xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโครงการ “ช้างยิ้ม” ช่วยช้างเร่ร่อน รัฐหนุน 12 ล.แถมเงินเดือนควาญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
กทม.เดินหน้าแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน ผนึกหลายหน่วยงาน เปิดตัวโครงการ “ช้างยิ้ม” อย่างเป็นทางการ ทำกิจกรรมรณรงค์ทุกเดือน เบื้องต้นชวนเด็กส่งเรียงความประกวดหวังปลุกจิตสำนัก ขณะที่รัฐบาลหนุนงบ 12 ล้านส่งช้างกลับบ้าน แถมให้เงินเดือนควาญช้าง 8,000 ต่อเดือน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวโครงการช้างยิ้มว่า ปัญหาช้างเร่ร่อนในเมืองหลวงเรื้อรังมานาน ตั้งแต่ปี 2532 ที่รัฐบาลยกเลิกสัมปทานป่าไม้ ทำให้ช้างและควาญช้างไม่มีงานทำ เพื่อความอยู่รอดของควาญช้างและช้าง ได้มีระบบทุนใหญ่กว้านซื้อช้างมาหากินในเมืองหลวงจนเป็นธุรกิจใหญ่ ทั้งการขายของที่ระลึก และการขายอาหารให้ช้างกับนักท่องเที่ยว ฯลฯ ส่งผลให้เกิดปัญหาเดือดร้อนรำคาญและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
 ดังนั้น กทม.จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหา โดย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) จะดำเนินการการสำรวจช้างจำนวนกว่า 200 เชือกใน กทม. เพื่อฝังไมโครชิป โดยใช้พื้นเขตทหารบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เป็นแหล่งพักช้างชั่วคราวและเป็นสถานที่ในการจัดฝังไมโครชิฟช้างก่อนส่งไปให้กับหน่วยงานหรือสถานที่อื่นๆต่อไป นอกจากนี้ยังมีมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ จะทำการฟื้นฟูสภาพช้าง 81 เชือกก่อนที่จะกลับเข้าป่า
 ส่วนภาคเอกชน ทางสวนนงนุช จ.ชลบุรี ได้รับร่วมโครงการ โดยระบุว่ามีงบรองรับช้างตกงานให้ไปอาศัยที่สวนไม่จำกัดจำนวน พร้อมทั้งจะมีรายได้ให้ควาญช้าง รวมถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายอื่น อาทิ สวนสามพราน จ.นครปฐม และซาฟารีเวิลด์ ก็ได้ตอบรับร่วมโครงการฯ มาแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คาดว่าทั้งหมดจะรองรับช้างได้ไม่ต่ำกว่า 100 เชือก

ด้าน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ล่าสุดทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ เป็นเงิน 12 ล้านบาท ให้แก่องค์การสวนสัตว์ เพื่อส่งช้าง 100 เชือก กลับภูมิลำเนา โดยจะสนับสนุนเงินเดือนให้กับควาญช้างเป็นเงิน 8,000 บาทต่อเดือน และสนับสนุนค่าเลี้ยงดูช้างเป็นเงิน 10,000 บาทต่อเชือกเป็นประจำทุกเดือน และจะเพิ่มจำนวนในปีงบประมาณต่อไปด้วย

ส่วนแผนการดำเนินงานด้านการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนใน กทม. หลังจากนี้อีก 1 เดือน กทม. จะร่วมกับหน่วยงานเพื่อจะปูพรมตรวจจับช้างอย่างจริงจัง โดยจะเชิญองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อประสานในการจัดหางานและแหล่งที่อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ช้างกลับเข้ามาเร่ร่อนในพื้นที่ กทม. รวมถึงไหลออกจากพื้นที่อื่นๆ

นอกจากนี้ ได้ประสานไปยังสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการ จัดกิจกรรมดึงเด็กและเยาวชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน พร้อมจัดกิจกรรมให้เด็กประกวดเรียงความชิงทุนการศึกษา ในหัวข้อ “รวมพลังเยาวชนรุ่นใหม่..ช่วยช้างยิ้มได้ ช่วยชาติไทยยิ้มด้วย”
โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ชิงทุนรวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท อย่างไรก็ตามก็ตาม กทม. พยายามจะทำโครงการดังกล่าว ให้สำเร็จได้ภายใน 2 ปี โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อน 18 หน่วยงานเป็นประจำทุกเดือนและจะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับช้างทุกๆเดือนเช่นกัน ส่วนระยะยาว จะเสนอให้รัฐบาลยกเลิกช้างเป็นสัตว์พาหนะตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ.2482 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ด้วย รวมทั้งการเพิ่มอัตราค่าปรับและโทษสูงสุดกับผู้ที่ฝ่าฝืนด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น