ASTVผู้จัดการรายวัน - กลุ่มสหภาพแรงงานองค์การค้า สกสค.นับพันคนบุก ศธ. เรียกร้องขับไล่บอร์ด สกสค. เหตุไม่ทำงาน ไร้ผลงาน คอร์รัปชันและการแก้ปัญหาเงินเดือนระยะยาว ด้านปลัด ศธ.ลั่น 6 ก.พ.นี้พนักงานทุกคนต้องได้รับเงินเดือนที่เหลือ ประกาศชัดไม่จ่ายบอร์ดต้องรับผิดชอบ ส่วนกรณีทุจริต “จุรินทร์” สั่งตั้งกรรมการสอบ ลั่น 120 วันรู้ผล
วานนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มสหภาพแรงงานองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรการศึกษา (สกสค.) กว่าพันคน ทยอยเดินทางมายังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อขับไล่บอร์ด สกสค.ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาโดยไม่สร้างผลงาน หรือทำประโยชน์อะไรให้แก่ สกสค. และข้อเรียกร้องในเรื่องของเงินเดือนในเดือนมกราคมที่ออกเพียงครึ่งเดียวและการแก้ปัญหาในระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงาน สกสค.กว่าพันคนได้ใช้พื้นที่บริเวณสนามหญ้าภายในกระทรวงฯ เป็นพื้นที่ในการปราศรัยโดยใช้รถกระบะติดลำโพงขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้ทุกคนต่างผูกผ้าโพกศีรษะที่มีทั้งสีแดง เหลือง เขียว ส้ม พร้อมกับข้อความว่า “อยู่กูตาย มึงไปกูรอด” นอกจากนี้ยังมีการถือป้ายผ้าที่มีข้อความหลากหลาย ทั้ง “ต้องสู้ถึงจะชนะ”... “งบประมาณ... ความอร่อยปาก และของหวานสำหรับผู้บริหาร”
พนักงานองค์การค้ารายหนึ่งให้ข้อมูลว่า มีปัญหาระบบการบริหารงาน ทำให้เกิดช่องว่างคอร์รัปชั่น ที่เห็นชัดเจนเรื่องตำราปลอม ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมอยู่แป๊บเดียว เรื่องก็เงียบหาย ปัญหาคอร์รัปชั่นครั้งนั้นเชื่อว่าต้องมีคนในรู้เห็นเป็นใจ จึงต้องการให้นำคนผิดมาลงโทษ เพราะทำให้องค์การค้าสูญเสียรายได้ เสียหายอย่างมาก และยังมีผลกระทบมาถึงพนักงานได้รับเงินเดือนเดือนมกราคมเพียงครึ่งเดือน และไม่รู้ที่เหลือจะได้เมื่อไหร่
“ผมต้องส่งค่าบ้าน ค่ารถ และต้องจ่ายเงินให้ลูก 3 คนเป็นค่าเดินทางไปโรงเรียนและค่าอาหารกลางวัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นขอให้หาเงินมาจ่ายให้แก่พนักงาน หากปล่อยให้เนิ่นนานพนักงานบางรายอาจต้องไปกู้เงินนอกระบบ เป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น” พนักงานองค์การค้ากล่าว
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานองค์การค้าได้มีแถลงการณ์ถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้นว่า ตามที่สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา ได้มีมติให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/ 2552 ในวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2552 ด้วยสาเหตุมาจาการกำกับดูแลและการบริหารจัดการองค์กร ของคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ผิดพลาดและไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พุทธศักราช 2546 รวมทั้งไม่จัดการปรับปรุงองค์การค้าของ สกสค.ให้เป็นไปตามคำชี้ข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงศึกษาธิการ ที่ชี้ว่าองค์การค้าของ สกสค.เป็นส่วนงานหนึ่งในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเช่นเดียวกับสำนักสวัสดิการครู, สำนักสวัสดิภาพครูฯ ซึ่งจะต้องได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ
อีกทั้งยังดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มพวกพ้อง ดังจะเห็นได้จากการอนุมัติโครงการต่างๆ เช่น โครงการเปิดร้านค้ามินิมาร์ท KBO, โครงการขายสินค้าผ่านหัวบิลในนามองค์การค้าของ สกสค., การเห็นชอบให้ปั๊มน้ำมันองค์การค้าของ สกสค.ไปให้เอกชนเช่าในราคาที่ถูก และมีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้นหลายเรื่อง ซึ่งสหภาพแรงงานฯได้ดำเนินการร้องเรียนไปตามสมควรแล้วแต่ทุกเรื่องก็เงียบหายไป
อีกทั้งที่ผ่านมาทาง สกสค.ได้ส่งผู้บริหารระดับสูงเข้ามากำกับดูแลรับผิดชอบในตำแหน่งต่างๆที่สำคัญ เช่นผู้อำนวยการภาค เป็นต้น ที่กระทำโดยไม่ผ่านกระบวนการที่เป็นไปตามระเบียบการรับสมัครเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯอย่างถูกต้อง และยังมีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา จัดไปเป็นจำนวนเงิน 30 กว่าล้านบาทและยังบริหารจัดการการเงินที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ ว่าด้วยเงินกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา โดยนำเงินกองทุนดังกล่าวไปใช้กว่า 80 ล้านบาท ทั้งที่ระเบียบดังกล่าวกำหนดว่าไม่อาจนำไปใช้ได้ เป็นต้น
ฉะนั้น สืบเนื่องมาจากการกระทำบางส่วนดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาจึงมีมติไม่ไว้วางใจให้ คณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ในส่วนของผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพ, ผู้ทรงคุณวุฒิและเลขาธิการ ดำรงตำแหน่งต่อไปได้ จึงขอให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใช้อำนาจตามความในมาตรา 65 วรรค 2 และ 24 (3) เพื่อให้ผลการดำเนินนโยบายการเรียนฟรี 15 ปี เป็นไปตามวัตถุประสงค์และมีคุณภาพ โดยปราศจากข้อกล่าวหาในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันอย่างสิ้นเชิง
จากนั้นในเวลาประมาณ 13.40 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ.ได้เดินทางลงมาพูดคุยกับกลุ่มสหภาพแรงงาน สกสค. พร้อมทั้งกล่าวว่า ดีใจที่ได้เข้ามาทำงานร่วมกัน และเมื่อมีเรื่องที่เป็นปัญหาก็จะต้องพูดคุยกันเพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องคุยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ตน และปลัด ศธ. จะได้เชิญตัวแทนจากกลุ่มสหภาพแรงงาน สกสค.เข้าประชุมรับฟังปัญหาร่วมกันด้วย สำหรับเรื่องทุจริต จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ด้านนายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้า กล่าวว่า พนักงานขององค์การค้ามีทั้งหมด 1,975 คน ซึ่งในแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเงินเดือนและสวัสดิการ 40 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีเงินเข้ามาเพียง 27 ล้านบาท จึงจ่ายให้คนละครึ่งเดือนก่อน โดยปกติรายได้ขององค์การค้าส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้า แต่ช่วง 1-2 เดือนมานี้ไม่มีการสั่งซื้อตำราเรียน ชุดนักเรียน คาดว่าโรงเรียนต้องการรอความชัดเจนของนโยบายเรียนฟรี 15 ปี จากเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้เงินหมุนเวียนขาด ขณะเดียวกันก็เตรียมเจรจาขอกู้เงินจากแบงก์เอสเอ็มอี 150 ล้านบาทเพื่อซื้อกระดาษใช้พิมพ์ตำราเรียน
อย่างไรก็ดี วันที่ 5 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมบอร์ดองค์การค้าที่มีนายเกษม กลั่นยิ่ง เป็นประธานบอร์ด ตนจะนำปัญหาต่างๆ รายงานต่อที่ประชุม และรายงาน ปลัด ศธ.ให้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย
ขณะที่นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนสหภาพแรงงานฯนานกว่า 4 ชั่วโมงว่า ตนจะสั่งการให้เลื่อนการประชุม บอร์ด สกสค.จากวันที่ 11 ก.พ.ให้มีการประชุมเร็วขึ้น เป็นวันที่ 6 ก.พ.เพื่อแก้ไขปัญหาองค์การค้า ตามที่สหภาพแรงงานฯเรียกร้อง เรื่องแรกซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน สกสค.ต้องหาเงินมาจ่ายพนักงานทุกคนวันที่ 6 ก.พ.นี้ หากพนักงานยังไม่ได้รับเงินเดือน จะต้องมีผู้รับผิดชอบ และผู้ที่รับผิดชอบคงไม่พ้น บอร์ด สกสค.
ส่วนกรณีที่สหภาพแรงงานฯ ร้องเรียนว่ามีการทุจริตนั้น รมว.ศธ.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี ปลัด ศธ. เป็นประธาน โดยจะรู้ผลภายใน 120 วัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรับฟังผลการประชุม ผู้ชุมนุมก็ได้แยกย้ายกันกลับ.
วานนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มสหภาพแรงงานองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรการศึกษา (สกสค.) กว่าพันคน ทยอยเดินทางมายังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อขับไล่บอร์ด สกสค.ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาโดยไม่สร้างผลงาน หรือทำประโยชน์อะไรให้แก่ สกสค. และข้อเรียกร้องในเรื่องของเงินเดือนในเดือนมกราคมที่ออกเพียงครึ่งเดียวและการแก้ปัญหาในระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงาน สกสค.กว่าพันคนได้ใช้พื้นที่บริเวณสนามหญ้าภายในกระทรวงฯ เป็นพื้นที่ในการปราศรัยโดยใช้รถกระบะติดลำโพงขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้ทุกคนต่างผูกผ้าโพกศีรษะที่มีทั้งสีแดง เหลือง เขียว ส้ม พร้อมกับข้อความว่า “อยู่กูตาย มึงไปกูรอด” นอกจากนี้ยังมีการถือป้ายผ้าที่มีข้อความหลากหลาย ทั้ง “ต้องสู้ถึงจะชนะ”... “งบประมาณ... ความอร่อยปาก และของหวานสำหรับผู้บริหาร”
พนักงานองค์การค้ารายหนึ่งให้ข้อมูลว่า มีปัญหาระบบการบริหารงาน ทำให้เกิดช่องว่างคอร์รัปชั่น ที่เห็นชัดเจนเรื่องตำราปลอม ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมอยู่แป๊บเดียว เรื่องก็เงียบหาย ปัญหาคอร์รัปชั่นครั้งนั้นเชื่อว่าต้องมีคนในรู้เห็นเป็นใจ จึงต้องการให้นำคนผิดมาลงโทษ เพราะทำให้องค์การค้าสูญเสียรายได้ เสียหายอย่างมาก และยังมีผลกระทบมาถึงพนักงานได้รับเงินเดือนเดือนมกราคมเพียงครึ่งเดือน และไม่รู้ที่เหลือจะได้เมื่อไหร่
“ผมต้องส่งค่าบ้าน ค่ารถ และต้องจ่ายเงินให้ลูก 3 คนเป็นค่าเดินทางไปโรงเรียนและค่าอาหารกลางวัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นขอให้หาเงินมาจ่ายให้แก่พนักงาน หากปล่อยให้เนิ่นนานพนักงานบางรายอาจต้องไปกู้เงินนอกระบบ เป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น” พนักงานองค์การค้ากล่าว
ทั้งนี้ สหภาพแรงงานองค์การค้าได้มีแถลงการณ์ถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้นว่า ตามที่สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา ได้มีมติให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/ 2552 ในวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2552 ด้วยสาเหตุมาจาการกำกับดูแลและการบริหารจัดการองค์กร ของคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ผิดพลาดและไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พุทธศักราช 2546 รวมทั้งไม่จัดการปรับปรุงองค์การค้าของ สกสค.ให้เป็นไปตามคำชี้ข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงศึกษาธิการ ที่ชี้ว่าองค์การค้าของ สกสค.เป็นส่วนงานหนึ่งในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเช่นเดียวกับสำนักสวัสดิการครู, สำนักสวัสดิภาพครูฯ ซึ่งจะต้องได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ
อีกทั้งยังดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มพวกพ้อง ดังจะเห็นได้จากการอนุมัติโครงการต่างๆ เช่น โครงการเปิดร้านค้ามินิมาร์ท KBO, โครงการขายสินค้าผ่านหัวบิลในนามองค์การค้าของ สกสค., การเห็นชอบให้ปั๊มน้ำมันองค์การค้าของ สกสค.ไปให้เอกชนเช่าในราคาที่ถูก และมีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้นหลายเรื่อง ซึ่งสหภาพแรงงานฯได้ดำเนินการร้องเรียนไปตามสมควรแล้วแต่ทุกเรื่องก็เงียบหายไป
อีกทั้งที่ผ่านมาทาง สกสค.ได้ส่งผู้บริหารระดับสูงเข้ามากำกับดูแลรับผิดชอบในตำแหน่งต่างๆที่สำคัญ เช่นผู้อำนวยการภาค เป็นต้น ที่กระทำโดยไม่ผ่านกระบวนการที่เป็นไปตามระเบียบการรับสมัครเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯอย่างถูกต้อง และยังมีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา จัดไปเป็นจำนวนเงิน 30 กว่าล้านบาทและยังบริหารจัดการการเงินที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ ว่าด้วยเงินกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา โดยนำเงินกองทุนดังกล่าวไปใช้กว่า 80 ล้านบาท ทั้งที่ระเบียบดังกล่าวกำหนดว่าไม่อาจนำไปใช้ได้ เป็นต้น
ฉะนั้น สืบเนื่องมาจากการกระทำบางส่วนดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาจึงมีมติไม่ไว้วางใจให้ คณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ในส่วนของผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพ, ผู้ทรงคุณวุฒิและเลขาธิการ ดำรงตำแหน่งต่อไปได้ จึงขอให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใช้อำนาจตามความในมาตรา 65 วรรค 2 และ 24 (3) เพื่อให้ผลการดำเนินนโยบายการเรียนฟรี 15 ปี เป็นไปตามวัตถุประสงค์และมีคุณภาพ โดยปราศจากข้อกล่าวหาในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันอย่างสิ้นเชิง
จากนั้นในเวลาประมาณ 13.40 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ.ได้เดินทางลงมาพูดคุยกับกลุ่มสหภาพแรงงาน สกสค. พร้อมทั้งกล่าวว่า ดีใจที่ได้เข้ามาทำงานร่วมกัน และเมื่อมีเรื่องที่เป็นปัญหาก็จะต้องพูดคุยกันเพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องคุยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ ตน และปลัด ศธ. จะได้เชิญตัวแทนจากกลุ่มสหภาพแรงงาน สกสค.เข้าประชุมรับฟังปัญหาร่วมกันด้วย สำหรับเรื่องทุจริต จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ด้านนายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้า กล่าวว่า พนักงานขององค์การค้ามีทั้งหมด 1,975 คน ซึ่งในแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเงินเดือนและสวัสดิการ 40 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีเงินเข้ามาเพียง 27 ล้านบาท จึงจ่ายให้คนละครึ่งเดือนก่อน โดยปกติรายได้ขององค์การค้าส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้า แต่ช่วง 1-2 เดือนมานี้ไม่มีการสั่งซื้อตำราเรียน ชุดนักเรียน คาดว่าโรงเรียนต้องการรอความชัดเจนของนโยบายเรียนฟรี 15 ปี จากเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้เงินหมุนเวียนขาด ขณะเดียวกันก็เตรียมเจรจาขอกู้เงินจากแบงก์เอสเอ็มอี 150 ล้านบาทเพื่อซื้อกระดาษใช้พิมพ์ตำราเรียน
อย่างไรก็ดี วันที่ 5 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมบอร์ดองค์การค้าที่มีนายเกษม กลั่นยิ่ง เป็นประธานบอร์ด ตนจะนำปัญหาต่างๆ รายงานต่อที่ประชุม และรายงาน ปลัด ศธ.ให้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย
ขณะที่นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนสหภาพแรงงานฯนานกว่า 4 ชั่วโมงว่า ตนจะสั่งการให้เลื่อนการประชุม บอร์ด สกสค.จากวันที่ 11 ก.พ.ให้มีการประชุมเร็วขึ้น เป็นวันที่ 6 ก.พ.เพื่อแก้ไขปัญหาองค์การค้า ตามที่สหภาพแรงงานฯเรียกร้อง เรื่องแรกซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน สกสค.ต้องหาเงินมาจ่ายพนักงานทุกคนวันที่ 6 ก.พ.นี้ หากพนักงานยังไม่ได้รับเงินเดือน จะต้องมีผู้รับผิดชอบ และผู้ที่รับผิดชอบคงไม่พ้น บอร์ด สกสค.
ส่วนกรณีที่สหภาพแรงงานฯ ร้องเรียนว่ามีการทุจริตนั้น รมว.ศธ.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี ปลัด ศธ. เป็นประธาน โดยจะรู้ผลภายใน 120 วัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรับฟังผลการประชุม ผู้ชุมนุมก็ได้แยกย้ายกันกลับ.