xs
xsm
sm
md
lg

หมอ รพ.ทั่วไปส่อแห้วขึ้นค่าตอบแทน อ้างไม่ได้งานหนักกว่า สธ.แจงเพิ่มเงินให้แล้ว 20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.เผยขึ้นค่าตอบแทนให้ทุกสาขาวิชาชีพสาธารณสุขไปแล้ว ตั้งแต่ 1 ม.ค.2552 เฉลี่ย 20% ปีแรกจ่ายจากเงินบำรุงฯ กว่า 5 พันล้านบาท ส่วนปีต่อไปต้องตั้งงบรองรับ ระบุแพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป อ้างไม่ได้งานหนักกว่า เพราะภาระหน้าที่งานต่างกับแพทย์ รพ.ชุมชน ชี้ หากใช้เงินเป็นตัวตั้งเพิ่มค่าตอบแทนเท่าไหร่ก็ไม่พอ

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุขด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกลุ่มแพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปออกมาเรียกร้องขอเพิ่มค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ว่า การที่แพทย์ออกมาเรียกร้องอาจเป็นเพราะยังไม่พอใจกับค่าตอบแทนที่ได้รับ โดยเมื่อวันที่ 5 ก.พ.2552 นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดที่ สธ.0201.042.1/ว100 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทน แนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2552 โดยส่งถึงอธิบดีกรมทุกกรม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขนิเทศ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และนิติกรสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ให้เพิ่มค่าตอบแทนบุคลกรสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพแล้วเฉลี่ย 20%

“แพทย์อาจจะมองว่า ค่าตอบแทนที่เพิ่มให้นั้นต่ำเกิน แต่ยืนยันว่า การเพิ่มค่าตอบแทนนั้นจะต้องดูกำลังงบประมาณที่สามารถจัดสรรได้ อีกทั้งการเพิ่มเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้กับแพทย์ชุมชนเพื่อเป็นแรงจูงใจให้แพทย์ไม่ลาออกจากราชการ หากมีการพิจารณาให้กับแพทย์ในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปเพิ่มแพทย์โรงพยาบาลชุมชนก็อาจขอเพิ่มอีกเพราะเท่ากับไม่มีแรงจูงใจ ดังนั้น หากจะใช้เงินเป็นตัวตั้งแล้ว จะเพิ่มค่าตอบแทนเพิ่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ แต่หากมีเงินทุกอย่างไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”นพ.สุพรรณ กล่าว

นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณที่นำมาจ่ายใน 2552 นั้น ยังต้องใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลแต่ละแห่งไปก่อน โดยคาดว่าต้องใช้ประมาณ 5 พันล้านบาท ส่วนในปีต่อไปจะต้องมีการตั้งงบประมาณรองรับ โดยให้จ่ายอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในอนาคตสธ.จะมีการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน โดยผู้ที่ปฏิบัติงานมากก็จะได้รับค่าตอบแทนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน

“ต่อไปจะไม่ต้องมาถกเถียงกันว่าใครทำงานมากใครทำงานน้อย เพราะภาระงานของแพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป กับแพทย์โรงพยาบาลชุมชนมีภาระงานที่แตกต่างกัน ดังนั้น โดยแพทย์โรงพยาบาลศูนย์อาจต้องรักษาผู้ป่วยจำนวนมากก็จะมีการพิจารณาค่าตอบแทนตามรายที่มีการรักษา ส่วนแพทย์ในชุมชนเน้นการลงพื้นที่ทำงานเชิงรุกในการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดีด้วย”นพ.สุพรรณ กล่าว

นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดในหนังสือดังกล่าวมีการระบุถึงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดสธ. โดยจำแนกตามประเภทการจ่ายค่าตอบแทน คือ 1.ค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แบ่งเป็น อัตราค่าตอบแทนแพทย์ กรณีที่ปฏิบัติงานประจำอาคารผู้ป่วยนอก เช่น แพทย์เวรอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราคนละ 1,100 บาท จากเดิมคนละ 900 บาท กรณีที่ปฏิบัติงานแพทย์เวรในประจำหน่วยบริการหรือรอให้คำปรึกษา ให้ได้รับค่าตอบแทนตามปริมาณงานที่ให้บริการโดยต้องไม่ต่ำกว่า คนละ 550 บาท จากเดิม 400 บาท และกรณีที่ปฏิบัติงานให้บริการต่างหน่วยบริการให้ได้รับค่าตอบแทนตามคุณภาพและปริมาณโดยต้องไม่ต่ำกว่าชั่วโมงละ 120 บาท จากเดิม 100 บาท

นพ.สุพรรณ กล่าวด้วยว่า อัตราค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในลักษณะเป็นเวรหรือเป็นผลัด ได้แก่ ทันตแพทย์ คนละ 1,100 บาท จากเดิม 900 บาท เภสัชกรคนละ 720 บาท จากเดิม 600 บาท นักวิทยาศาสตร์ พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการทางด้านสาธารณสุข 600 บาท จากเดิม 500 บาท พยาบาลเทคนิค เจ้าพนักงานสาธารณสุขและเจ้าพนักงานเทคนิค คนละ 480 บาท จากเดิม 400 บาท เจ้าหน้าที่พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่เทคนิคคนละ 360 บาท จากเดิม 300บาท เจ้าหน้าที่อื่น เช่น เจ้าหน้าที่เวชระเบียน การเงิน จ่ายค่าตอบแทนตามวุฒิการศึกษา โดยสายงานที่เริ่มต้นระดับวุฒิปวช. หรือเทียบเท่าคนละ 360 บาท จากเดิม 300 บาท ระดับวุฒิ ปวส.หรือเทียบเท่า คนละ 480บาท จากเดิม 400 บาท ระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าคนละ 600 บาท จากเดิม 500 บาท ลูกจ้างตำแหน่งอื่นคนละ 300 บาท จากเดิม 250 บาท อัตราค่าตอบแทนสำหรับทันตแพทย์ที่ปฏิบัติงานต่างหน่วยบริการ ให้ได้รับค่าตอบแทนตามคุณภาพและปริมาณงาน โดยเงินที่ได้รับต้องไม่ต่ำกว่าชั่วโมงละ 120 บาท จากเดิม 100 บาท อัตราค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ เฉพาะที่ปฏิบัติงานในทีมผ่าตัด จำแนกเป็น 2 ส่วนคือ การบริการในหรือนอกหน่วยบริการหรือต่างหน่วยบริการ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในทีมช่วยผ่าตัด ให้ได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนผู้ป่วยแต่ละราย ในอัตราคนละ 120บาทสำหรับการผ่าตัดเล็ก จากเดิม 100 บาท และอัตราคนละ 240 บาทสำหรับการผ่าตัดใหญ่ จากเดิม 200 บาท ส่วนเจ้าหน้าที่อื่นให้ได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนผู้ป่วยแต่ละรายในอัตราที่ลดลงตามส่วน

ส่วนการบริการนอกหรือต่างหน่วยบริการ พยาบาลที่เตรียมผู้ป่วยและดูแลผู้ป่วยหลังการผ่าตัดแต่ละราย ให้ได้ค่าตอบแทนตามจำนวนผู้ป่วยแต่ละรายในอัตราทีมละ 120 บาทสำหรับผ่าตัดเล็กจากเดิม 100 บาท และทีมละ 360 บาทสำหรับการผ่าตัดใหญ่ จากเดิม 300บาท ทั้งนี้อัตราค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่กำหนดนั้นจะต้องไม่น้อยกว่าอัตราค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในลักษณะเป็นเวรหรือเป็นผลัด

นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า 2.ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานในคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โดยอัตราค่าตอบแทนแพทย์ที่ปฏิบัติงานให้บริการแบบผู้ป่วยนอก ให้ได้รับค่าตอบแทนสำหรับการตรวจผู้ป่วยรายละ 50 บาท จากเดิม 30 บาท แต่รวมกันแล้วเงินค่าตอบแทนที่ได้รับต่ำสุดไม่น้อยกว่าชั่วโมงละ 120 บาท จากเดิม 100 บาท ส่วนทันตแพทย์ให้ได้รับค่าตอบแทนตามคุณภาพและปริมาณงาน แต่รวมกันต้องได้ต่ำสุดไม่น้อยกว่าชั่วโมงละ 120 บาท จากเดิม 100 บาท

3.ค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานเวรหรือผลัดบ่ายและหรือผลัดดึกของพยาบาล ให้ได้รับค่าตอบแทน โดยพยาบาลวิชาชีพ คนละ 240 บาท จากเดิม 200 บาท พยาบาลเทคนิค คนละ 180 บาท จากเดิม 150 บาท และเจ้าหน้าที่พยาบาล 145 บาท จากเดิม 120 บาท และ 4.ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับแพทย์สาขาส่งเสริมพิเศษ ให้ได้รับเดือนละ 5,000 บาท จากเดิม 4,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น