“จุรินทร์” สั่ง กทม.ปรับเพิ่มค่าชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน กิจกรรมให้เท่ากับรัฐบาลจัดให้ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ให้จ่ายเงินสดแก่ผู้ปกครองไปซื้อแทนโรงเรียนซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ย้ำห้ามรับแปะเจี๊ยะช่วงรับนักเรียน ชี้ผิดวินัย ผิดกฎหมาย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวชี้แจงนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพแก่ผู้บริหารสังกัดกรุงเทพมหานคร ว่า
โรงเรียนที่อยู่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงอื่นๆ จะต้องยึดแนวปฏิบัติเรียนฟรีเหมือนกัน สำหรับโรงเรียนสังกัด กทม.นั้น ซึ่งดำเนินการนโยบายเรียนฟรีมาก่อนแล้วปฏิบัติต่างกันบ้าง เรื่องราคาเครื่องแบบนักเรียน ระดับอนุบาล ซึ่ง กทม.จัดให้ 100 บาท แต่รัฐบาลให้ 120 บาท อุปกรณ์การเรียน กทม.จัดให้ 100 บาท รัฐบาลจัดให้ 195 บาท กิจกรรมผู้เรียน กทม.จัดให้ 100 บาท รัฐบาลจัดให้ 240 บาท ทั้งนี้ ก็ได้ตกลงกันว่าให้ปรับเพิ่มให้เท่าที่รัฐบาลจัดให้ ส่วนตำราเรียนซึ่ง กทม.แจกฟรี เหนือกว่ารัฐบาลให้ ตรงนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะกทม.มีกำลังจ่ายอีกอย่างเป็นประโยชน์แก่นักเรียน
นอกจากนี้ ขอให้ กทม.ไปปรับระบบการดำเนินงาน โดยเฉพาะการจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ที่ปัจจุบันโรงเรียนจะจัดซื้อแล้วนำมาแจกนักเรียน ก็ให้เปลี่ยนเป็นจ่ายเงินสดให้ผู้ปกครองเพื่อนำไปซื้อเครื่องแบบนักเรียนให้บุตรหลานด้วยตนเอง แล้วให้นำใบเสร็จ เครื่องแบบนักเรียน หรืออุปกรณ์การเรียนมาโชว์ด้วย
“เปลี่ยนระบบจากโรงเรียนซื้อมาเป็นให้เงินสด ไม่ได้ยุ่งยาก กลับเป็นดีเสียอีก เพราะผู้ปกครอง นักเรียน รู้ว่าขาดชุดนักเรียน หรือชุดลูกเสือ เนตรนารี จะได้นำเงินไปซื้อส่วนที่ขาด หากโรงเรียนซื้อ ชุดอาจจะเล็กไป ใหญ่ไปได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนที่ดำเนินการจัดซื้อไปแล้วก็ไม่เป็นไร ส่วนโรงเรียนไหนที่ยังให้ดำเนินการตามมติ ครม.ของรัฐบาล”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการจัดซื้อผ่านระบบอีออกชันไปแล้ว นายจุรินทร์ ตอบว่า ไม่เป็นไร เพราะถือว่ามติ ครม.มาทีเหลัง เพียงแต่อะไรที่ยังไม่ดำเนินการก็ขอให้ กทม.ดำเนินการทิศทางเดียวกันกับรัฐบาล ยอมรับว่าในปีแรกอาจมีปัญหาขลุกขลักเราก็ปรับให้สอดคล้องกัน สำหรับปีถัดไปทุกอย่างคงราบรื่นขึ้น
ด้าน นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สำหรับตำราเรียนในปีหน้า ศธ.จะต้องไปเจรจากับสำนักงบประมาณ เพื่อของบ 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจัดซื้อตำราในส่วนที่ชำรุด พร้อมกันต้องจัดสรรงบสำหรับซื้อตำราใหม่ ชั้น ป.1 ป.4 ม.1 และ ม.4 เพื่อเปลี่ยนตำราใหม่
สำหรับนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียน สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 1 ประมาณ 600 คน สำนักงานพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 2 ประมาณ 5,000 คน และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 3 ประมาณ 800 คน ขอให้นักเรียนไปแจ้งที่สำนักงานเขตพื้นที่ หรือโรงเรียนในเขตพื้นที่บริการ ในวันที่ 6 เม.ย. เพื่อให้คณะกรรมการ จัดหาโรงเรียนให้เรียน แล้วจะประกาศรายชื่อวันที่ 9 เม.ย. ส่วนวันที่ 10 เม.ย.ให้นักเรียนไปมอบตัว
นายจุรินทร์กล่าวเสริมว่า ผู้ปกครองไม่ตกกังวลว่าบุตรหลานจะไม่มีที่เรียน ขอย้ำว่ามีที่เรียนทุกคนแล้วไม่มีเด็กตกหล่นด้วย ซึ่งปีนี้ ศธ.จะรู้ยอดนักเรียนทั้งหมดภายในวันที่ 10 เม.ย.นี้ จะสะดวกในการจัดสรรงบเรียนฟรี รวมถึงงบรายหัวนักเรียนด้วยว่ามีตัวเลขทั้งหมดทั่วประเทศเท่าไหร่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเทศกาลรับนักเรียนมักจะมีเรื่องแปะเจี๊ยะ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่สามารถทำได้เพราะ ศธ.มีประกาศกระทรวง ห้ามเรียกรับเงินระหว่างที่มีการรับเด็กไม่ได้เด็ดขาด นอกจากผิดวินัยและยังผิดกฎหมายด้วย ซึ่งประกาศนี้มีความชัดเจน และผู้บริหารสถานศึกษารับทราบแล้ว