสริมประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมทั้งปลูกฝังการต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียงให้แก่เด็กและเยาวชน 2.ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ส่งเสริมความดีงามและความภูมิใจในความเป็นไทย และ 3.ปลูกฝังไม่ให้เด็กเยาวชนไปยุ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมถึงบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นต้นทางของการนำไปสู่การเสพยา
“ฝากผู้บริหารสถานศึกษา ครู ปลูกฝังประชาธิปไตยให้แก่นักเรียนทุกระดับชั้น ให้รู้ว่าการซื้อสิทธิขายเสียงมีผลเสียอย่างไร เมื่อเขาจ่ายเงินไป เขาก็ต้องเรียกส่วนที่เขาเสียกลับคืน พร้อมกันนี้ขอให้รณรงค์เรื่องยาเสพติด เบื้องต้นอย่าให้เด็กไปยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ เพราะบุหรี่จะเป็นจุดเริ่มต้นติดยาเสพติดชนิดอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นยาไอซ์ ยาบ้า เฮโรอีน และนับจากนี้ ผู้บริหาร ครู ต้องสอดส่องดูว่ามีนักเรียนแอบสูบบุหรี่ในโรงเรียนหรือไม่ และผู้บริหาร ครู ควรเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียน ไม่สูบบุหรี่ อย่างไรก็ดี หากพบว่านักเรียนติดยา โรงเรียน ผู้ปกครอง ต้องร่วมกันแก้ปัญหา”
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ปกครองร้องเรียนผ่าน สายด่วน 1579 ว่า มีบางโรงเรียนเรียกเก็บเงินนอกเหนือจากนโยบายเรียนฟรี นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะถือว่ามีความผิด ต้องถูกเอาผิดทางวินัย เพราะได้มีระเบียบระบุไว้ชัดเจนว่า แต่ละโรงเรียนสามารถเก็บเพิ่มจากนโยบายเรียนฟรีได้ปีละเท่าใด ซึ่งต้องผ่านความเห็นของภาคี 4 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบห้ามเกินภาคเรียนละ 1,000 บาท แต่ยอมรับว่า ไม่สามารถห้ามไม่ให้มีการเรียกเก็บเลยได้ เพราะบางโรงเรียนผู้ปกครองมีความสมัครใจที่จะพัฒนาคุณภาพการศึกษา เช่น การจ้างครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ ครูสอนว่ายน้ำ ครูสอนคอมพิวเตอร์ ซึ่งการห้ามเท่ากับการสกัดกั้นการศึกษาของเด็ก แต่หากนักเรียนรายใดไม่มีเงินจะจ่ายตามที่เก็บเพิ่ม ก็ต้องมีสิทธิได้เรียนโดยไม่ถูกลิดรอนสิทธิ์ หากพบการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่ให้ไว้ ขอให้แจ้งมาที่ตนได้ หรือทางสายด่วน 1579
“จะไปสกัดกั้นไม่ให้โรงเรียนเก็บเงินเลย คงไม่ได้ หากทางโรงเรียนจ้างครูพิเศษมาสอน แต่ขอย้ำว่าต้องไม่ซ้ำซ้อนกับที่รัฐจัดให้ และต้องเป็นความสมัครใจของเด็กผู้ปกครองด้วย ถามว่ามีโรงเรียนบางแห่งว่าจ้างติวเตอร์มาสอนในวิชาหลักๆ และมีเด็กยากจนไม่มีเงินโรงเรียนให้ให้เรียนร่วมกับเพื่อน คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขา สพฐ. ตอบว่า การจ้างติวเตอร์มาสอน ทำได้ ต้องผ่านความเห็นชอบของภาคี 4 ฝ่าย แต่ไม่ควรปิดกันเด็กยากจน ควรให้เด็กกลุ่มนี้เรียนร่วมกับเพื่อนๆ” รมว.ศธ.กล่าว
