อย.เผยผลวิเคราะห์นมโรงเรียน อีก 59 ถุง ยันซ้ำไม่ได้มาตรฐาน หนนี้พบเนื้อนม-โปรตีนต่ำกว่าเกณฑ์ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจนมทุกประเภทในท้องตลาด-โรงงาน สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งผลตรวจวิเคราะห์นมโรงเรียนของโรงเรียนปากเลข อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ที่ผลิตโดยโรงงานนำสีชล เครื่องดื่ม จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สุราษฎร์ธานี พบว่า นมโรงเรียนที่เก็บตัวอย่างมาจากโรงงาน เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 35 ถุง และนมที่เก็บจากตัวอย่างจากโรงเรียนปากเลขวันที่ 16 ก.พ.อีก 24 ถุง ซึ่งตัวอย่างนมทั้ง 2 แห่งเป็นล็อตการผลิตเดียวกัน ผลปรากฏว่า นมที่เก็บจากโรงงานตรวจพบเนื้อนม ไม่รวมไขมัน มีค่าร้อยละ 7.99 ส่วนที่เก็บจากโรงเรียนมีค่าร้อยละ 7.55 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต้องได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 8.25
นพ.พงศ์พันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับปริมาณโปรตีน นมที่เก็บจากโรงงานมีค่าร้อยละ 2.7 ส่วนนมที่เก็บจากโรงเรียนมีค่าร้อยละ 2.6 ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ไม่น้อยกว่า 2.8 แต่ในส่วนของปริมาณไขมัน นมที่เก็บจากโรงงานมีค่า 3.8 จากโรงเรียนมีค่าร้อยละ 3.5 ซึ่งเป็นไปตามค่ามาตรฐานที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.2 ดังนั้น ถือว่าการผลิตนมโรงเรียนจากโรงงานดังกล่าวไม่ได้มาตรฐานกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.อาหาร ฐานผลิตอาหารผิดมาตรฐาน มีโทษปรับ สูงสุด 50,000บาท
นพ.พงศ์พันธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ อย.จะทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร ให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเจ้าของโรงงานดังกล่าวทันที ซึ่งหลังจากนี้ หากผู้ประกอบการจะผลิตนมเพื่อจำหน่ายอีก จะต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย.ว่า โรงงานได้มาตรฐานการผลิตที่ดี (จีเอ็มพี) หรือไม่
“ส่วนสาเหตุที่ผลการตรวจนมจำนวน 1 ถุง ที่นำมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรุงเทพฯ และผลการตรวจของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สุราษฎร์ธานีมีความแตกต่างกัน โดยนมจำนวน 1 ถุง มีปริมาณไขมันต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด อาจเนื่องมาจากนมที่เก็บตัวอย่างไม่ใช่ล็อตการผลิตเดียวกัน เพราะมีการเก็บตัวอย่างคนละวันกัน ซึ่ง อย.กำลังตรวจสอบว่าใช้สายการผลิตเดียวกันหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าหากเป็นล็อตเดียวกัน อาจเป็นเพราะการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ค่าทางเคมีของนมมีความแตกต่างกันก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ผลการตรวจออกมาในลักษณะนี้มีหลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะกระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน นมโคที่นำมาผลิตไม่ได้มาตรฐานหรือแม้แต่การผสมน้ำลงในนม” นพ.พงศ์พันธ์ กล่าว
นพ.พงศ์พันธ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาของการใช้นมผงมาผสมในนมนั้น สามารถตรวจสอบได้ยาก เนื่องจากโรงงงานได้ปิดและหยุดการผลิตแล้ว นอกจากนี้ทำให้ไม่ทราบที่มาของวัตถุดิบในการผลิตว่ามาจากนมโคพื้นที่ใดหรือมาจากนมผงหรือไม่ ซึ่งหากมาจากแหล่งผลิตเดียวกันผลไม่น่าจะออกมาในลักษณะนี้ ทั้งนี้ อย. ยังต้องรอผลตรวจวิเคราะห์ทางจุลินทรีย์ ซึ่งคาดว่า จะทราบผล 23 กุมภาพันธ์นี้ด้วย
นพ.พงศ์พันธ์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้มีการเก็บตัวอย่างนมโรงเรียนในโรงงานทั้ง 68 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งจะมีการสุ่มเก็บนมที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปทุกประเภท และนมที่ผลิตในโรงงานต่างๆ ว่า มีคุณภาพได้มาตรฐานหรือไม่ เพราะอาจมีประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความไม่มั่นใจในการบริโภคนม ส่วนโรงเรียนใดในโครงการ นมโรงเรียน มีความไม่มั่นใจในคุณภาพมาตรฐานนมที่ได้รับมอบ ขอให้แจ้งและส่งตัวอย่างไปยัง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อมาตรวจวิเคราะห์ หรือแจ้งมายัง อย.หรือผ่าน สายด่วน อย.1556 ตลอด 24 ชั่วโมง
“อย.มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบการปนเปื้อนจุลินทรีย์เป็นระยะๆ และมีการตรวจมาตรฐานโรงงานปีละ 1 ครั้งเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่พบว่ามีปัญหาแต่อย่างใด ซึ่งอนาคตจะต้องมีการวางเกณฑ์ในการตรวจสอบคุณภาพของนมให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น”นพ.พงศ์พันธ์กล่าว
