“นริศรา” เรียกข้าราชการ สอศ.ประชุม เน้นการทำงานเป็นทีมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน พร้อมมอบนโยบาย 3 ด้านหลัก คือ พัฒนาอาชีวะเป็นระดับ ป.ตรี อีกทั้งพัฒนานักศึกษาให้มีทักษะ ประสบการณ์ ประกอบอาชีพได้ รวมถึงนโยบายเรียนฟรีต้องให้ถึงตัวนักศึกษาอย่างมีคุณภาพ และจัดตั้งจัดตั้งโครงการ “อาชีวะสอนอาชีพ” 3 โครงการ เพื่อให้นักศึกษาจบมามีอาชีพ
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานประชุมข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อมอบนโยบายบริหารงานและกำกับดูแลกำลังคนด้านอาชีวศึกษา โดยมีนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) และผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมประชุม
นางสาวนริศรา กล่าวว่า การทำงานของตนนั้นจะเน้นการทำงานเป็นทีม เพื่อทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สำหรับนโยบายในการทำงานแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ ประกอบด้วย 1.เรื่องงบประมาณกับบุคลากร และกฎระเบียบข้อบังคับในการปฏิบัติ จะเน้นในเรื่องการยกระดับสถานศึกษาอาชีวะให้เป็นระดับปริญญาตรี 20 แห่ง ทั่วประเทศภายในปี 2552 ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการปฏิรูปบุคลการทางการศึกษา ส่วนในเรื่องของหลักสูตรการเรียน การสอนนั้นจะต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงเพื่อให้ตอบสนองกับความทันสมัยของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อให้รองรับในระดับปริญญาตรี อีกทั้งนักศึกษาสามารถนำไปต่อยอดในเรื่องของอาชีพได้ และจะทำเป็นมาตรฐานทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้เลขาธิการ กอศ.เป็นผู้ดูแล
2.พัฒนาคุณภาพนักศึกษาให้ผู้เรียนอาชีวศึกษาได้ มีความรู้ด้านวิชาการ มีทักษะ มีประสบการณ์ในด้านวิชาชีพและมีจริยธรรม เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษานั้นมีคุณภาพสามารถนำความรู้ที่เรียนมาไปประกอบอาชีพได้ โดยจะทำการจะส่งเสริมให้นักศึกษาไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ มีรายได้และยังเป็นการเพิ่มแรงงานไปสู่ตลาด นอกจากนี้แล้วยังอยากให้ส่งตัวนักศึกษาไปประกวดการแข่งขันเพื่อให้สังคมรู้ว่านักเรียนอาชีวมีผลงาน มีความรู้และความสามารถแค่ไหน
และ 3.เรื่องนโยบายเรียนฟรีของรัฐบาลที่จะต้องเร่งดำเนินการให้ไปถึงตัวนักศึกษาให้เร็วที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารงบประมาณประจำปี 2552 ที่มีการวางแผน โดยมอบให้เลขาธิการ กอศ.เป็นผู้ดูแล ส่วนในเรื่องของการเตรียมจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้นจะเน้นที่เรื่องของการพัฒนาบุคลากร สถาบัน รวมไปถึงอุปกรณ์การเรียนการสอน และกิจกรรมของนักศึกษา ที่ต้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ รมช.ศธ.กล่าวเพิ่มว่า จะจัดให้มีโครงการอาชีวะสอนอาชีพ เพราะทางรัฐบาลมีงบประมาณในการสร้างอาชีพซึ่งจะตั้งหน่วยงานขึ้นมาเอง โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อนภายใต้โครงการดังกล่าว ซึ่งมีทั้งหมด 3 โครงการ คือ 1.โครงการเกษตรกรคืนถิ่น 2.โครงการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น 108 อาชีพ และ 3.โครงการศูนย์ซ่อมสร้าง ช่วยเหลือชุมชนเคลื่อนที่
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานประชุมข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อมอบนโยบายบริหารงานและกำกับดูแลกำลังคนด้านอาชีวศึกษา โดยมีนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) และผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมประชุม
นางสาวนริศรา กล่าวว่า การทำงานของตนนั้นจะเน้นการทำงานเป็นทีม เพื่อทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สำหรับนโยบายในการทำงานแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ ประกอบด้วย 1.เรื่องงบประมาณกับบุคลากร และกฎระเบียบข้อบังคับในการปฏิบัติ จะเน้นในเรื่องการยกระดับสถานศึกษาอาชีวะให้เป็นระดับปริญญาตรี 20 แห่ง ทั่วประเทศภายในปี 2552 ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการปฏิรูปบุคลการทางการศึกษา ส่วนในเรื่องของหลักสูตรการเรียน การสอนนั้นจะต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงเพื่อให้ตอบสนองกับความทันสมัยของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อให้รองรับในระดับปริญญาตรี อีกทั้งนักศึกษาสามารถนำไปต่อยอดในเรื่องของอาชีพได้ และจะทำเป็นมาตรฐานทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้เลขาธิการ กอศ.เป็นผู้ดูแล
2.พัฒนาคุณภาพนักศึกษาให้ผู้เรียนอาชีวศึกษาได้ มีความรู้ด้านวิชาการ มีทักษะ มีประสบการณ์ในด้านวิชาชีพและมีจริยธรรม เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษานั้นมีคุณภาพสามารถนำความรู้ที่เรียนมาไปประกอบอาชีพได้ โดยจะทำการจะส่งเสริมให้นักศึกษาไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เพื่อให้นักศึกษามีประสบการณ์ มีรายได้และยังเป็นการเพิ่มแรงงานไปสู่ตลาด นอกจากนี้แล้วยังอยากให้ส่งตัวนักศึกษาไปประกวดการแข่งขันเพื่อให้สังคมรู้ว่านักเรียนอาชีวมีผลงาน มีความรู้และความสามารถแค่ไหน
และ 3.เรื่องนโยบายเรียนฟรีของรัฐบาลที่จะต้องเร่งดำเนินการให้ไปถึงตัวนักศึกษาให้เร็วที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารงบประมาณประจำปี 2552 ที่มีการวางแผน โดยมอบให้เลขาธิการ กอศ.เป็นผู้ดูแล ส่วนในเรื่องของการเตรียมจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้นจะเน้นที่เรื่องของการพัฒนาบุคลากร สถาบัน รวมไปถึงอุปกรณ์การเรียนการสอน และกิจกรรมของนักศึกษา ที่ต้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ รมช.ศธ.กล่าวเพิ่มว่า จะจัดให้มีโครงการอาชีวะสอนอาชีพ เพราะทางรัฐบาลมีงบประมาณในการสร้างอาชีพซึ่งจะตั้งหน่วยงานขึ้นมาเอง โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อนภายใต้โครงการดังกล่าว ซึ่งมีทั้งหมด 3 โครงการ คือ 1.โครงการเกษตรกรคืนถิ่น 2.โครงการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น 108 อาชีพ และ 3.โครงการศูนย์ซ่อมสร้าง ช่วยเหลือชุมชนเคลื่อนที่
