“อิสสระ” ลงพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตรวจเยี่ยมลงทะเบียนผู้สูงอายุ พบปัญหาไม่สามารถตรวจสอบกรณีรับบำนาญ ลงทะเบียนซ้ำหลายครั้ง ไม่มีบัตรประชาชน “วัลลภ” เผยเตรียมเสนอประเด็นปัญหาค่าธรรมเนียมการโอนเงินเบี้ยฯ ผู้สูงอายุเข้าบัญชีธนาคารที่ไม่ใช่ธนาคารกรุงไทย หารือในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ 18 มี.ค.นี้ โดยจะขอความร่วมมือธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียม
วันนี้ (6 มี.ค.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วย นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการ พม. และ นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดฯ พม. เดินทางตรวจเยี่ยมการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่สำนักงานเทศบาลนครปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบว่าขณะนี้มีผู้สูงอายุมาลงทะเบียนฯ แล้ว 8,591 คน จากผู้สูงอายุที่มีสิทธิลงทะเบียนฯ 18,151 คน ปัญหาที่พบในเขตนครเทศบาลปากเกร็ด คือไม่สามารถตรวจสอบกรณีผู้สูงอายุที่เป็นผู้รับบำนาญได้ เจ้าหน้าที่จึงรับลงทะเบียนฯ ไปก่อน แล้วตรวจสอบภายหลัง ผู้สูงอายุลงทะเบียนฯ ซ้ำหลายครั้ง ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน
ภายหลังรับฟังปัญหา นายอิสสระได้หารือร่วมกับปลัดฯ พม.ซึ่งแนะแนวทางแก้ไขว่า ให้ใช้ทะเบียนบ้านแทนในกรณีที่ไม่มีบัตรประชาชน และไม่สามารถเดินทางมาทำบัตรประชาชนได้ ถ้ายืนยันตัวบุคคลด้วยทะเบียนบ้าน ทางสมาชิกสภาเทศบาลนครปากเกร็ดจะลงนามรับรองตัวบุคคลให้ที่บ้าน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้สูงอายุมาลงทะเบียนแล้วกว่า 1,500,000 คน ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นเขตที่มีผู้สูงอายุมาลงทะเบียนน้อยที่สุด โดยมีผู้สูงอายุมาลงทะเบียนเพียง 200,000 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้นกว่า 600,000 คน
ด้านนายวัลลภ กล่าวว่า สำหรับกรณีปัญหาที่พบเกือบทุกแห่งในการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคือ ข้อสรุปอัตราค่าธรรมเนียมการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร กรณีผู้สูงอายุประสงค์จะรับเงินผ่านบัญชีธนาคารที่ไม่ใช่ธนาคารกรุงไทย จะมีการเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียม โดยจะประชุมในวันที่ 18 มีนาคมนี้
