กทม.เดินหน้าติดตั้งถังหมักก๊าซชีวภาพจากขยะเศษอาหาร ผลไม้ หลังทำแล้ว 40 แห่งเห็นผล ปีนี้ติดเพิ่มอีก 40 แห่งในโรงเรียนสังกัดกทม.
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและนายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าฯ กทม.ร่วมแถลงข่าว โครงการส่งเสริมการใช้ถังหมักก๊าซชีวภาพในโรงเรียน กทม.โดย นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า การติดตั้งถังหมักก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์สำเร็จรูปขนาดเล็ก กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ซึ่งพพ.ได้ติดตั้งให้กับสถานศึกษา โรงพยาบาล ชุมชน ค่ายทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาตั้งแต่ปี 2549-2551 รวม 500 แห่ง และจะมีการขยายโครงการต่อไปจนถึงปี 2554 รวมทั้งสิ้น 1,700 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถช่วยลดการกำจัดขยะได้ปีละ 25,000 ตัน ผลิตเป็นก๊าซชีวภาพได้ 1.5 ล้าน ลบ.ม./ปี ใช้แทน LPG ได้ 7 แสนตัน/ปี คิดเป็นมูลค่า 12.8 ล้านบาท/ปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 13,300 ตัน/ปี ส่วนในพื้นที่ กทม.ที่มีขยะประมาณวันละ 8,700 ตัน/วัน นั้น ตั้งแต่ปี 2549 ทาง พพ.ได้การดำเนินการติดตั้งถังหมักก๊าซ ในโรงเรียนในสังกัด กทม.แล้ว 40 แห่ง ซึ่งจะช่วยเป็นการลดปริมาณขยะและสามารถนำขยะมาใช้ประโยชน์โดยแปรขยะเป็นพลังงาน และช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย
ด้าน นายประกอบ กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงพลังงาน ได้นำร่องติดตั้งถังหมักก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์สำเร็จรูปให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.มาตั้งแต่ ปี 2549 จำนวน 40 แห่ง ซึ่งผลการดำเนินงานจากการติดตั้งถังหมักจำนวน 40 ชุด ขนาด 2.5 ลบ.ม.ซึ่ง 1 ถัง สามารถรับขยะอินทรีย์ได้ 40 กก.ต่อวัน และสามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ 2.5 ลบ.ม./วัน ผลิตก๊าซ LPG ได้ประมาณ46 กก.ต่อวันหรือ16,790 กิโลกรัมต่อปี โดยสามารถนำก๊าซที่ได้มาใช้ประโยชน์ทดแทนการจัดซื้อพลังงานเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้ลดงบประมาณในการซื้อพลังงานได้ รวมทั้งเป็นการกำจัดขยะในโรงเรียนได้อีกด้วย และในปีนี้ได้มีการจัดซื้อถังเพิ่มเติมอีก 40 ชุด งบประมาณ ชุดละ 54,000 บาท เป็นเงิน 2,160,000 บาท เพื่อมาติดตั้งในโรงเรียน กทม.
