"จุรินทร์"เผยไต๋ เรียนฟรี 15 ปี แจกคูปองผู้ปกครองเลือกซื้อชุดนักเรียนตามความสมัครใจเอง ส่วนตำราเรียนให้โรงเรียนจัดซื้อเองตามความเหมาะสม โดยใช้รูปแบบยืมเรียนไม่ให้สิทธิ์ขาดกับนักเรียน เผยรัฐจัดอุดหนุนทุกอย่างฟรีหมดไม่ได้เพราะงบประมาณน้อย ยุติเวทีประชาพิจารณ์เตรียมนำข้อเสนอเข้าประชุมร่วมผู้บริหารรองค์กรหลักก่อนเคาะรายละเอียดทั้งหมดเพื่อประชาสัมพันธ์ผู้ปกครองให้ทันใช้ก่อน พ.ค.นี้
จากการประชุมรับฟังความคิดเห็นแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ครั้งที่ 2 ที่โรงเรียนชลกันยานุกูล จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 ก.พ. โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศึกษาธิการ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารโรงเรียน นักวิชาการ ตัวแทนครู ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้ประกอบการ พร้อมด้วย ส.ส.และส.ว.ชลบุรีเข้าร่วมประชุม
ดร.สมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า แนวดำเนินงานเรื่องนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพที่จะให้ช่วยกันพิจารณา ประกอบด้วย
1.หนังสือเรียน ให้โรงเรียนตรวจสอบ/พิจารณารายชื่อหนังสือเรียนด้านคุณภาพและราคาตามบัญชีหนังสือเรียนที่ ศธ.กำหนดในอัตราลดร้อยละ 20 เชิญผู้จำหน่ายหนังสือเรียนประชุมพร้อมแจ้งแนวทางการจัดซื้อและให้ฝ่ายวิชาการสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้แทนนักเรียน ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการพิจารณาเลือกซื้อหนังสือเรียนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา
ซึ่งการจัดซื้อจะให้ซื้อหนังสือเรียนทุกระดับทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้เลือกซื้อจากผู้ประกอบการค้าได้อย่างเสรี ให้สอดคล้องกับหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา มีการจัดทำบัญชีควบคุมการให้ยืมหนังสือเรียนและ จัดระบบให้นักเรียนทุกคนมีหนังสือเรียนและสามารถส่งต่อไปยังนักเรียนรุ่นต่อไป สำหรับส่วนลดที่ได้ให้สถานศึกษานำไปจัดซื้อสื่อการเรียนการสอนเพิ่มเติมโดยพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบกับคณะกรรมการสถานศึกษา หากการดำเนินการไม่เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดจะต้องถูกเรียกคืนเงิน กรณีหนังสือเรียนระดับก่อนประถมศึกษาให้เลือกจัดซื้อหนังสือจากรายการหนังสือดีเด่นและหนังสือของ BBL ซึ่ง สพฐ. จะจัดทำรายการแจ้งให้ทราบ หากจัดซื้อนอกเหนือรายการนี้ ให้เสนอ สพท. พิจารณาอนุมัติ
รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า 2.อุปกรณ์การเรียนให้โรงเรียนดำเนินการสำรวจความต้องการใช้แบบฝึกหัด(ประถมศึกษา) และอุปกรณ์การเรียน สำรวจ เชิญชวน จัดทำทะเบียนผู้จำหน่ายอุปกรณ์การเรียน จัดทำแผนการจัดหาอุปกรณ์การเรียนโดยกำหนดรายการ ปริมาณ และคุณภาพ เสนอต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดซื้อ 3.เครื่องแบบนักเรียนให้โรงเรียนจัดสรรคูปองเครื่องแบบนักเรียนให้ผู้ปกครองเพื่อจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียน คนละ 2 ชุด โดยดำเนินการดังนี้จัดทำคูปองอุปกรณ์การเรียนและระบบการควบคุม นักเรียนนำคูปองมาเบิกอุปกรณ์การเรียนจากสถานศึกษาหรือซื้อจากร้านค้าที่ลงทะเบียนไว้กับสถานศึกษาหรือสหกรณ์โรงเรียน สถานศึกษาตรวจสอบหลักฐานและเบิกจ่ายเงินให้กับ ผู้ที่นำคูปองมาขอรับเงิน ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2552 โดยวิธีปฏิบัตินั้นเมื่อแจกคูปองเครื่องแบบนักเรียนแก่ผู้ปกครองแล้วสามารถเลือกซื้อหรือจ้างตัดเย็บก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นในการนำเสนอส่วนใหญ่สนับสนุนนโยบายเรียนฟรี 15 ปีและอยากเห็นความต่อเนื่องของนโยบาย ส่วนแนวทางการจัดซื้ออยากให้โรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ แต่ในขณะเดียวกันก็เกรงว่าการจัดซื้อดังกล่าวจะทำให้โรงเรียนตกเป็นจำเลยของผู้ปกครองและสังคม นอกจากนี้เห็นว่างบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอโดยเฉพาะในส่วนของกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และเครื่องแบบนักเรียน โดยในส่วนของนักเรียนมีเสียงเรียกร้องขอชุดพลศึกษาเพิ่มเติม รวมทั้งถุงเท้า และรองเท้า
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการรับฟังความคิดเห็นมา 2 ครั้ง คิดว่าครอบคลุมและได้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจะรวบรวมความเห็นและประมวลเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาตันสินใจอีกครั้ง จากนั้นจะประชาสัมพันธ์ให้โรงเรียน ผู้ปกครอง นักเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป อย่างไรก็ตามเท่าที่รับฟังความคิดเห็นเห็นว่าหลายคนเป็นห่วงเรื่องงบประมาณว่าเงินที่ได้ในแต่ละหมวดน้อยไป อาทิ ชุดนักเรียนที่อยากได้มากกว่า 2 ชุด และมีถุงเท้า รองเท้าครบชุด
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ซึ่งคงให้ครบถ้วนเต็มรูปแบบ 100% ไม่ได้ แต่สิ่งที่ให้ถือว่าเป็นการเริ่มต้น เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครได้รับยกเว้นเด็กยากจน ส่วนที่จะให้หนังสือเรียนแจกฟรีไม่ใช่เป็นการให้ยืมนั้น คงไม่สามารถทำได้เพราะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ โดยจะให้ทุกคนยืมเรียน 3 ปีเปลี่ยนใหม่ หากมีงบฯเพิ่มขึ้นจะพิจารณาให้ ส่วนหนังสือชำรุดจะมีการตั้งงบฯชดเชยส่วนที่ขาด สำหรับในส่วนของกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่ระบุว่าได้น้อยนั้น เงินดังกล่าวจะใช้ใน 4 กิจกรรมพื้นฐานที่จัดให้เด็กฟรี ได้แก่ วิชาการ ค่ายคุณธรรม จริยธรรม การทัศนศึกษานอกสถานศึกษา และการบริการสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ 40 ชั่วโมงต่อปี ทั้งนี้ยืนยันนโยบายชัดเจนว่ากระทรวงศึกษาธิการจะไม่จัดซื้อเอง โดยในส่วนของชุดนักเรียนจะให้เป็นคูปองเพื่อให้ผู้ปกครองไปจัดซื้อ ส่วนแบบเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้โรงเรียนเป็นผู้จัดซื้อ