ASTVผู้จัดการรายวัน - ทิสโก้คาดผลการประชุมกนง. รอบวันที่ 25 ก.พ.นี้ จะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.50% ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลก ระบุปีนี้ยังตั้งเป้าเงินฝากโต 5% พร้อมงัดกลยุทธ์ให้ดอกเบี้สูงกว่าแบงก์ใหญ่ดึงเงินฝากกลับ ล่าสุดออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก"ทิสโก้แคช เอ็ม เซฟวิ่งส์" (TISCO Cash M Savings) ซึ่งเป็นเงินฝากออมทรัพย์ที่รวมไว้กับการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ
นายวัศกร เทพทิม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ คาดว่าน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก0.50% จากปัจจุบันที่อยู่ 2% เหลือ 1.5%โดยมองว่าเป็นไปตามทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกที่หลายประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0% แล้วอีกทั้งปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของไทยปรับลดลงอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง
"ตอนนี้ดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรระยะสั้นได้ปรับลดลงมารอแล้วเหลือ 1.5% เนื่องจากในตลาดมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงมาเหลือ 1.5%ส่วนธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามหรือไม่ต้องขอดูหลังการประกาศของกนง.ก่อน แต่ในครั้งที่ผ่านมาธนาคารก็ปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 1% ตามกนง."นายวัศกร กล่าว
ทั้งนี้ในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาลงนั้น ผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคารทิสโก้จะเป็นในลักษณะเน้นเงินฝากออมทรัพย์มากขึ้นเนื่องจากลดต้นทุนดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารได้มากกว่าเงินฝากประจำ อย่างไรก็ตามในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มเงินฝากขึ้นอีก 5% จากฐานเงินฝากสิ้นปี 2551ที่อยู่ 100,591 ล้านบาท โดยธนาคารจะเน้นการเพิ่มฐานลูกค้ารายย่อยซึ่งใช้กลยุทธ์การให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่เล็กน้อย แม้ว่าในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาฐานเงินฝากรวมของธนาคารจะลดลงเหลือ 98,494 ล้านบาท หลังจากที่ลูกค้าหันไปฝากเงินกับธนาคารขนาดใหญ่ จึงทำให้เงินฝากลดลงแต่หลังจากนี้ธนาคารจะออกผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและให้ความสะดวกแก่ลูกค้า เชื่อว่าน่าจะเพิ่มฐานเงินฝากลูกค้าได้
ล่าสุดธนาคารทิสโก้ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่เพื่อการบริหารเงิน ในชื่อ "ทิสโก้แคช เอ็ม เซฟวิ่งส์" (TISCO Cash M Savings) ซึ่งรวมเอาเงินฝากออมทรัพย์ซึ่งมีสภาพคล่องสูงมารวมไว้กับการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ สำหรับขั้นตอนในการเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อการบริหารเงิน ลูกค้าจะต้องมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ (พรีเมียม เซฟวิ่งส์) โดยจะเป็นลูกค้าเก่า หรือเปิดบัญชีใหม่ก็ได้ โดยเปิดบัญชีขั้นต่ำตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป และฝากเพิ่มอีก 10,000 บาทสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน กับริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ. ทิสโก้) ทั้งนี้ ลูกค้าจะต้องกำหนดยอดขั้นต่ำที่จะคงไว้ในบัญชีโดยต้องไม่น้อยกว่า 20,000 บาท
ด้านนายพิชา รัตนธรรม หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวถึงการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ระหว่างเงินฝากเข้ากับกองทุนรวมในครั้งนี้ว่า บลจ. ทิสโก้ได้จัดตั้ง "กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชียล เซฟวิ่ง ฟันด์" (TISCO Special Saving Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่จะซื้อขายผ่านบัญชีออมทรัพย์พิเศษ "แคช เอ็ม เซฟวิ่งส์" ของธนาคารทิสโก้เท่านั้น โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และเงินฝากธนาคารและตราสารในกลุ่มทิสโก้ ซึ่งล้วนเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำใกล้เคียงกับพันธบัตรรัฐบาล
"สำหรับแคช เอ็ม เซฟวิ่งส์ ผลตอบแทนคาดว่าไม่น่าจะห่างจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษเดิมของธนาคารทิสโก้มากนัก ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1.00% -1.75% ตามระดับเงินฝาก แต่จะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ฝากเงินที่มีวงเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ก็แนะนำให้มาเปิดบัญชีแคช เอ็ม เซฟวิ่งส์ แทน เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนนี้ไม่เสียภาษี และหากดอกเบี้ยเงินฝากไม่ถึง 20,000 บาทก็ไม่เสียภาษีเช่นเดียวกัน จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงและต้องการบริหารเงินให้ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ เป็นทางเลือกที่ดีในภาวะดอกเบี้ยขาลง" นายพิชา กล่าว
นายวัศกร เทพทิม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ คาดว่าน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก0.50% จากปัจจุบันที่อยู่ 2% เหลือ 1.5%โดยมองว่าเป็นไปตามทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกที่หลายประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0% แล้วอีกทั้งปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของไทยปรับลดลงอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง
"ตอนนี้ดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรระยะสั้นได้ปรับลดลงมารอแล้วเหลือ 1.5% เนื่องจากในตลาดมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงมาเหลือ 1.5%ส่วนธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามหรือไม่ต้องขอดูหลังการประกาศของกนง.ก่อน แต่ในครั้งที่ผ่านมาธนาคารก็ปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 1% ตามกนง."นายวัศกร กล่าว
ทั้งนี้ในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาลงนั้น ผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคารทิสโก้จะเป็นในลักษณะเน้นเงินฝากออมทรัพย์มากขึ้นเนื่องจากลดต้นทุนดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารได้มากกว่าเงินฝากประจำ อย่างไรก็ตามในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มเงินฝากขึ้นอีก 5% จากฐานเงินฝากสิ้นปี 2551ที่อยู่ 100,591 ล้านบาท โดยธนาคารจะเน้นการเพิ่มฐานลูกค้ารายย่อยซึ่งใช้กลยุทธ์การให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่เล็กน้อย แม้ว่าในเดือนม.ค.ที่ผ่านมาฐานเงินฝากรวมของธนาคารจะลดลงเหลือ 98,494 ล้านบาท หลังจากที่ลูกค้าหันไปฝากเงินกับธนาคารขนาดใหญ่ จึงทำให้เงินฝากลดลงแต่หลังจากนี้ธนาคารจะออกผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและให้ความสะดวกแก่ลูกค้า เชื่อว่าน่าจะเพิ่มฐานเงินฝากลูกค้าได้
ล่าสุดธนาคารทิสโก้ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบใหม่เพื่อการบริหารเงิน ในชื่อ "ทิสโก้แคช เอ็ม เซฟวิ่งส์" (TISCO Cash M Savings) ซึ่งรวมเอาเงินฝากออมทรัพย์ซึ่งมีสภาพคล่องสูงมารวมไว้กับการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ สำหรับขั้นตอนในการเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อการบริหารเงิน ลูกค้าจะต้องมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ (พรีเมียม เซฟวิ่งส์) โดยจะเป็นลูกค้าเก่า หรือเปิดบัญชีใหม่ก็ได้ โดยเปิดบัญชีขั้นต่ำตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป และฝากเพิ่มอีก 10,000 บาทสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน กับริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ. ทิสโก้) ทั้งนี้ ลูกค้าจะต้องกำหนดยอดขั้นต่ำที่จะคงไว้ในบัญชีโดยต้องไม่น้อยกว่า 20,000 บาท
ด้านนายพิชา รัตนธรรม หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวถึงการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ระหว่างเงินฝากเข้ากับกองทุนรวมในครั้งนี้ว่า บลจ. ทิสโก้ได้จัดตั้ง "กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชียล เซฟวิ่ง ฟันด์" (TISCO Special Saving Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่จะซื้อขายผ่านบัญชีออมทรัพย์พิเศษ "แคช เอ็ม เซฟวิ่งส์" ของธนาคารทิสโก้เท่านั้น โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และเงินฝากธนาคารและตราสารในกลุ่มทิสโก้ ซึ่งล้วนเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำใกล้เคียงกับพันธบัตรรัฐบาล
"สำหรับแคช เอ็ม เซฟวิ่งส์ ผลตอบแทนคาดว่าไม่น่าจะห่างจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษเดิมของธนาคารทิสโก้มากนัก ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1.00% -1.75% ตามระดับเงินฝาก แต่จะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ฝากเงินที่มีวงเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ก็แนะนำให้มาเปิดบัญชีแคช เอ็ม เซฟวิ่งส์ แทน เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนนี้ไม่เสียภาษี และหากดอกเบี้ยเงินฝากไม่ถึง 20,000 บาทก็ไม่เสียภาษีเช่นเดียวกัน จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงและต้องการบริหารเงินให้ได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ เป็นทางเลือกที่ดีในภาวะดอกเบี้ยขาลง" นายพิชา กล่าว