ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา จี้รัฐเก็บภาษีเหล้า-เบียร์เต็มเพดาน ช่วยรัฐมีรายได้เพิ่ม 2.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ สธ.แจ้งจับลีโอ ฐานโฆษณาผิด พ.ร.บ.เหล้า โทษปรับไม่เกิน 5 แสนหรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี
นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมีมติให้ขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตนั้น เห็นว่าเป็นการขึ้นภาษีน้อยเกินกว่าที่จะทำได้เพราะความจริงรัฐบาลสามารถขึ้นภาษีได้เต็มเพดานมากกว่านี้ โดยเบียร์สามารถขึ้นภาษีได้ถึงร้อยละ 60 หรือเพิ่มขึ้น 7-9 บาทต่อขวด ส่งผลให้ราคาขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เหล้าขาวสามารถขึ้นไปได้ถึง 200 บาทต่อลิตร จะได้ภาษีเพิ่ม 22.50 ต่อ ขวด ราคาขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 และรัฐจะได้ภาษีในภาพรวมถึงกว่า 23,000 ล้านบาท แทนที่จะได้เพียง 6,000 ล้านบาทจากการขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้
“สิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เพราะหากรัฐบาลและกรมสรรพสามิต ต้องการหาเงินเข้ารัฐ ก็น่าที่จะขึ้นภาษีในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ให้ส่วนแบ่งรายได้แก่รัฐในอัตราสูง เช่น สุรานำเข้า หรือเบียร์ แต่กลับขึ้นภาษีเหล้าขาว สุราปรุงพิเศษ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้คืนให้แก่รัฐต่ำมาก ที่สำคัญบริษัทผู้นำเข้าสุราต่างประเทศก็จะหันไปผลิตสุราราคาถูกที่มีเพดาน ภาษีต่ำ ทำให้กลุ่มเป้าหมายในการดื่มขยายวงกว้างขึ้น เพราะผู้บริโภคจะหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ราคาถูกเพราะเสียภาษี ถูกกว่า” นพ.บัณฑิต กล่าว
นพ.บัณฑิต กล่าวว่า ขณะนี้โครงสร้างรายรับภาษีสรรพสามิตสุราของประเทศไทย ปี 2551 รัฐบาลได้ภาษีสรรพสามิตสุรายอดรวม 90,186 ล้านบาท จากอันดับ เบียร์ 53,369 บาท คิดเป็นร้อยละ 59 เหล้าขาว 11,605 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 เหล้าผสม 9,020 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10 สุรานำเข้า 7,589 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.4 สุราพิเศษ ครอบคลุมบรั่นดี 6,151 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.8 สุราปรุงพิเศษ 198 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.2
นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักงานได้แจ้งความต่อผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร จ.นนทบุรี กรณีบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กระทำผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ตามมาตรา 32 เนื่องจากฝ่าฝืนในการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยี่ห้อ ลีโอ เบียร์ ลงในเว็บไซต์ www.leolism.net และ www.leobeer.com โดย ปรากฎข้อความบนฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังกล่าว บนหน้าแรกของทั้งสองเว็บไซต์ว่า “เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ” ซึ่งเป็นข้อความที่อยู่ด้านหลังฉลากเครื่องดื่มยี่ห้อดังกล่าว และคำว่า “SMOOTH & GREET TASTE” หมายความว่า รสนุ่มและยอดเยี่ยม และยังพบข้อความ “ลีโอเบียร์ ถูกคอ ถูกใจ” ด้านล่างเว็บไซต์
“นอกจากนี้ ยังพบข้อความประกอบรูปภาพในเว็บไซต์ โดยมีคำว่า “เย็นๆ...ริมทะเล” ประกอบภาพขวดและกระป๋อง และคำว่า “พักผ่อนให้เต็มที่ วันนี้ไม่ต้องขับรถ” ประกอบภาพขวด ซึ่งฝ่าฝืนมาตรา 32 ที่ ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรืออ้อม รวมทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สามารถทำได้โดยให้ข้อมูลข่าวสาร หรือความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฎภาพของสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยกเว้นภาพสัญลักษณ์ ของเครื่องดื่มหรือบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นพ.สมาน กล่าว
นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมีมติให้ขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตนั้น เห็นว่าเป็นการขึ้นภาษีน้อยเกินกว่าที่จะทำได้เพราะความจริงรัฐบาลสามารถขึ้นภาษีได้เต็มเพดานมากกว่านี้ โดยเบียร์สามารถขึ้นภาษีได้ถึงร้อยละ 60 หรือเพิ่มขึ้น 7-9 บาทต่อขวด ส่งผลให้ราคาขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เหล้าขาวสามารถขึ้นไปได้ถึง 200 บาทต่อลิตร จะได้ภาษีเพิ่ม 22.50 ต่อ ขวด ราคาขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 และรัฐจะได้ภาษีในภาพรวมถึงกว่า 23,000 ล้านบาท แทนที่จะได้เพียง 6,000 ล้านบาทจากการขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้
“สิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เพราะหากรัฐบาลและกรมสรรพสามิต ต้องการหาเงินเข้ารัฐ ก็น่าที่จะขึ้นภาษีในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ให้ส่วนแบ่งรายได้แก่รัฐในอัตราสูง เช่น สุรานำเข้า หรือเบียร์ แต่กลับขึ้นภาษีเหล้าขาว สุราปรุงพิเศษ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้คืนให้แก่รัฐต่ำมาก ที่สำคัญบริษัทผู้นำเข้าสุราต่างประเทศก็จะหันไปผลิตสุราราคาถูกที่มีเพดาน ภาษีต่ำ ทำให้กลุ่มเป้าหมายในการดื่มขยายวงกว้างขึ้น เพราะผู้บริโภคจะหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ราคาถูกเพราะเสียภาษี ถูกกว่า” นพ.บัณฑิต กล่าว
นพ.บัณฑิต กล่าวว่า ขณะนี้โครงสร้างรายรับภาษีสรรพสามิตสุราของประเทศไทย ปี 2551 รัฐบาลได้ภาษีสรรพสามิตสุรายอดรวม 90,186 ล้านบาท จากอันดับ เบียร์ 53,369 บาท คิดเป็นร้อยละ 59 เหล้าขาว 11,605 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 เหล้าผสม 9,020 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10 สุรานำเข้า 7,589 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.4 สุราพิเศษ ครอบคลุมบรั่นดี 6,151 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.8 สุราปรุงพิเศษ 198 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.2
นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักงานได้แจ้งความต่อผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร จ.นนทบุรี กรณีบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กระทำผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ตามมาตรา 32 เนื่องจากฝ่าฝืนในการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยี่ห้อ ลีโอ เบียร์ ลงในเว็บไซต์ www.leolism.net และ www.leobeer.com โดย ปรากฎข้อความบนฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังกล่าว บนหน้าแรกของทั้งสองเว็บไซต์ว่า “เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ” ซึ่งเป็นข้อความที่อยู่ด้านหลังฉลากเครื่องดื่มยี่ห้อดังกล่าว และคำว่า “SMOOTH & GREET TASTE” หมายความว่า รสนุ่มและยอดเยี่ยม และยังพบข้อความ “ลีโอเบียร์ ถูกคอ ถูกใจ” ด้านล่างเว็บไซต์
“นอกจากนี้ ยังพบข้อความประกอบรูปภาพในเว็บไซต์ โดยมีคำว่า “เย็นๆ...ริมทะเล” ประกอบภาพขวดและกระป๋อง และคำว่า “พักผ่อนให้เต็มที่ วันนี้ไม่ต้องขับรถ” ประกอบภาพขวด ซึ่งฝ่าฝืนมาตรา 32 ที่ ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรืออ้อม รวมทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สามารถทำได้โดยให้ข้อมูลข่าวสาร หรือความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฎภาพของสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยกเว้นภาพสัญลักษณ์ ของเครื่องดื่มหรือบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นพ.สมาน กล่าว