xs
xsm
sm
md
lg

“รมว.พลังงาน” เผยลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ น้ำมัน บรรเทาผลกระทบขึ้นภาษีสรรพสามิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “นพ.วรรณรัตน์” รมว.พลังงาน เผย “กบง.” มีมติปรับลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้น้ำมันทั่วประเทศจากการเพิ่มเพดานจัดเก็บภาษีสรรพสามิตของ ก.คลัง ยันน้ำมันไม่ขึ้นราคาตามภาษีสรรพสามิตแน่นอน ยกเว้นปรับตามกลไกตลาด คาดใช้กลไกกองทุนฯ บรรเทาผลกระทบชั่วคราว 1 เดือน จากนั้นทยอยปรับราคาน้ำมัน เพื่อให้สอดคล้องกับภาษีสรรพสามิตที่เพิ่มขึ้น

วันนี้ (8 พ.ค.) ที่โรงแรมปัญจดารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงการคลังจะออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพิ่มเพดานการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐ ซึ่งจะเป็นการขยายเพดานจัดเก็บไปถึง 10 บาท/ลิตร และคาดว่าน้ำมันเบนซินจะจัดเก็บเพิ่มอีก 2 บาท/ลิตร ว่า หาก พระราชกำหนดฯ ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลปรับขึ้นตามภาษีสรรพสามิต ที่ กระทรวงการคลังประกาศ ซึ่งหากกระทรวงพลังงานไม่ทำอะไรก็อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อน

ดังนั้น เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนทั่วประเทศ และอาจส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าอื่นๆ ตามมาซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป กระทรวงพลังงานโดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานได้มีการประชุมและมีมติอนุมัติในหลักการ ที่จะนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้เป็นกลไกในการบรรเทาผลกระทบไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดังกล่าว

การดำเนินการคือจะปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงเป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน หรือปั๊มต่างๆ ทั่วประเทศมีราคาสูงขึ้น นั้นหมายถึงว่า ราคายังคงปกติเท่าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระยะนี้ จากนั้นจะทยอยลดภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงเป็นคราวไป จนกระทั่งราคาน้ำมันได้ปรับเข้าสู่ภาวะปกติตามที่ได้มีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตของกระทรวงการคลังจนครบจำนวน

“จะเป็นการทยอยปรับทีละเล็กทีละน้อย เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนผู้ใช้น้ำมันทั่วประเทศเหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ซึ่งการงดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ จะมีผลทันที ฉะนั้นขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่า แม้กระทรวงการคลังจะปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันก็ตามในระยะแรกราคาน้ำมันขายปลีกตามปั๊มต่างๆ จะไม่ขึ้นราคาแน่นอน แต่หากมีการปรับขึ้นจะเป็นการปรับขึ้นตามกลไกของตลาดไม่ใช่ปรับขึ้น เพราะภาษีสรรพสามิตจึงขอให้ประชาชนได้เข้าใจตามนี้ด้วย” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวอีกว่า การปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันในวันนี้ (8 พ.ค.) ลิตรละ 60 สต.นั้น เป็นการขึ้นโดยธรรมชาติเป็นไปตามกลไกของตลาด ไม่ใช่การปรับขึ้นตามการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตแต่อย่างใด

“สำหรับการนำกลไกของกองทุนน้ำมันเข้ามาช่วยเหลือประชาชนครั้งนี้ คาดว่าจะใช้อยู่ประมาณ 1 เดือน จากนั้นราคาน้ำมันก็จะขยับขึ้นไปให้สอดคล้องกับภาษีสรรพสามิตที่ปรับขึ้น” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น