“อภิสิทธิ์” เปิดเที่ยวปฐมฤกษ์รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 2.2 กม.วงเวียนใหญ่-พระนคร เปิดให้ประชาชนใช้ฟรี 3 เดือน ด้าน "สุขุมพันธุ์" แย้มต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ,หมอชิต-สะพานใหม่ ค้างที่กระทรวงมหาดไทย หากให้ กทม.ก่อสร้าง ประชาชนจะเสียค่าโดยสารถูกลงครึ่งหนึ่ง
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังสถานีวงเวียนใหญ่ (s8) เขตคลองสาน เพื่อเป็นประธานงาน Bangkok ’s Morning Smile เช้าวันใหม่..แสนสดใส..ที่คนกรุงเทพฯ รอคอย โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกฯ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. นายกิตพล เชิดชูกิจกุล ประธานสภา กทม.ให้การต้อนรับ
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยินดีที่ได้เป็นประธานเปิดงาน Bangkok ’s Morning Smile เช้าวันใหม่..แสนสดใส..ที่คนกรุงเทพฯ รอคอย ที่ กทม.จัดขึ้นวันนี้เพื่อปล่อยขบวนรถไฟฟ้าสายแรกของฝั่งธนบุรี ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า เฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา สาย 2 โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าทุกคนทราบถึงความสำคัญของระบบชนส่งมวลชน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ หรือในมหานครอย่างเช่น กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นระบบการขนส่งที่เน้นการขนคนมากกว่าขนรถ เพื่อที่จะช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา การเดินทางของพี่น้องประชาชนในเมืองใหญ่ และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนหากมีโอกาสได้สัมผัสกับระบบขนส่งมวลชน ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นรถลอยฟ้า หรือรถใต้ดิน ก็คงจะเข้าใจดีถึงคุณค่าของการมีระบบขนส่งมวลชนอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง กทม.
สำหรับในส่วนของการดำเนินการทำส่วนต่อขยาย 2.2 กม.แห่งนี้ ได้ใช้เวลาผ่านผู้บริหารมาหลายชุด และประสบกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ มากมาย ตนคิดว่าพี่น้องชาวฝั่งธนบุรีจะมีความรู้สึกมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่มองเห็นโครงสร้างพื้นฐานอยู่ตรงหน้า แต่ว่าไม่มีโอกาสได้ใช้บริการรถไฟฟ้าเสียที และมีความรู้สึกว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่สิ้นสุดการรอคอยอันยาวนานและเป็นจุดเริ่มต้นของการที่เราจะต้องมุ่งต่อขยายระบบขนส่งมวลชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ กทม.ต่อไป ความสำเร็จที่เกิดขึ้นแน่นอน เกิดขึ้นมาจากการทำงานหลายยุคหลายสมัย ในส่วนที่ตนเองได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสหรือเข้ามาเกี่ยวข้องก็เป็นช่วงที่คณะผู้บริหาร ภายใต้การนำของ ท่านผู้ว่าอภิรักษ์ ต้องตัดสินใจและขอความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย เพื่อให้งานส่วนนี้สามารถเปิดบริการได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ การได้รับความเห็นชอบจากสภาฯกทม. ก็ทำให้เดินหน้าโครงการนี้ได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่า หากต้องรอคอยรัฐบาลกลางเพียงฝ่ายเดียว ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ต่อไปจะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในรอบที่ 2 ที่จะมีการดำเนินการ ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป และจะร่วมมือกับทางท้องถิ่น และภาคเอกชน เพื่อพี่น้องชาว กทม. มีบริการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ประหยัด และสะดวกรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการทำให้การเดินรถเกิดขึ้นได้ และขอยินดีกับ ประชาชนและกทม. และยืนยันที่จะเดินหน้า พัฒนาระบบขนส่งมวลชนในระบบรางต่อไป
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์เป็นคนแรกที่ใช้บัตรโดยสารผ่านเข้าไปสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่และเดินเข้าสู่ขบวนรถ เพื่อเดินทางไปยังสถานีสุรศักดิ์ ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้สั่นระฆังเพื่อเป็นสัญญาณปล่อยขบวนรถไฟฟ้าสายแรกฝั่งธนบุรี จากนั้นนายกฤตพลได้โบกธงเขียวเพื่อให้สัญญาณรถไฟฟ้าเคลื่อนขบวน จากนั้นเวลา 05.49 น. เคลื่อนตัวออกจากชานชาลาสถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่
**สุขุมพันธุ์รุกขอส่วนต่อสายสีเขียว
ผู้สื่อข่าวถามนายกฯ ว่า กทม.ได้ทำหนังสือถึง ครม.โดยผ่านกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ ครม.เปลี่ยนแปลงมติ ครม. และอนุมัติ ให้กทม.สามารถ เดินหน้าส่วนต่อขยาย สายสีเขียว แบริ่งถึงสมุทรปราการ และหมอชิตถึงสะพานใหม่ นายกฯ บอกว่า เรื่องนี้อยู่ที่กระทรวง
จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ดีใจแทนพี่น้องประชาชนฝั่งธนบรีที่มีโอกาสใช้บริการรถไฟฟ้า 2.2 กม. ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ตนประกาศไว้ เมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการคุยกับนายกฯ ถึงการนำต่อขยายสายสีเขียว กทม.ทำเองหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตอบว่า ตนเรียนท่านนายกฯ ว่า ว่างๆ ก็ขอคืนแล้วกัน นายกฯ ตอบว่าท่านไม่ได้เอาไป จากการติดตามเรื่องทราบว่าเรื่องนี้ ยังอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่ง กทม.ได้ส่งเรื่องไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยได้เสนอข้อมูลสและข้อเท็จจริงให้ทางกระทรวงมหาดไทยทราบหมดแล้วถึงข้อดี หาก กทม.ได้ทำส่วนต่อขยายทั้ง 2 สายทางนี้ และผลประโยชน์จะตกอยู่ที่ประชาชนเป็นหลัก ซึ่งไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารแพงถึง 120 บาทหากมีหลายหน่วยงานดำเนินการ แต่หาก กทม.เป็นผู้ดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวประชาชนจะเสียค่าโดยสารเพียง 60 บาท จะถูกกว่าครึ่งหนึ่ง ดังนั้น ทางกระทรวงมหาดไทย และคมนาคม ต้องพิจารณาให้ดีๆ และต้องตอบให้ได้ว่า ถ้ามหาดไทยไม่นำเรื่องเสนอ ครม.ก็ต้องอธิบายเหตุผลว่าทำไม และถ้าเข้า ครม. และครม.ไม่อนุมัติก็ต้องมีเหตุผลให้ ประชาชน และกทม. หากเหตุผลไม่ดีพอ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
ทั้งนี้ ขอบอกกับประชาชนด้วยว่า ตนได้ทำสิ่งได้สัญญากับประชาชน ถ้าได้ทั้ง 2 สายทางกลับคืนมาก็จะเดินหน้าเต็มสูบ แม้จะไม่เสร็จในวาระผู้ว่าฯ แต่อย่างน้อยขอให้เริ่มก่อสร้างในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง ซึ่งตนไม่ได้กดดัน แต่พูดไปตามเนื้อผ้า ส่วนเงินลงทุนนั้น กทม.สามารถระดมทุนได้หลายทาง ซึ่งได้มอบหมายให้ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รอง ผู้ว่าฯ กทม. ถามวิธีการแล้วคาดว่าอาจจะออกพันธบัตรก็ได้ ทั้งนี้ ครม.เศรษฐกิจได้มีมติเห็นชอบให้ กทม.ออกพันธบัตรได้ ส่วนการกู้เงินจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ตนจะทำ
**แย้มทำต่อขยายสนามศุภฯ-พรานนกอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการกำหนดเวลารัฐบาลให้คำตอบกับ กทม.เมื่อไหร่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากกำหนดเวลา และจะไม่ตีตนไปก่อนไข้ ก็รอคำตอบอยู่ รอกระรวงมหาดไทยพิจารณาอยู่ แต่ถ้าไม่ได้จะเป็นปัญหากับประชาชนที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้น หาก กทม.ไม่ได้ทำ ก็ไปทำงานอื่นได้ ซึ่งขณะนี้ได้วางแผนดำเนินการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ไปพรานนกแล้ว อย่างไรก็ดี หาก กทม.ไม่ได้ดำเนินการสายหมอชิต-สะพานใหม่ แบริ่ง-สมุทรปราการ แต่บีทีเอสอยู่ในความรับผิดชอบของ กทม. ดังนั้น เรื่องทุกอย่างต้องกลับมาที่ กทม.
อนึ่ง สำหรับประชาชนที่จะมาใช้บริการนั้น สามารถใช้บริการในเวลาปกติ คือ 06.00-24.00 น.โดยจะเปิดให้บริการฟรีเป็นเวลา 3 เดือนจากนั้นในวันที่ 13 ส.ค.นี้ก็จะจัดเก็บค่าโดยสารโดยจะคงโครงสร้างอัตราค่าโดยสารในอัตราปกติที่ 15-40 บาท แต่สามารถเดินทางได้ในระยะทางที่ยาวขึ้น
**เตรียมเดินหน้าบีทีเอสวงเวียนใหญ่-บางหว้า
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับส่วนต่อขยายจากสถานีวงเวียนใหญ่ถึงบางหว้า ขณะนี้ต้องยกเลิกประกวดราคา จากที่ปรึกษาโครงการส่วนต่อขยายสายทางนี้ เนื่องจากมีผู้มายื่นเปิดซองเพียงรายเดียว จึงต้องยกเลิก ทำให้ส่วนต่อขยายดังกล่าวจะต้องล่าช้าออกไปอีก 4 เดือน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเริ่มขบวนการสรรหาได้สัปดาห์หน้า
