มาแล้ว! โครงการลดดอกเบี้ย เพื่อการศึกษา โรงรับจำนำ กทม.พร้อมใจลดดอกเบี้ยเหลือ 0.5 ต่อเดือนวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง นิสิต นักศึกษา ขณะที่ประชาชนทั่วไปได้เท่ากัน แต่วงเงินไม่เกิน 3,000 บาท กทม.เตรียมตังค์รอ 400 ล้านบาท “ธีระชน” เตรียมกระจายโรงรับจำนำ กทม.ไปพื้นที่ชั้นนอกอีก 10 แห่ง เล็งพาขึ้นห้างอำนวยความสะดวกอีกระดับ
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า กทม.จัดทำโครงการลดดอกเบี้ย เพื่อการศึกษา เพื่อช่วยลดภาระผู้ปกครองช่วงเปิดเทอม โดยสถานธนานุบาลของ กทม.จำนวน 20 แห่ง จะคิดอัตรารับจำนำดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ต่อเดือน วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท เริ่ม 1 เม.ย.-31 พ.ค.2552 โดยผู้ปกครองจะต้องนำเอกสาร ยืนยันว่า มีบุตรกำลังศึกษาอยู่จริง และหากเป็นนิสิตนักศึกษาให้นำหลักฐานการเป็นนิสิต นักศึกษามายืนยัน สำหรับประชาชนทั่วไป ก็จะได้รับสิทธิลดอัตราดอกเบี้ยจำนำเช่นเดียวกันโดยวงเงินไม่เกิน 3,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ต่อเดือน และหากเกิน 3,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.95 ต่อเดือน เริ่ม 1 เม.ย.ถึงสิ้นปีงบประมาณ ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมเงินไว้รองรับจำนวน 400 บาทสำหรับ 2 โครงการ
นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังได้มอบนโยบายให้กับสถานธนานุบาลของ กทม.ทั้ง 20 แห่ง ว่า จะต้องมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ ทั้งสถานที่ตั้ง รูปแบบการให้บริการ โดยในอนาคตจะเปิดสถานธนานุบาล กทม.ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงใช้สื่ออิเลกทรอนิกส์ในการแสดงสินค้าที่หลุดจำนำ รวมถึงจะกระจายสถานธนานุบาลของ กทม.ที่ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชั้นกลางขยายออกไปชั้นมากขึ้นอีก 10 สาขา ซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ในการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 สถานธนานุบาล กทม.มีรายได้ 74 ล้านบาท ลดลงจากปี 2550 ที่จัดเก็บได้ 78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5 ทั้งนี้ เนื่องจาก กทม.ได้จัดโครงการลดดอกเบี้ยเพื่อการศึกษามาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งแม้รายได้จะลดแต่กลับมีจำนวนประชาชนมาใช้บริการสถานธนานุบาล กทม.เพิ่มมากขึ้น
