xs
xsm
sm
md
lg

คาดหั่นดอกเบี้ยหมดความขลังกระตุ้นศก.แนะรัฐบาลเร่งฟื้นท่องเที่ยวเห็นผลมากสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วรรธนะ วงศ์ศรีนิล
ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้บริหารบลจ.ฟิลลิป ชี้กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยไม่มาก เหตุอัตราดอกเบี้ยใกล้จุดต่ำสุด และแบงก์พาณิชย์ส่วนใหญ่ยื้อปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำต้นทุนผู้ประกอบการยังอยู่ในระดับสูง พร้อมแนะรัฐเร่งกระตุ้นภาคท่องเที่ยว มั่่นใจเห็นผลมากสุด แถมต้นทุนต่ำเน้นโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น
 นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ฟิลลิป จำกัด เปิดเผยว่า การลดอัตราดอกเบี้ยของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในตอนนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่าจะไม่ค่อยมีผลมากนัก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำหรือใกล้จุดที่ต่ำสุด(Ttrap)มากแล้ว
 ทั้งนี้ เชื่อว่าการลดดอกเบี้ยอีก ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เนื่องจากลูกค้าเงินกู้ยังมีต้นทุนสูงอยู่ โดยเงินอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง 3-4% แต่ดอกเบี้ยเงินฝากปัจจุบันกลับไม่ถึง 1%
  “ที่ต้องลดเพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แบงก์พาณิชย์ จะลดอัตราดอกเบี้ยในส่วนเงินกู้น้อยมาก ที่ได้ยินมา เอสเอ็มอี บางแห่งยังกลับโดนดอกเบี้ยเพิ่มอีก เพราะเครดิตลิสต์เพิ่มขึ้นในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ในส่วนเงินฝากกลับลดลงเร็วกว่า ซึ่งแบงก์ส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าสเปรดของเขายังเท่าเดิมอยู่”นายวรรธนะกล่าว
 อ ย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันจะยังอยู่ในช่วงขาลงไปอีกตลอดทั้งปี เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยหนุนอะไรที่สามารถผลักดันให้เกิดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้  เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว และการลดอัตราดอกเบี้ยยังมีผลในแง่จิตวิทยาต่อนักลงทุนอีกด้วย
   นายวรรธนะ กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันแนวโน้มการส่งออกไทยถือว่าอยู่ในระดับที่แย่ ซึ่งขณะการที่เงินบาทยังเป็นตัวช่วยพยุงได้พอสมควร แต่เชื่อว่าหากเป็นเพราะรัฐบาลหรือแบงก์ชาติคอยดูแลด้านค่าเงินพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยแล้ว จะสามารถควบคุมได้นานขนาดไหน เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นประเทศไหนสามารถควบคุมอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินพร้อมกันทั้ง 2 อย่างได้เลย
   ทั้งนี้ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดขณะนี้ น่าจะเป็นการช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่า เนื่องจากเป็นภาคที่น่าจะเห็นผลลัพธ์ได้ง่ายที่สุด นอกจากนี้รัฐบาลยังเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการกระตุ้นส่วนอื่น เพราะมีเพียงแค่งบในการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น
เราต้องทำอะไรมากแค่โปรโมทแหล่งท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่น ส่วนเรื่องดอกเบี้ย และค่าเงินก็ไม่ต้องสนใจอะไรมาก ซึ่งอย่าลืมว่าเมื่อคนมาท่องเที่ยวแค่เข้าประเทศก็ต้องมีการใช้จ่ายเกิดขึ้นแล้ว และถ้ากระตุ้นตรงนี้น่าจะเห็นผลได้เร็วกว่าส่วนอื่น”นายวรรธนะกล่าว
 สำหรับ ผลการประชุม กนง.วานนี้ พบว่า มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% ต่อปี จากเดิมที่อยู่ 2% เป็น 1.50%  และมีผลทันที โดยให้เหตุผลว่าการนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องจะเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเสถียรภาพในช่วงต่อไปได้ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีโอกาสปรับลดลงต่ำกว่าเป้าหมายในบางช่วงของปีจึงทำให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้
 อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงครั้งนี้ยังถือว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยประเทศไต้หวันดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.25% ในขณะที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 1.6% ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ
 ทั้งนี้ นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)  คาด  กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไป ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.75% และ เชื่อว่าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์จะทยอยปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงอีก    
กำลังโหลดความคิดเห็น