สภา กทม.เฉลิมฉลองวันครบรอบสภา กทม.36 ปี 15-17 พ.ค.นี้ที่ลานคนเมือง ด้านประธานสภา กทม.เผยเตรียมร่วมมือสวีเดนเปิดส่งผู้ช่วยพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ 20,000 คน รายได้ดี สวัสดิการพร้อม เตรียมตั้งคณะทำงานผลักดันโครงการ โดยดึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อน คาดปี 52-53 จะส่งแรงงานนำร่องได้ก่อน 50-70 คน
นายกิตพล เชิดชูกิจกุล ประธานสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวการจัดงาน “วันสภา กทม. 36 ปี” ซึ่งสภากรุงเทพมหานครกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ค.52 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า)
โดยนายกิตพลกล่าวว่า การจัดงานสภา กทม.ในปีนี้กำหนดจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานทราบถึงประวัติความเป็นมา ผลงาน ตลอดจนวิสัยทัศน์ของสภา กทม. และเพื่อเป็นการรำลึกถึงวันครบรอบ 36 ปี สภา กทม. ตามที่ได้การจัดประชุสภากทม.และเลือกประธานสภากรุงเทพมหานครขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2516 สำหรับการจัดงานวันสภากทม.ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติในการเข้าร่วมงานมากมาย เช่น สมาชิกสภากรุงเทพมหานครตั้งแต่ชุดแรกจนถึงชุดปัจจุบัน เอกอัครราชทูตและที่ปรึกษาจากประเทศต่างๆ เช่น จีน เกาหลี มองโกเลีย เวียดนาม และญี่ปุ่น รวมทั้งคณะศิลปวัฒนธรรมจากประเทศที่เข้าร่วมเป็นสภาบ้านพี่เมืองน้องกับสภากรุงเทพมหานคร เช่น เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น และกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการ ประวัติความเป็นมา ภารกิจและผลงานของสภากรุงเทพมหานครตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 แสดงจุดกำเนิด และวิวัฒนาการของสภากรุงเทพมหานครตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งภารกิจหน้าที่ของคณะกรรมการสามัญคณะต่างๆ ส่วนที่ 2 การแสดงวิสัยทัศน์ของสภากรุงเทพมหานคร และส่วนที่ 3 กิจกรรมของสภากรุงเทพมหานครอันเกี่ยวข้องกับสภาบ้านพี่เมืองน้อง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบันเทิงมากมาย เช่น การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากสภาบ้านพี่เมืองน้อง การแสดงโขนชุดพิเศษ การแสดงโชว์ประชันปี่พาทย์มอญ “แชมป์เปิงมางคอก” จากรายการคุณพระช่วย การแสดงโชว์ประชันระนาดเอก การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งจากรายการชิงช้าสวรรค์ และมินิคอนเสิร์ตจากกลุ่มศิลปิน AF จึงขอเชิญประชาชนเข้าร่วมงานวันครบรอบ 36 ปี สภากรุงเทพมหานคร พร้อมชมนิทรรศการและกิจกรรมบันเทิงมากมาย ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ค.52 ตั้งแต่เวลา 17.30-21.00 น. ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.
นายกิตพลกล่าวด้วยว่า เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปราชอาณาจักรสวีเดนได้เจรจาขยายความร่วมมือกับเทศบาลเมืองต่างๆ ในสวีเดนโดยได้เห็นชอบร่วมกันที่จะจัดทำโครงการสนับสนุนแรงงานไทยมาทำงานที่สวีเดนในฐานะผู้ช่วยพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งผลพ่วงจากยุค Baby Boom หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลให้ปัจจุบันในสวีเดนมีผู้สูงอายุมากราว 20,000 คน ขณะที่สวีเดนมีประชากรทั้งสิ้นเพียง 9 ล้านคนเศษ มีสภาพเป็นครอบครัวเดี่ยว และขาดคนดูแลผู้สูงอายุ จึงต้องการแรงงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการดูแลผู้สูงอายุ ประกอบชาวสวีเดนมีความชื่นชอบประเทศไทย ชื่นชมและไว้ใจคนไทย จึงเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้เข้ามาทำงานนี้ โดยจะมีรายได้เดือนละประมาณ 80,000 บาท หักค่าภาษีจะเหลือเดือนละ 50,000-60,000 บาท และได้รับสวัสดิการที่ดีเท่าเทียมกับพลเมืองของประเทศสวีเดน
นายกิตพลกล่าวต่อว่า จากนี้ตนจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลและผลักดันโครงการนี้ให้ประสบผลสำเร็จ โดยจะดึงผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาชิกสภา กทม. ฝ่ายบริหาร กทม. สำนักพัฒนาสังคมที่ดูแลโรงเรียนฝึกอาชีพ วิทยาพยาบาลของกทม. ที่มีหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล รวมทั้งสำนักการศึกษา ที่ดูแลด้านการเรียนภาษาต่างประเทศ โดยให้ทางสวีเดนช่วยกำหนดหลักสูตรภาษาที่จำเป็นต้องใช้สื่อสารในสวีเดน และมีสภาหอการค้าไทย-สวีเดนเป็นตัวกลางในการประสานงาน ซึ่งคาดว่าในปี 2552-2553 นี้จะเริ่มส่งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพไปสวีเดนได้ประมาณ 50-70 คน เป็นการนำร่องไปก่อน จากนั้นจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนตามความต้องการในสวีเดน
“โครงการผู้ช่วยพยาบาลไทยดูแลผู้สูงอายุในสวีเดน เป็นอีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จจากการขยายความสัมพันธ์ตามโครงการสภาบ้านพี่เมืองน้อง นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนนักเรียน และในโอกาสอันใกล้นี้ทางสภา กทม.จะร่วมกับหอการค้าไทย-สวีเดน ในการจัดเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างนักธุรกิจไทย และสวีเดน และขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ชาวสวีเดนนิยมมาเที่ยวไทยมากขึ้นทุกปี โดยปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวสวีเดนมาเที่ยวไทยกว่า 5 แสนคน” ประธานสภา กทม.กล่าว
