xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยันราคาน้ำมันยังปรกติ "สรรพสามิต" เล็งขึ้นภาษี 2 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯ เรียกประชุมบอร์ด กพช.ถกความร่วมมือพลังงาน ยันราคาน้ำมันขณะนี้ ยังไม่มีอะไรผิดปรกติ และกระทบกับราคาขายปลีกหน้าปั๊ม รมว.คลัง อุบข่าวลือขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันลิตรละ 2 บาท ระบุ ต้องให้กรมสรรพสามิตออกประกาศชัดเจน ด้าน กบง.เตรียมลดเงินกองทุนน้ำมันฯ เพื่อรักษาระดับราคาไม่ให้ปรับขึ้น ในขณะที่ ทิศทางราคาน้ำมันในไทยเตรียมขยับตามน้ำมันโลก ส่วนนักวิชาการชี้รับได้ แต่ขอให้ขึ้นภาษีครอบคลุมที่ลดไปเมื่อสมัยรัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช” 3.2 พันล้าน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) บ่ายวันนี้ (6 พฤษภาคม 2552) โดนระบุว่า เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับความความร่วมมือด้านพลังงาน กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เช่น การรับซื้อไฟฟ้าจากลาว และความร่วมมือในหลายๆ โครงการ ที่น่าจะลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือความตกลงระหว่างหน่วยงานได้ ส่วนราคาน้ำมัน ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่จะกระทบกับราคาหน้าปั๊ม

มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่รัฐสภา เนื่องจากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในระหว่างที่กำลังประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานฯ ฝ่ายค้านได้เสนอให้มีการนับองค์ประชุม ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่กำลังประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานฯ ต้องรีบออกจากห้องประชุม เพื่อเข้าไปเสียบบัตรลงคะแนน ในห้องประชุมสภาฯ ทันที

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังไม่ขอเปิดเผยเรื่องการปรับกรอบการขึ้นเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพราะเป็นความลับยังไม่สามารถแถลงให้ทราบได้

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการขยับกรอบเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมันให้ขึ้นอีก 2 บาทต่อลิตร ทุกประเภท แต่จะขึ้นเมื่อใดนั้น ต้องให้ทางกรมสรรพสามิตออกประกาศอัตราใหม่ที่ชัดเจนเสียก่อนคาดว่าจะมีผลในเร็วๆ นี้ และการที่ยังไม่มีการประกาศที่ชัดเจน ก็เพราะหวั่นเกรงว่าจะมีการกักตุนน้ำมัน

ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้ประชุมลับ โดยไม่เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แต่เบื้องต้นเป็นการเห็นชอบให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นส่วนลดผลกระทบของการปรับขึ้นภาษีน้ำมัน เพื่อเป็นกลไกไม่ให้มีการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน เช่น กรณี การขึ้นภาษี 2 บาทต่อลิตร จะลดเงินกองทุนน้ำมัน 2.20 บาทต่อลิตร เพราะเมื่อขึ้นภาษีสรรพาสามิต ก็จะต้องมีการจ่ายภาษีเทศบาลเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 และเมื่อรวมเนื้อน้ำมันและภาษีบวกเงินกองทุนน้ำมันต่างๆ แล้ว รัฐยังเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ได้ในอัตราที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กบง.อนุมัติเพียงว่าจะใช้กลไกกองทุนฯ เข้าไปดูแล หากกระทรวงการคลังมีการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษี แต่ยังไม่ทราบว่าจะเปลี่ยนแปลงเมื่อใด และอัตราเท่าใด

นายเทียนไชย จงพีร์เพียร นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า การขึ้นภาษีน้ำมัน เพื่อแก้ปัญหาด้านการเงินของภาครัฐเป็นเรื่องที่พอรับได้ เพราะหากไม่ขึ้นตัวนี้ รัฐก็จะต้องหาทางขึ้นภาษีด้านอื่นๆ แต่การขึ้นภาษี ก็ควรจะครอบคลุมวงเงินเฉพาะที่สูญเสียไป จากการลดภาษีน้ำมันในสมัย รัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ที่มีการลดภาษี 6 เดือน (เริ่มเดือนกรกฎาคม 2551 ถึงเดือนมีนาคม 2552) ที่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 32,000 ล้านบาทเท่านั้น หลังจากนั้นก็ควรจะลดภาษีน้ำมันให้ประชาชน นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกด้วย หากปรับเพิ่มสูงมากขึ้น ก็ควรจะเร่งลดภาษีโดยเร็ว

แหล่งข่าวจากผู้ค้าน้ำมันระบุว่าในขณะนี้ ยังไม่ได้รับแจ้งจากภาครัฐว่าจะมีการขึ้นภาษี หรือลดเงินกองทุนฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ขยับขึ้นอยู่ในระดับ 54-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันลดลงมาก โดยค่าการตลาดกลุ่มดีเซลอยู่ที่ประมาณ 0.80 บาทต่อลิตร กลุ่มเบนซินประมาณ 1.10 บาทต่อลิตร ซึ่งมีทิศทางต้องปรับขึ้น ดังนั้น หากภาครัฐขึ้นภาษีอีกก็จะทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น แต่หากลดเงินกองทุนน้ำมันก็อาจะทำให้ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ในระยะยาวราคาคงต้องขยับขึ้นแน่นอน โดยในขณะนี้ ราคาขายปลีกที่อยู่ในอัตราสูงนั้นมากจากส่วนใหญ่เป็นการจ่ายเงินแก่ภาครัฐ เช่น เบนซิน 91 ราคาขายปลีกอยู่ที่ 29.54 บาทต่อลิตร แต่ราคาเนื้อน้ำมันอยู่ที่ 13.78 บาทต่อลิตร ส่วนต่างที่เหลืออีกประมาณ 15.76 บาท/ลิตร เป็นการเก็บเงินของภาครัฐ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น