xs
xsm
sm
md
lg

“สุขุมพันธุ์” เล็งฟื้นความสัมพันธ์ประเทศมุสลิม พุ่งเป้า “ซาอุฯ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุขุมพันธุ์” เตรียมสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกลุ่มประเทศมุสลิม โดยเฉพาะเมืองซาอุฯ หลังนายกฯสั่งรื้อคดีดังเพชรซาอุฯ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ-แก้ภาพลักษณ์จากปัญหาชายแดนใต้

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังคณะยุวทูต เมืองยาชิโย ประเทศญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคาราวะ ว่า กทม.เตรียมที่จะเดินสายสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเมืองในโลกมุสลิม ซึ่งที่ผ่านมาถือว่า กทม.ละเลยในการสานสัมพันธ์กับประเทศในกลุ่มนี้มายาวนาน ขณะนี้มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับ กทม.คือ ประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และคาซักสถาน โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแผนการท่องเที่ยวและสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าว นำร่องในประเทศแถบตะวันออกกลาง เช่น เมืองมุมไบ เมืองเดลี ประเทศอินเดีย เมืองพิทอเรีย เมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมืองไคโร ประเทศอียิปต์ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน เป็นต้น เนื่องจากประเทศในกลุ่มนี้เป็นตลาดสำคัญของไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และต้องการมารับการรักษาพยาบาลในไทย

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่า หากสามารถสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องได้จะได้รับประโยชน์ 2 ทาง คือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของชาวมุสลิมโลก เนื่องจาก 4-5 ปี ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของประเทศถูกกระทบกระเทือนจากเรื่องปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ เชื่อว่า การเดินสายสานสัมพันธ์ดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ เนื่องจากประเทศในกลุ่มนี้เป็นประเทศสมาชิก OIC (The Organization of the Islamic Conference ) ขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ ซึ่งลักษณะการบริหาร กทม.แนวนี้ ตนเรียกว่า การทูตเมืองหลวง ซึ่ง กทม.มีศักยภาพทางด้านการทูต อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงไม่ต้องรายงาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้มีการพูดคุยกับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการสานสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ประเทศไทยขาดการเชื่อมสัมพันธไมตรีมานานกว่า 30 ปีนั้น ยอมรับว่า โดยส่วนตัวมีแผนในการสานสัมพันธ์อยู่แล้ว ซึ่งตนคิดไว้ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะสั่งรื้อคดีเพชรซาอุฯ แต่ขณะนี้ขอปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างไรก็ตาม ถือเป็นโอกาสดีที่จะสานสัมพันธ์และลบแผลในใจที่มีหลายเรื่อง ซึ่งที่ผ่านมาไทยพยายามสานสัมพันธ์ตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 2 ความสัมพันธ์ต่อกันก็ใช้ได้ ไม่ถึงขนาดร่วมมือกันไม่ได้เลย

ทั้งนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2505 มาถึง พ.ศ.2549 กทม.ได้สานสัมพันธไมตรีเมืองพี่เมืองน้องกับ 14 เมือง ใน 12 ประเทศ ได้แก่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ประเทศสหรัฐอเมริกา กรุงปักกิ่ง เมืองแต้จิ๋ว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย กรุงมอสโก เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมืองอัสตานา ประเทศคาซักสถาน เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น และ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
กำลังโหลดความคิดเห็น