“อภิสิทธิ์” สั่ง สสส.เคลียร์บริหารจัดการกองทุน การให้งบโครงการต่างๆ ตามข้อสังเกตของ สตง.สนองนโยบายรัฐบาลจ้างงานบัณฑิตตกงาน สำรวจข้อมูลสุขภาวะ วาง 6 ยุทธศาสตร์ รับมือวิกฤตเศรษฐกิจ ตั้งงบ 5.5 ล้านล้านบาท โครงการโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบล พร้อมพัฒนาตัวชี้วัดความก้าวหน้าประเทศ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุน สสส.กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ได้สอบถามในที่ประชุมถึงกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีข้อสังเกตเรื่องเอกสารหลักฐานในการดำเนินการโครงการต่างๆ ที่ สสส.ให้ทุน ซึ่ง สสส.ก็ควรนำข้อสังเกตนั้นมาปรับปรุงให้เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม การทำงานที่ผ่านมาของ สสส.ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน แต่ผลงานที่ได้อาจเป็นเรื่องที่คนมองไม่เห็น เช่น การลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ การลดรายจ่ายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในครัวเรือน แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรให้ปรับปรุง หรือไม่มีปัญหาเลย ซึ่งข้อบกพร่องเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข โดยการพิจารณารับฟังผู้อื่น โดยเฉพาะการอนุมัติงบประมาณในโครงการต่างๆว่าถูกต้องเพียงใด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมได้มีมติ 4 เรื่อง คือ 1.แนวทางการรองรับผลกระทบทางสุขภาวะจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยประกอบด้วย 6 ด้าน คือ 1.1 การจัดหน่วยเฝ้าระวังและติดตามผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจต่อสุขภาวะคนไทย 1.2 การสร้างทักษะในการเผชิญวิกฤต และการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ผู้ถูกเลิกจ้าง 1.3 การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 1.4 การส่งเสริมสถานประกอบการและชุมชนเข้มแข็ง โดยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงานและคนในชุมชน 1.5 การแก้ไขผลกระทบทางสังคมที่ร้ายแรงเพื่อตัดวงจรไม่ให้คนส่วนหนึ่งเข้าสู่วังวนของเหล้า ยาเสพติด เพศ และการพนัน และ 1.6 การนำประเทศสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านตัวชี้วัดความสุขของคนในประเทศ
“2.การพิจารณาโครงการโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบล โดยยกระดับสถานีอนามัยและศูนย์สุขภาพชุมชนให้เป็นหน่วยบริการสุขภาพเชิงรุกในทุกที่ โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อมโยงระบบบริการใกล้บ้านใกล้ใจ ตั้งเป้าในปีแรกให้ยกระดับสถานีอนามัยเป็นศูนย์สุขภาพชุมชน 500 แห่ง ปีถัดไปประมาณ 1,000 แห่ง และถัดปี 3-4 ปี จะมีศูนย์ฯประมาณ 3,000-4,000 แห่ง โดยส่งเสริมบทบาทองค์กรปกครองท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมในการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยจัดสรรทุนให้กับนักเรียนในพื้นที่เพื่อกลับมาทำงานในท้องถิ่น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มติเรื่องที่ 3.คือ การพิจารณาตอบสนองนโยบายรัฐบาล สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้แก่เด็กเยาวชนและครอบครัว โดยเพิ่มพื้นที่และสวนสาธารณะให้เป็นประโยชน์ อาทิ โครงการลานบุญ ลานปัญญา พร้อมกันนี้ให้ สสส.ปรับโครงการ 17 โครงการ และเพิ่มโครงอีก 2 โครงการ เช่น บัณฑิตจิตอาสาโดยรับบัณฑิตตกงานมาร่วมการทำสำรวจข้อมูลด้านสุขภาวะ นอกจากนี้ มติที่ประชุมยังได้แต่งตั้งให้ นพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาผู้จัดการ สสส.คนใหม่ จากเดิมที่ นพ.สุภกร บัวสาย จะหมดวาระในเดือน ก.พ.2553
