“ธีระชน” โอดรัฐบาลตัดงบปี 2553 หายไปอื้อ เผยกระทบเมกะโปรเจกกทม.ทั้งโครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย-ตัดถนนใหม่ ขณะที่ความคืบหน้าจ้างงาน 20,000 ตำแหน่งใกล้ได้เรื่องเตรียมเข้าสู่ ครม.ใน 2 สัปดาห์นี้
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณประจำปี 2553 ให้กับกทม.จำนวน ประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากจำนวนเงินที่ขอไป 20,000 ล้านบาทถึงราว 6 พันล้านบาทว่า ตนยอมรับว่าการปรับลดจำนวนงบประมาณดังกล่าวจะทำให้งบในส่วนของการลงทุนของโครงการใหญ่ๆ ได้รับผลกระทบโดยตรงโดยเฉพาะโครงการการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย และ การก่อสร้างถนน ซึ่งอาจทำให้การดำเนินการชะลอตัวลงไป ทั้งนี้คาดว่าในส่วนของเงินที่ใช้ในโครงการช่วยเหลือประชาชน เช่น การพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การจ้างงานนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะงบประมาณส่วนหนึ่งของ กทม.ก็ยังกันไว้บางส่วนแล้ว
นายธีระชนยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ หรือประชาชนที่ว่างงานเพื่อให้เข้ามาทำงานด้านการศึกษา ด้านการแพทย์ อนามัย และการปกครอง จำนวน 20,000 ที่กทม.ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ว่า จากการที่ได้หารือกับข้าราชการฝ่ายการเมืองในกระทรวงมหาดไทยแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ เรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและหากทางคณะรัฐมนตรีต้องการชี้แจงรายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย ตนพร้อมที่จะไปชี้แจง ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากทางรัฐบาลด้วยว่าโครงการดังกล่าวอาจได้รับการพิจารณาอนุมัติให้มีการจ้างงานทั้ง 20,000 อัตรา
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณประจำปี 2553 ให้กับกทม.จำนวน ประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากจำนวนเงินที่ขอไป 20,000 ล้านบาทถึงราว 6 พันล้านบาทว่า ตนยอมรับว่าการปรับลดจำนวนงบประมาณดังกล่าวจะทำให้งบในส่วนของการลงทุนของโครงการใหญ่ๆ ได้รับผลกระทบโดยตรงโดยเฉพาะโครงการการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย และ การก่อสร้างถนน ซึ่งอาจทำให้การดำเนินการชะลอตัวลงไป ทั้งนี้คาดว่าในส่วนของเงินที่ใช้ในโครงการช่วยเหลือประชาชน เช่น การพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การจ้างงานนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะงบประมาณส่วนหนึ่งของ กทม.ก็ยังกันไว้บางส่วนแล้ว
นายธีระชนยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ หรือประชาชนที่ว่างงานเพื่อให้เข้ามาทำงานด้านการศึกษา ด้านการแพทย์ อนามัย และการปกครอง จำนวน 20,000 ที่กทม.ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ว่า จากการที่ได้หารือกับข้าราชการฝ่ายการเมืองในกระทรวงมหาดไทยแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ เรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและหากทางคณะรัฐมนตรีต้องการชี้แจงรายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย ตนพร้อมที่จะไปชี้แจง ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากทางรัฐบาลด้วยว่าโครงการดังกล่าวอาจได้รับการพิจารณาอนุมัติให้มีการจ้างงานทั้ง 20,000 อัตรา
