นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของ อสม.ที่ทำงานแบบจิตอาสา ช่วยประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชน มีสุขภาพดี เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ ยืนยันการจ่ายค่าตอบแทน อสม.เป็นการแลกกับผลการทำงาน ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินเดือน พร้อมขอให้ อสม.ดูแล 2 งานใหญ่ คือ สร้างเด็กรุ่นใหม่ให้แข็งแรง ฉลาด โดยดูแลตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ และรณรงค์ให้พ่อแม่ปลูกฝังนิสัยให้เด็กไทยรักการอ่าน
นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปสถานีอนามัยบ้านดงตาล ตำบลงิ้วราย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เพื่อทำการบันทึกเทปโทรทัศน์รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ พร้อมพบปะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.และกลุ่มผู้สูงอายุ ในเขตจังหวัดลพบุรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้การป่วยและเสียชีวิตของคนไทย ส่วนใหญ่เกิดมาจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ไม่ใช่การรักษาหรือการจัดหายาแพงๆ มากิน ซึ่งนับวันจะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้นๆ วิธีที่ดีที่สุดคือ ต้องให้ประชาชนมีความรู้เพียงพอที่จะป้องกันตนเอง ใช้ชีวิตถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค ซึ่งประเทศไทยมีกลุ่มชาวบ้านที่เรียกว่า อสม.ที่เข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาสุขภาพ เป็นประชาชนที่มีจิตอาสา จนได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ว่าเป็นการทำงานในเชิงรุก เข้าถึงทุกชุมชน หมู่บ้านทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนได้รับความรู้ รวมทั้งติดตามดูแลคนอื่นในเรื่องสุขภาพด้วย
ที่ผ่านมา เมื่อ อสม.ทำงาน บางครั้งต้องควักกระเป๋าตนเองเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างทำงานที่ภาครัฐวานให้ไปทำ บางครั้งก็มีความยากลำบากมีอุปสรรค รัฐบาลชุดนี้ ได้กำหนดเป็นนโยบายที่จะให้ค่าตอบแทน อสม.เป็นรายเดือน ซึ่งไม่ใช่เงินเดือน ซึ่งค่าตอบแทนนั้น จะต้องผูกโยงกับงานที่รับไปทำกับทางรัฐบาล หรือพูดง่ายๆ ต้องแลกด้วยผลงาน โดย อสม.จะต้องผ่านการฝึกอบรม การขึ้นทะเบียน
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากงานให้ อสม.ทำเพิ่มเติม 2 เรื่องใหญ่ โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องเด็ก เด็กอ่อนหรือเด็กเล็กมากขึ้น เพราะเรื่องเรียนฟรีก็เป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนแล้ว แต่เด็กของเรา ควรได้รับโอกาสตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ที่สำคัญมากคือการปรับปรุงในเรื่องโภชนาการ อาหารการกิน ของแม่ระหว่างตั้งครรภ์ จนถึงการดูแลเด็กเล็กที่ถูกต้อง เมื่อเติบโตขึ้นจะได้เป็นเด็กฉลาด เด็กเก่ง จะรณรงค์เรื่องนี้มากขึ้น และเรื่องที่ 2 คือการกระตุ้นให้คนไทยรักการอ่านหนังสือ โดยจะให้ อสม.รณรงค์ให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง ให้เด็กมีความคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือ
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้วางความพร้อมในการจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม.ทั่วประเทศกว่า 8 แสนคนแล้ว โดยได้จัดประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ และ อสม.ในเรื่องแนวทางการทำงานในหมู่บ้าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย เน้น 2 เรื่องหลัก คือ การส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนมีสุขภาพดีทุกวิถีทาง และการป้องกันโรคทั้งโรคติดเชื้อต่างๆ และโรคที่เกิดจากพฤติกรรม หรือโรคจากวิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้อง เช่นเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง
นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปสถานีอนามัยบ้านดงตาล ตำบลงิ้วราย อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เพื่อทำการบันทึกเทปโทรทัศน์รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ พร้อมพบปะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.และกลุ่มผู้สูงอายุ ในเขตจังหวัดลพบุรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้การป่วยและเสียชีวิตของคนไทย ส่วนใหญ่เกิดมาจากโรคที่เกิดจากพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ไม่ใช่การรักษาหรือการจัดหายาแพงๆ มากิน ซึ่งนับวันจะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้นๆ วิธีที่ดีที่สุดคือ ต้องให้ประชาชนมีความรู้เพียงพอที่จะป้องกันตนเอง ใช้ชีวิตถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค ซึ่งประเทศไทยมีกลุ่มชาวบ้านที่เรียกว่า อสม.ที่เข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาสุขภาพ เป็นประชาชนที่มีจิตอาสา จนได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ว่าเป็นการทำงานในเชิงรุก เข้าถึงทุกชุมชน หมู่บ้านทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนได้รับความรู้ รวมทั้งติดตามดูแลคนอื่นในเรื่องสุขภาพด้วย
ที่ผ่านมา เมื่อ อสม.ทำงาน บางครั้งต้องควักกระเป๋าตนเองเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างทำงานที่ภาครัฐวานให้ไปทำ บางครั้งก็มีความยากลำบากมีอุปสรรค รัฐบาลชุดนี้ ได้กำหนดเป็นนโยบายที่จะให้ค่าตอบแทน อสม.เป็นรายเดือน ซึ่งไม่ใช่เงินเดือน ซึ่งค่าตอบแทนนั้น จะต้องผูกโยงกับงานที่รับไปทำกับทางรัฐบาล หรือพูดง่ายๆ ต้องแลกด้วยผลงาน โดย อสม.จะต้องผ่านการฝึกอบรม การขึ้นทะเบียน
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากงานให้ อสม.ทำเพิ่มเติม 2 เรื่องใหญ่ โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องเด็ก เด็กอ่อนหรือเด็กเล็กมากขึ้น เพราะเรื่องเรียนฟรีก็เป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนแล้ว แต่เด็กของเรา ควรได้รับโอกาสตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ที่สำคัญมากคือการปรับปรุงในเรื่องโภชนาการ อาหารการกิน ของแม่ระหว่างตั้งครรภ์ จนถึงการดูแลเด็กเล็กที่ถูกต้อง เมื่อเติบโตขึ้นจะได้เป็นเด็กฉลาด เด็กเก่ง จะรณรงค์เรื่องนี้มากขึ้น และเรื่องที่ 2 คือการกระตุ้นให้คนไทยรักการอ่านหนังสือ โดยจะให้ อสม.รณรงค์ให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง ให้เด็กมีความคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือ
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้วางความพร้อมในการจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม.ทั่วประเทศกว่า 8 แสนคนแล้ว โดยได้จัดประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ และ อสม.ในเรื่องแนวทางการทำงานในหมู่บ้าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย เน้น 2 เรื่องหลัก คือ การส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนมีสุขภาพดีทุกวิถีทาง และการป้องกันโรคทั้งโรคติดเชื้อต่างๆ และโรคที่เกิดจากพฤติกรรม หรือโรคจากวิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้อง เช่นเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง