“จุรินทร์” แจกเงินเรียนฟรี 15 ปีให้ผู้ปกครองกลุ่มแรก ย้ำให้นำเงินไปใช้จ่ายให้ตรงตามวัตถุประสงค์ เชื่อมั่นพ่อแม่ไม่โกงเงินบุตรหลานไปใช้ผิดทาง ระบุ หลังจากนี้ให้สถานศึกษาทั่วประเทศเชิญผู้ปกครองมารับเงินได้ทันที ด้านพ่อแม่ดีใจรัฐช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ลุ้นแกะซองด้วยความดีใจ
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2552 ที่หอประชุมเปรม 100 ปี มหาวชิราวุธ โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ มอบนโยบายในการดำเนินโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ แก่ผู้บริหารโรงเรียน ครู ผู้ปกครอง นักเรียน โดยมีผู้บริหารองค์กรหลักระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สถานศึกษา หัวหน้าส่วนราชการ ครู ผู้ปกครอง และนักเรียนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง ทั้งนี้ หลังมอบนโยบายผู้บริหารโรงเรียนได้มอบเงินค่าเครื่องแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียนให้แก่นักเรียนจำนวน 400 คน จาก 8 โรงเรียนใน จ.สงขลา ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลสงขลา โรงเรียนสงขลาวิทยาคม โรงเรียนวิเชียรชม โรงเรียนมหาวชิราวุธ โรงเรียนวรนารีเฉลิม โรงเรียนแจ้งวิทยา โรงเรียนเกาะแต้วพิทยาสรรค์ และโรงเรียนนวมินทราชูทิศทักษิณ โดยนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาจะได้รับเงินค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน จำนวน 400 บาท ประถมศึกษา จำนวน 555 บาท ม.ต้น จำนวน 660 บาท และ ม.ปลาย 730 บาท ซึ่งทางโรงเรียนได้นำเงินใส่ซองเพื่อมอบให้กับนักเรียนที่มารอรับ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลัง ศธ.มอบเงินในโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพไปแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองกับนักเรียนที่จะนำเงินไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนตามวัตถุประสงค์ ซึ่งรัฐบาลยืดหยุ่นให้ผู้ปกครองเลือกซื้อชุดนักเรียน ชุดพละ ชุดลูกเสือ รองเท้า ถุงเท้า หรือเข็มขัด รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆได้ตามความเหมาะสมในวงเงินที่ได้รับ และหลังจากซื้อเรียบร้อยแล้วจะต้องนำใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี หรือเอกสารที่ทางร้านยืนยันการซื้อสินค้ามาแสดงกับสถานศึกษา ในกรณีที่ไม่มีเอกสารดังกล่าวให้นำชุดนักเรียนและอุปกรณ์ที่ซื้อมาแสดงก็ได้ ทั้งนี้ หลังจากนี้ สถานศึกษาทั่วประเทศทุกสังกัดให้ทยอยเชิญผู้ปกครองมารับเงินใน 2 หมวดคือ ชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนได้ทันที
ต่อข้อถามว่าจะมีมาตรการลงโทษผู้ปกครองกรณีที่มีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์อย่างไร รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ.คงไม่กำหนดมาตรการลงโทษ เพราะเชื่อว่า ผู้ปกครองจะไม่โกงเงินลูกหลานของตนเอง อีกทั้งวงเงินที่รัฐจัดสรรให้ก็ไม่ได้มากมายอะไร ตนยังเชื่อมั่นว่าผู้ปกครองจะนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีร้องเรียนขึ้นก็จะมอบหมายให้ต้นสังกัดพิจารณาดำเนินการตรวจสอบเป็นรายกรณีไป ส่วนโรงเรียนหากมีการจ่ายเงินให้ผู้ปกครองครบถ้วนก็ไม่ถือว่ามีความผิด
ส่วนเรื่องการสละสิทธิ์นั้นขณะนี้ยังมียอดการสละสิทธิ์อยู่ที่ 60,000-70,000 คน ซึ่ง ศธ.ยังคงขยายเวลาให้มีการสละสิทธิ์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีจำนวนผู้สละสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้สำนักงบประมาณได้ออกเอกสารแนวทางการสละสิทธิ์มาแล้ว โดยถือว่าเงินที่สละสิทธิ์ดังกล่าวเป็นการบริจาคให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีประมาณ 600 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งศธ.จะดำเนินการอย่างโปร่งใสและจะมอบเงินให้กับโรงเรียนดังกล่าวต่อไป
ด้านนายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การจ่ายเงินค่าเครื่องแบบนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนให้กับนักเรียนนั้น จะต้องมีการตรวจสอบรายชื่อและเลขประจำตัว 13 หลักของนักเรียน โดยในระดับม.ต้นต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดง ส่วนม.ปลายก็ใช้บัตรประจำตัวประชาชน จากนั้นนักเรียนจะต้องเซ็นชื่อในใบรับรองเพื่อเป็นการยอมรับว่าจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการเรียนฟรีฯ ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์จะต้องคืนเงินดังกล่าวให้กับทางโรงเรียน ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวทุกสถานศึกษาในทุกสังกัดจะต้องยึดถือเป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน
นางสุภาวรรณ ฮึกหาญ ผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ร.ร.แจ้งวิทยา จ.สงขลา กล่าวว่า ดีใจที่รัฐบาลให้ความสำคัญการศึกษาของเด็ก เงินที่ได้รับแม้จะจำนวนไม่มากอาจจะไม่เพียงพอในการใช้ซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนแต่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของพ่อแม่ จากเดิมต้องค่าเงินมาใช้จ่ายเป็นค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนต่อคนประมาณ 1.000 บาท เมื่อได้รับเงินในโครงการเรียนฟรีมาก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปกว่าครึ่ง และเชื่อมั่นว่าคงจะไม่มีผู้ปกครองคนใดนำเงินที่ได้รับไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เพราะถ้าไม่ได้เงินก็ต้องหามาใช้จ่ายในส่วนนี้อยู่แล้ว
ด.ญ.ภัฎฎินี คงประดิษฐ์ นักเรียนชั้น ป.5 ร.ร.วิเชียรชม กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เงินไปซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียนใหม่ เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะได้ใส่แต่ชุดมือสองจากที่ญาติบริจาคให้ จะนำเงินไปให้แม่ซื้อของให้ต้องขอขอบคุณ รมว.ศึกษาธิการ ที่เห็นความสำคัญของการศึกษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ได้รับซองเงินค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน นักเรียนต่างก็แสดงสีหน้าดีใจ และพยายามที่จะนำซองเงินขึ้นส่องกับแสงไฟเพื่อดูเงินที่ได้รับ แต่ไม่กล้าที่จะแกะซองออกดูเพราะทางโรงเรียนได้กำชับให้นำเงินดังกล่าวไปมอบให้กับผู้ปกครอง โดยนักเรียน และผู้ปกครองนักเรียนกลุ่มนี้ ถือเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับเงินเรียนฟรี 15 ปีจากรัฐบาล