“มาร์ค” ดึง “ธานี-อัศวิน” รื้อคดีอุ้มสมชาย-ฆ่าชิปปิ้งหมู

“อภิสิทธิ์” เรียก “อัศวิน ขวัญเมือง-ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” เข้าหารือที่ทำเนียบ มอบงานรื้อฟื้น 2 คดีดัง “อุ้มทนายสมชาย” และ คดีฆ่า “ชิปปิ้งหมู” พยานปากเอก “ชินแซท” เลี่ยงภาษี เผย นายกฯ พอใจความตงฉินอดีต ผบช.น.ไม่ใช้กำลังสลายชุมนุมพันธมิตรฯ ในทำเนียบ-สะพานมัฆวาน

แหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ม.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเชิญ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเช้า โดยจะหารือถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ มีแนวคิดจะตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อรื้อคดีสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จนเป็นที่กังขาอยู่ทุกวันนี้ คือ คดีอุ้ม นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความที่รับว่าความให้กับชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคดีอุ้มฆ่า นายกรเทพ วิริยะ หรือ ชิปปิ้งหมู พยานปากเอกในการเปิดเผยพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัท ชิน แซทเทลไลท์

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ รู้สึกพึงพอใจต่อความตรงไปตรงมาของ พล.ต.ท.อัศวิน หลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานมัฆวานฯ ครั้งแรก (29 สิงหาคม 2551) ระหว่างการไปปิดหมายศาลที่ให้ยุติการชุมนุม โดย นายอภิสิทธิ์ (ขณะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ) ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสอบถามอย่างตรงไปตรงมากับ พล.ต.ท.อัศวิน ก็ได้รับคำตอบว่า ไมได้เป็นคนสั่งให้ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการกระทำของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาลขณะนั้น (นักเรียนทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) และจากนั้นไม่นานก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยให้ พล.ต.อ.จงรัก มาดูแลนครบาลชั่วคราว ก่อนจะมีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุชาติ มาเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเต็มตัว กระทั่งมีการสลายการชุมนุมในวันที่ 7 ตุลาคม 2551

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.ต.ท.อัศวิน เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 30 ขึ้นเป็นผู้บังคับการครั้งแรกที่ ตำรวจภูธร จ.เชียงรายในยุค พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงมหาดไทย ก่อนโยกมาคุมกองปราบปราม เป็นตำรวจที่ทำงานสืบสวนปราบปรามมาตลอดชีวิตรับราชการ เคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในยุค คมช.และถูกดันขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.อย่างกะทันหันในยุค นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งให้ใช้กำลังสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลและสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยใช้วิธีประนีประนอมกับกลุ่มผู้ชุมนุมมาโดยตลอด

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า รัฐบาลมีความตั้งใจจะให้คดีทั้งสองได้รับการคลี่คลายให้ทันสมัยรัฐบาลชุดนี้