กทม.เตรียมเปิดโครงการบ้านยิ้ม 2 ให้ข้าราชการกทม.กู้เงินซื้อบ้าน-รีไฟแนนซ์บ้านได้ไม่เกินวงเงิน 1 ล้านบาท ส่วนบ้านยิ้มแรก พรุ่งนี้ เปิดให้จองแล้ว ด้าน “ธีระชน” เผย โครงการบ้านยิ้มอาจมีปัญหา เหตุการเคหะฯสร้างบ้านเอื้อเสร็จแค่ 8.4 พันหน่วย ที่เหลือใช้เวลาอีก 7 เดือนเสร็จ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร ว่า ในวันที่ 1-10 เม.ย.2552 กทม.จะเปิดให้ข้าราชการ-ลูกจ้าง กทม.ที่มีรายได้ไม่เกิน 13,500 บาทต่อเดือนเปิดจองห้องชุดที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านยิ้มที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.และตั้งแต่วันที่ 2-10 เม.ย.จะเปิดให้ข้าราชการ-ลูกจ้าง กทม.ลงทะเบียนจองได้ที่หน่วยงานต้นสังกัด จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้ที่จองทั้งหมดในวันที่ 1 พ.ค. และเริ่มทำสัญญากับการเคหะในวันที่ 15 พ.ค.2552 ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) แจ้งว่า มีห้องชุดจำนวน 1,000 หน่วยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ กทม. ส่วนอีก 9,000 หน่วยตั้งอยู่พื้นที่โดยรอบจังหวัดปริมณฑล
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กทม. จะเปิดโครงการบ้านยิ้ม 2 ควบคู่ไปด้วย โดยจะให้สิทธิแก่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ต้องการมีบ้านพักอาศัย หรือ รีไฟแนนซ์บ้าน สามารถทำสัญญากู้เงินจาก 4 ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 บาทต่อปี คงที่ 30 ปี แต่หากจะกู้เงินเกิน 1 ล้านบาทก็ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราปกติของธนาคาร
ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า จากผลการสำรวจความต้องการของข้าราชการ และลูกจ้างที่ประสงค์อยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง พบว่ามีความต้องการกว่า 40,000 หน่วย มีข้าราชการ ลูกจ้างที่ได้รับสิทธิ จำนวน 15,727 ราย แต่โครงการบ้านยิ้มดังกล่าวสามารถรองรับได้สูงสุด 15,000 หน่วย ซึ่งตนคาดว่าจะเปิดบ้านยิ้มโครงการต่อๆ ไป ซึ่งในหลักการ คณะผู้บริหารก็ให้ความเห็นชอบแล้ว อย่างไรก็ตาม กทม.ต้องดูความพร้อมของ กคช.ด้วย เพราะล่าสุด กคช.ได้รายได้ตัวเลขบ้านเอื้ออาทรที่นำมาเข้าร่วมโครงการ ว่า ก่อสร้างแล้วเสร็จไปเพียง 8,400 หน่วยเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะใช้เวลาก่อสร้าง ประมาณ 4-7 เดือน
