นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมตัวแทนสถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำในพื้นที่ กทม. 20 แห่ง ว่าได้มอบนโยบายปรับปรุงภาพลักษณ์โรงรับจำนำให้ทันสมัย และให้ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายสินค้าที่หลุดจำนำ หากที่ใดพร้อมก็ให้เริ่มได้เลยเชื่อว่าภายใน 6 เดือนจะสามารถเห็นโรงรับจำนำรูปแบบใหม่ใน กทม.อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่จำเป็นต้องนำสิ่งของมาจำนำเพื่อนำเงินมาใช้เป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน ด้วยการลดดอกเบี้ยตามโครงการลดดอกเบี้ยเพื่อการศึกษา คิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือนจากเดิม 1.25 บาทต่อเดือน ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย ผู้ปกครองต้องนำเอกสารหลักฐานมายืนยันการเล่าเรียนของบุตรด้วย อาทิ หนังสือรับรองจากโรงเรียน บัตรประจำตัวนักศึกษา เป็นต้น
โครงการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน-31 พฤษภาคม 2552 ในส่วนประชาชนทั่วไป กทม.ช่วยเหลือเช่นกันเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือนในวงเงินต้นไม่เกิน 3,000 บาท และหากวงเงินต้นเกิน 3,000 บาท จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.95 บาทต่อเดือน จากเดิมร้อยละ 1.25 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ ทั้งนี้ กทม.เตรียมวงเงินไว้สำหรับ 2 โครงการ 400 ล้านบาท เชื่อว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่จำเป็นต้องนำสิ่งของมาจำนำเพื่อนำเงินมาใช้เป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน ด้วยการลดดอกเบี้ยตามโครงการลดดอกเบี้ยเพื่อการศึกษา คิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือนจากเดิม 1.25 บาทต่อเดือน ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย ผู้ปกครองต้องนำเอกสารหลักฐานมายืนยันการเล่าเรียนของบุตรด้วย อาทิ หนังสือรับรองจากโรงเรียน บัตรประจำตัวนักศึกษา เป็นต้น
โครงการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน-31 พฤษภาคม 2552 ในส่วนประชาชนทั่วไป กทม.ช่วยเหลือเช่นกันเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือนในวงเงินต้นไม่เกิน 3,000 บาท และหากวงเงินต้นเกิน 3,000 บาท จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.95 บาทต่อเดือน จากเดิมร้อยละ 1.25 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ ทั้งนี้ กทม.เตรียมวงเงินไว้สำหรับ 2 โครงการ 400 ล้านบาท เชื่อว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
