ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”ติวเข้ม 3 จังหวัดเหนือ สร้างความพร้อมก่อนลุยตลาดจีน หลังจากที่ได้ลงนามโครงการบ้านพี่เมืองน้องไปแล้ว
นางเบญจวรรณ รัตนประยูร ที่ปรึกษาการพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ภูมิภาคจีน เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปยัง 3 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด และผู้ประกอบการสาขาต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมบุกเจาะตลาดจีน หลังจากที่ทั้ง 3 จังหวัดได้มีการลงนามสร้างความสัมพันธ์ “บ้านพี่เมืองน้อง” กับจีน คือ สุโขทัย กับมณฑลซีอานและมณฑลสานซี ตากกับเมืองเต่อหง มณฑลยูนนาน และพิษณุโลก กับมณฑลเจ๋อเจียง
ทั้งนี้ จากการหารือพบว่า ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดมีความกระตือรือร้นที่จะส่งออก ซึ่งมีทั้งที่ส่งออกอยู่แล้ว และอยากจะส่งออก ซึ่งกระทรวงฯ จะเข้าไปสนับสนุน และผลักดันให้มีการส่งออกได้ต่อไป ส่วนสินค้าที่จะส่งออกได้ทันที เช่น สินค้ากล้วยอบ กล้วยตาก และสินค้าที่ส่งออกได้แล้ว เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ วัสดุที่ทำจากการรีไซเคิล เป็นต้น
“มีแผนที่จะสนับสนุนให้ผู้ส่งออกในจังหวัดที่ได้ทำบ้านพี่เมืองน้องกับจีน เดินทางไปสานสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีน สนับสนุนให้มีการลงนามความตกลงร่วมกันระหว่างหอการค้าจังหวัดกับหน่วยงานส่งเสริมการค้าของจีน เพื่อเพิ่มช่องทางการทำการค้า รวมทั้งจะจัดคณะผู้ประกอบการไทยระดับจังหวัดไปพบเจรจาธุรกิจและนำเข้าไปร่วมงานแสดงสินค้าที่จะจัดขึ้นในมณฑลต่างๆ ของจีนด้วย”นางเบญจวรรณกล่าว
สำหรับจีน เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ปีที่ผ่านมา ส่งออกได้ 17,804 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% ปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้ 20,831 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17% สินค้าที่จะผลักดันเข้าสู่ตลาดจีน เช่น ผลไม้สด ข้าวหอมมะลิ ยางพารา อาหารฮาลาล เครื่องปรุงรสและส่วนประกอบอาหาร เครื่องประดับและเครื่องประดับแฟชั่น ส่วนบริการที่จะผลักดัน เช่น ภัตตาคาร สปา บันเทิง โลจิสติกส์ แฟรนไชส์ บริการการศึกษา อู่ซ่อมรถยนต์ เป็นต้น
นางเบญจวรรณ รัตนประยูร ที่ปรึกษาการพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ภูมิภาคจีน เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปยัง 3 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด และผู้ประกอบการสาขาต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมบุกเจาะตลาดจีน หลังจากที่ทั้ง 3 จังหวัดได้มีการลงนามสร้างความสัมพันธ์ “บ้านพี่เมืองน้อง” กับจีน คือ สุโขทัย กับมณฑลซีอานและมณฑลสานซี ตากกับเมืองเต่อหง มณฑลยูนนาน และพิษณุโลก กับมณฑลเจ๋อเจียง
ทั้งนี้ จากการหารือพบว่า ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดมีความกระตือรือร้นที่จะส่งออก ซึ่งมีทั้งที่ส่งออกอยู่แล้ว และอยากจะส่งออก ซึ่งกระทรวงฯ จะเข้าไปสนับสนุน และผลักดันให้มีการส่งออกได้ต่อไป ส่วนสินค้าที่จะส่งออกได้ทันที เช่น สินค้ากล้วยอบ กล้วยตาก และสินค้าที่ส่งออกได้แล้ว เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ วัสดุที่ทำจากการรีไซเคิล เป็นต้น
“มีแผนที่จะสนับสนุนให้ผู้ส่งออกในจังหวัดที่ได้ทำบ้านพี่เมืองน้องกับจีน เดินทางไปสานสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีน สนับสนุนให้มีการลงนามความตกลงร่วมกันระหว่างหอการค้าจังหวัดกับหน่วยงานส่งเสริมการค้าของจีน เพื่อเพิ่มช่องทางการทำการค้า รวมทั้งจะจัดคณะผู้ประกอบการไทยระดับจังหวัดไปพบเจรจาธุรกิจและนำเข้าไปร่วมงานแสดงสินค้าที่จะจัดขึ้นในมณฑลต่างๆ ของจีนด้วย”นางเบญจวรรณกล่าว
สำหรับจีน เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย ปีที่ผ่านมา ส่งออกได้ 17,804 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% ปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้ 20,831 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17% สินค้าที่จะผลักดันเข้าสู่ตลาดจีน เช่น ผลไม้สด ข้าวหอมมะลิ ยางพารา อาหารฮาลาล เครื่องปรุงรสและส่วนประกอบอาหาร เครื่องประดับและเครื่องประดับแฟชั่น ส่วนบริการที่จะผลักดัน เช่น ภัตตาคาร สปา บันเทิง โลจิสติกส์ แฟรนไชส์ บริการการศึกษา อู่ซ่อมรถยนต์ เป็นต้น