“อู๊ดด้า” สรุปฟรี 15 ปี แจกเงินสดให้ผู้ปกครอง นักเรียน ไปดำเนินการซื้อชุดนักเรียน-อุปกรณ์เอง ส่วนตำราให้โรงเรียนซื้อ สั่งให้เขตพื้นที่ ผู้ตรวจราชการ เกาะติดการจัดซื้อ มั่นใจไม่มีนักเรียนผี แจงตรวจจากเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุม 5 องค์กรหลัก ว่า วันนี้ (16 ก.พ.) ได้มีการพิจารณาเรียนฟรี 15 ปี โดยได้ข้อสรุปเรียนฟรี 5 เรื่อง 1.ค่าเล่าเรียน 2.ตำราเรียน 3.อุปกรณ์การเรียน 4.ชุดนักเรียน และ 5.กิจกรรมพัฒนาคุณภาพ ซึ่งในส่วนของเงินงบประมาณ 9 พันล้านบาท ทางกระทรวงจะจัดสรรให้กับโรงเรียนโดยตรง หลังจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายกลางปีมีผลบังคับใช้แล้ว
สำหรับแนวทางการจัดซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน จะจัดสรรเงินสดให้ผู้ปกครองและนักเรียนจะดำเนินการจัดซื้อด้วยตนเอง โดยให้นักเรียน ผู้ปกครองไปเบิกจ่ายจากโรงเรียนต้นสังกัด ส่วนตำราเรียน ทางโรงเรียนจะเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ เพราะว่าตำราเรียนเมื่อซื้อแล้วจะเป็นสมบัติเป็นทรัพย์สินของโรงเรียนจะจัดการให้นักเรียนได้ยืมเรียน ส่วนการตัดสินใจว่าจะดำเนินการด้วยวิธีใดนั้นเป็นหน้าที่ของโรงเรียน ทั้งนี้ทั้งนั้น จะขึ้นอยู่กับภาคี 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทนครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการนักเรียน ตัวแทนชุมชน และบวกกับคณะกรรมการโรงเรียน เป็นผู้พิจารณา คือ ร่วมกันตัดสินใจ
ส่วนกิจกรรมพัฒนาคุณภาพ 4 กิจกรรม คือ 1.กิจกรรมทางด้านวิชาการ 2.กิจกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรม เช่น ค่ายลูกเสือเนตรนารี 3.กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้สังคมภายนอกมากขึ้น และ 4.ต้องเป็นโครงการสอนเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น คอมพิวเตอร์นอกเหนือจากการเรียนปกติ ไม่ตำกว่า 40 ชั่วโมงต่อคนต่อปี
“เราจะให้โรงเรียนเบิกเป็นเงินสดแทนคูปอง แล้วให้ผู้ปกครอง นักเรียน เซ็นรับเงินไปแล้วนำไปจัดซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนเอาเอง ตามความประสงค์ของตนเอง จะซื้อชุดนักเรียนแบบไหน ลักษณะไหน อุปกรณ์จะไปซื้อสมุด ดินสอ ปากกา กี่เล่ม แต่เราจะมีรายการแนะนำให้ โดยจะบอกว่ามีรายการอะไรบ้าง นอกจากนี้ หากมีผู้ปกครองรวมตัวกันแล้วจ้างกลุ่มแม่บ้านตัดชุดนักเรียนก็ได้ ตรงนี้เราให้สิทธิดำเนินการอย่างเต็มที่” นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า การจ่ายเงินสดซับซ้อนน้อย เรียบง่ายที่สุด หากแจกคูปองจะต้องแลกไปแลกมาก เมื่อไปซื้อชุดนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เฉพาะโรงเรียนสาธิต เมื่อนำเงินไปซื้อแล้วจะต้องนำใบเสร็จมาแสดง กับทางโรงเรียน
ทั้งนี้ รัฐบาลจัดสรรเรียนฟรี 15 ปี โดยนักเรียน 1 คนต่อเทอม ชุดนักเรียน ระดับก่อนประถม 300 บาท ประถมศึกษา 360 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น 450 บาท และมัธยมศึกษาตอนปลาย 500 บาท หนังสือแบบเรียน ก่อนประถม 200 บาท ประถมศึกษา 433 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น 669 บาท และมัธยมศึกษาตอนปลาย 897 บาท อุปกรณ์การเรียน ก่อนประถม 200 บาท ประถมศึกษา 390 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น 420 บาท มัธยมศึกษาตอนปลาย 460 บาท กิจกรรมพัฒนาคุณภาพ ก่อนประถม 430 บาท ประถมศึกษา 480 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น 880 บาท และมัธยมศึกษาตอนปลาย 950 บาท
เมื่อถามว่า หากมีการนำใบเสร็จปลอม หรือผู้ปกครอง นักเรียนไปซื้อชุดนักเรียนเพียงชุดเดียว นายจุรินทร์ บอกว่า ไม่มีระบบใดที่จะสมบูรณ์ 100% หากใช้ระบบคูปอง ก็มีคนพูดเหมือนกันว่าไม่ได้นำไปซื้อ จะมีการนำไปแลกกับร้านค้า 90% โดยร้านค้ารับไป 10 % ซึ่งทุกระบบก็มีข้อดีข้อเสีย ส่วนที่เลือกใช้เงินสด เพราะเราเชื่อมั่นว่าเงินถึงมือเด็ก ผู้ปกครอง
“ในที่ประชุมมีการเสนอว่าให้นำชุดนักเรียน ใบเสร็จมาแสดงกับโรงเรียน ซึ่งตรงนี้จะเป็นรายละเอียดที่ สพฐ. สอศ.และ สกอ.จะต้องมาคุยกัน ขณะเดียวกัน จะมีการรณรงค์ให้เด็กมีฐานะช่วยเหลือตนเองได้ สละสิทธิ์ไม่ใช้สิทธิในเรื่องงบประมาณ ชุดนักเรียน อุปกรณ์ ศธ.จะมีการออกใบขอบคุณ ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้สละสิทธิ์ ส่วนเงินงบประมาณที่เหลือจากเด็กสละสิทธิ์จะนำไปใช้ในการพัฒนาโรงเรียนด้อยโอกาส โรงเรียนยากจน ประมาณ 600 โรง นักเรียนคนใดสละสิทธิถือว่ามีส่วนช่วยโรงเรียนด้อยโอกาส ซึ่งเราไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีเด็กสละสิทธิกี่เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นนโยบายให้โรงเรียนไปรณรงค์เท่านั้น” นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า มอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้ตรวจราชการ ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบและประเมินผล
สำหรับในประเด็นที่มีหลายคนเกรงว่าจะมีนักเรียนผี นายจุรินทร์ ตอบว่า ก่อนจ่ายเงินให้ผู้ปกครอง นักเรียน เรามีการเช็กเลข 13 หลักจากบัตรประชาชน ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้รวดเร็วว่าเด็กมีตัวตนจริงหรือไม่ เพราะระบบข้อมูลจากทะเบียนราษฎรซึ่งลิงก์ทั่วประเทศ