xs
xsm
sm
md
lg

คสช.เห็นชอบร่างธรรมนูญระบบสุขภาพแห่งชาติ-มอบ สช.แก้ปัญหามาบตาพุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ มีมติเห็นชอบร่างธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติฉบับแรก ใช้กำหนดทิศทางในฝันของประเทศ ตั้งคณะกรรมการสนับสนุนศึกษาติดตามการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มอบสช.แก้ปัญหาในพื้นที่มาบตาพุด กำหนด อปท.เพิ่มบทบาทประเมินผลกระทบทางสุขภาพของโครงการที่จะผุดในชุมชนมากขึ้น

วันนี้ (23 มี.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2552 โดยใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงว่า มติของที่ประชุม คสช.ได้ให้ความเห็นชอบร่างธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 1 ซึ่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 กำหนดให้ คสช.จัดทำเพื่อใช้เป็นกรอบและแนวทางการกำหนดนโยบายด้านสุขภาพของประเทศ จากนี้จะมีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนรายงานให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบ

“คสช.ได้ให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการศึกษาและติดตามการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและนโยบายสุขภาพ อีกทั้ง เห็นชอบมอบให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ใช้กระบวนการสมัชชาสุขภาพแก้ปัญหาในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งได้เสนอให้รัฐบาลชะลอการขยายและก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่มาบตาพุดและบ้านฉาง และเห็นชอบมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการเข้าถึงยาของคนไทยและการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างผู้ป่วยและญาติ กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยเรื่องทั้งหมดจะนำเสนอต่อ ครม.พิจารณาต่อไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ด้านนพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวว่า หากธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะส่งผลให้หน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน นำไปเป็นทิศทางอนาคตของระบบสุขภาพในทุกมิติ โดยธรรมนูญฯจะประกอบด้วย 12 หมวด 111 ข้อ อาทิ ในอนาคตบริการปฐมภูมิใกล้บ้านของคนไทยจะเป็นบริการที่มีศักดิ์ศรีมีคุณภาพ ,การมีโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยประจำภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องเพิ่มบทบาทในการประเมินผลกระทบทางสุขภาพของโครงการที่จะเข้ามาในชุมชน และเมื่อใช้ไปอย่างน้อย 5 ปี จะต้องมีการทบทวนธรรมนูญฯใหม่

“ส่วนเรื่องที่ คสช.มอบหมายให้ สช.ใช้สมัชชาสุขภาพซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนแก้ปัญหามลพิษมาบตาพุดนั้น สช.จะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาคการเมือง หน่วยงานของรัฐ ภาคธุรกิจ นักวิชาการและภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษตามหลักการทำนโยบายสาธารณะที่ดี เนื่องจากหากไม่มีการเชิญทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เมื่อนำสู่การปฏิบัติจะเกิดความขัดแย้งขึ้น” นพ.อำพล กล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น