ผอ.สท.ชี้ ได้ผลสรุปยอดผู้ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจันทร์นี้ เผย ยอดผู้ลงทะเบียนรวบรวมจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาทั้ง 75 จังหวัด กว่า 2.4 ล้านคน กทม.3.4 แสนคน พัทยากว่า 3 พันคน คาด วันสุดท้ายได้ตามเป้า 3 ล้านคน ระบุขอเวลาตรวจสอบรายชื่อ คุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ 1 สัปดาห์ก่อนประกาศรายชื่อผู้รับสิทธิ์ได้ไม่เกินสิ้นเดือน มี.ค.แน่นอน และพร้อมกดปุ่มจ่ายเงินได้ 9 เม.ย.นี้
วันนี้ (15 มี.ค.) นายกิตติ สมานไทย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) กล่าวว่า ในวันนี้ (15 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายในการลงทะเบียนแจ้งสิทธิ์ขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 500 บาท โดยในภาพรวมของตัวเลขผู้มาลงทะเบียนที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา คือ ตัวเลขจากส่วนภูมิภาค ทั้ง 75 จังหวัด มีผู้สูงอายุลงทะเบียนแล้วกว่า 2,400,000 คน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต มีจำนวนผุ้สูงอายุมาลงทะเบียน 340,000 คน และเมืองพัทยามีผู้สูงอายุมาลงทะเบียน 3,000 กว่าคน โดยยอดรวม ณ ขณะนั้นจะอยู่ที่ 2,790,000 คน และคาดว่า หากรวมกับจำนวนผู้สูงอายุที่จะลงทะเบียนในช่วง 2 วันสุดท้ายก็คงได้ตัวเลขอยู่ที่ 3,000,000 คน ซึ่งถือว่าตรงตามเป้าที่วางเอาไว้
ทั้งนี้ ยอดสรุปจำนวนผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนทั้งหมดทั่วประเทศจะสามารถรวบรวมได้ในวันพรุ่งนี้ (16 มี.ค.) ซึ่งในวันที่ 18 มี.ค.นี้จะนำยอดรายชื่อผู้ลงทะเบียนทั้งหมดเข้าแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และจะรับฟังข้อมูลสรุปทั้งหมดและกำหนดการดำเนินการต่อไป จากนั้นจะขอเวลาเพื่อทำการตรวจสอบรายชื่อผู้ลงทะเบียนถึงคุณสมบัติ ว่า ตรงตามหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ คือ ต้องไม่เป็นผู้ที่ได้รับเงินบำนาญ หรือเงินช่วยเหลือพิเศษจากทางราชการใดๆ พร้อมทั้งต้องตรวจสอบรายละเอียดเพื่อความชัดเจนในรายชื่อ เพราะที่ผ่านมา พบว่า มีผู้สูงอายุเดินทางมาลงทะเบียนซ้ำหลายครั้ง ซึ่งขั้นตอนในการตรวจสอบรายชื่อตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้ คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคมนี้ จะสามารถประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 500 บาท ทันที ซึ่งหากจังหวัดไหนตรวจสอบคุณสมบัติให้เข้าตามหลักเกณฑ์เสร็จก่อนก็ให้ประกาศรายชื่อได้เลย เพราะจะต้องเร่งให้สามารถจ่ายเงินได้ทันในช่วงเดือนเมษายนนี้
“ปัญหาที่พบในหลายเรื่องก็ได้ทำการแก้ไขไปที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนมากเป็นในส่วนของการกรอกข้อมูลที่ผิดพลาด เรื่องของการแจ้งบัญชีโอนเงินผ่านธนาคาร ที่หลายรายยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโอนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยนั้น ก็เนื่องจากผู้สูงอายุที่ประสงค์จะรับเงินผ่านบัญชีธนาคาร เงินทั้งหมดกรมบัญชีกลางจะเป็นผู้โอนเข้าให้ ซึ่งหน่วยงานราชการส่วนมากก็จะใช้ธนาคารกรุงไทยอยู่แล้ว และหากใช้บัญชีจากกรุงไทยโอนเข้ากรุงไทยก็จะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอน ซึ่งอาจต้องหักจากบัญชีผู้รับ หากเป็นธนาคารอื่นก็ทำได้ แต่ก็จะเสียค่าโอนประมาณ 8-10 บาท แต่ปัญหาทั้งหมดนี้ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนอธิบาย ชี้แจงให้ผู้มาลงทะเบียนเข้าใจชัดเจนแล้วคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” ผอ.สท.กล่าว
ด้าน นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า มั่นใจว่าสามารถจ่ายเบี้ยยังชีพงวดแรกได้ทันกลางเดือนเมษายน โดย นายกรัฐมนตรี จะกดปุ่มปล่อยเงินไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศวันที่ 9 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ จากการออกไปติดตามการลงทะเบียนมีการแสดงความเห็นต่อชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พบว่า หลายคนอยากให้เปลี่ยนชื่อ เนื่องจากผู้สูงอายุบางคนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเลี้ยงดู แต่ต้องการนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายอย่างอื่น เช่น ทำบุญ ดังนั้น อาจเสนอคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น เช่น “เบี้ยกตัญญู” และผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไม่ทันในรอบนี้ สามารถลงทะเบียนได้ในรอบหน้า ซึ่งจะเป็นตามปีปฏิทินหรือปีงบประมาณ ต้องรอพิจารณาจากคณะกรรมการ