ตร. ส่งสำนวนคดี "สนธิ"หมิ่นสถาบันฯ นำคำพูด“ดา ตอร์ปิโด” เผยแพร่บนเวทีพันธมิตร ให้อัยการพิจารณาฟ้อง เจ้าตัวเตรียมยื่นคำชี้แจงใน 30 วัน ยันประเทศไทยน่าสงสารเพราะตำรวจชั่วช้า รับใช้นักการเมือง
วันนี้( 22 ม.ค.)เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.บรรยง แดงมั่นคง พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.พญาไท ช่วยราชการ สน.ดุสิต นำตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาในข้อหา หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และรัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พร้อมสำนวนการสอบสวนจำนวน 1 แฟ้ม และความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ไปมอบให้แก่ นายพีรยุทธ์ ประดิษฐ์กุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เพื่อพิจารณายื่นฟ้องต่อศาล ในกรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ค.51 นายสนธิ ได้ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยนำคำปราศรัยของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” ที่เป็นการดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ มาพูดซ้ำให้กลุ่มผู้ชุมนุมฟัง เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีกับดา ตอร์ปิโด
โดยพนักงานอัยการได้นัดให้นายสนธิ มาฟังการสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 3 มี.ค.52 เวลา 10.00 น. และให้ปล่อยตัวนายสนธิ เป็นการชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์เดิม จำนวน 3 แสนบาท เมื่อครั้งที่ยื่นประกันตัวต่อพนักงานสอบสวน ทั้งนี้นายสนธิ ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เพื่อให้อัยการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดี และจะขอยื่นคำชี้แจงและหลักฐานอื่นๆ ให้แก่อัยการภายใน 30 วัน ด้วย
ภายหลัง นายสนธิ กล่าวว่า ขณะนี้มีความสุขที่สามารถสร้างครอบครัวพันธมิตรฯ ขึ้นมาได้ เป็นครอบครัวที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ทุกคนภูมิใจในความเป็นพันธมิตรฯ ในฐานะหนึ่งในแกนนำพร้อมยอมรับที่จะถูกดำเนินคดี เมื่อเราต่อสู้มาแล้วพบว่า คุณทักษิณ เป็นปัญหารองลงไป สำหรับปัญหาใหญ่เป็นตำรวจไทย ที่เป็นเครื่องมือของนักการเมือง บางคนเลวทราม ต่ำช้า เห็นแก่อามิสสินจ้าง ปั้นเรื่องหาเรื่อง ตำรวจพวกนี้เมื่อโดน ป.ป.ช. ตรวจสอบ กลับไปวิ่งเต้นถอดถอน ป.ป.ช. ไม่ยอมรับการตรวจสอบ ทำได้อย่างเดียวคือหาเรื่องคนอื่น พอถูกตรวจสอบบ้างไม่ยอม สังคมไทยโชคร้ายมากที่มีตำรวจเลวๆ ชั่วช้าแบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรฯ จะมีการเคลื่อนไหวต่อไปหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ควรให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานก่อน ส่วนตัวแล้วเห็นว่าการตัดสินใจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้นใช้ได้ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งใครมาเป็นที่ปรึกษานั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีความหมาย เพราะที่ปรึกษาไม่มีอำนาจอะไร ตนสนใจเรื่องการกระทำมากกว่า เช่นการสั่งให้มีการรื้อคดีนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความมุสลิมขึ้นมาใหม่และคดีอื่นๆ นั้น แสดงให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ ให้ความสนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนไม่เคยได้ยินจากปากนายกรัฐมนตรีคนอื่น
ศาลอนุมัติหมายจับ “สนธิ” อ้างหมิ่นเบื้องสูง!