xs
xsm
sm
md
lg

สหภาพแรงงาน สกสค.นับพันบุก ศธ.ขับไล่บอร์ด บี้สางคอร์รัปชัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา นับพันบุกกระทรวงศึกษาธิการ
กลุ่มสหภาพแรงงาน สกสค.นับพันคนบุกกระทรวงศึกษาธิการ เรียกร้องขับไล่บอร์ด สกสค. เหตุไม่ทำงาน ไร้ผลงาน คอร์รัปชันและการแก้ปัญหาเรื่องเงินเดือนในระยะยาว

วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มสหภาพแรงงานองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรการศึกษา (สกสค.) กว่าพันคน ทยอยเดินทางมายังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อขับไล่บอร์ด สกสค.ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาโดยไม่สร้างผลงาน หรือทำประโยชน์อะไรให้แก่ สกสค. และข้อเรียกร้องในเรื่องของเงินเดือนในเดือนมกราคมที่ออกเพียงครึ่งเดียวและการแก้ปัญหาในระยะยาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพแรงงาน สกสค.กว่าพันคนได้ใช้พื้นที่บริเวณสนามหญ้าภายในกระทรวงฯ เป็นพื้นที่ในการปราศรัยโดยใช้รถกระบะติดลำโพงขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้ทุกคนต่างผูกผ้าโพกศีรษะที่มีทั้งสีแดง เหลือง เขียว ส้ม พร้อมกับข้อความว่า “อยู่กูตาย มึงไปกูรอด” นอกจากนี้ยังมีการถือป้ายผ้าที่มีข้อความหลากหลาย ทั้ง “ต้องสู้ถึงจะชนะ”... “งบประมาณ... ความอร่อยปาก และของหวานสำหรับผู้บริหาร”
 
ในส่วนของแถลงการณ์ สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา มีดังนี้

 ตามที่สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา ได้มีมติให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/ 2552 ในวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2552 ด้วยสาเหตุมาจาการกำกับดูแลและการบริหารจัดการองค์กร ของคณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ผิดพลาดและไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พุทธศักราช 2546 รวมทั้งไม่จัดการปรับปรุงองค์การค้าของ สกสค.ให้เป็นไปตามคำชี้ข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงศึกษาธิการ ที่ชี้ว่าองค์การค้าของ สกสค.เป็นส่วนงานหนึ่งในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเช่นเดียวกับสำนักสวัสดิการครู, สำนักสวัสดิภาพครูฯ ซึ่งจะต้องได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐอีกทั้งยังดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มพวกพ้อง ดังจะเห็นได้จากการอนุมัติโครงการต่างๆ เช่น โครงการเปิดร้านค้ามินิมาร์ท KBO, โครงการขายสินค้าผ่านหัวบิลในนามองค์การค้าของ สกสค.,การเห็นชอบให้ปั๊มน้ำมันองค์การค้าของ สกสค.ไปให้เอกชนเช่าในราคาที่ถูก และมีเหตุการณ์ทุจริตเกิดขึ้นหลายเรื่อง ซึ่งสหภาพแรงงานฯได้ดำเนินการร้องเรียนไปตามสมควรแล้วแต่ทุกเรื่องก็เงียบหายไป

อีกทั้งที่ผ่านมาทาง สกสค.ได้ส่งผู้บริหารระดับสูงเข้ามากำกับดูแลรับผิดชอบในตำแหน่งต่างๆที่สำคัญ เช่นผู้อำนวยการภาค เป็นต้น ที่กระทำโดยไม่ผ่านกระบวนการที่เป็นไปตามระเบียบการรับสมัครเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯอย่างถูกต้อง และยังมีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา จัดไปเป็นจำนวนเงิน 30 กว่าล้านบาทและยังบริหารจัดการการเงินที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ ว่าด้วยเงินกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา โดยนำเงินกองทุนดังกล่าวไปใช้กว่า 80 ล้านบาท ทั้งที่ระเบียบดังกล่าวกำหนดว่าไม่อาจนำไปใช้ได้ เป็นต้น

ฉะนั้น สืบเนื่องมาจากการกระทำบางส่วนดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาจึงมีมติไม่ไว้วางใจให้ คณะกรรมการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ในส่วนของผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพ, ผู้ทรงคุณวุฒิและเลขาธิการ ดำรงตำแหน่งต่อไปได้  จึงขอให้รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใช้อำนาจตามความในมาตรา 65 วรรค 2 และ 24 (3) เพื่อให้ผลการดำเนินนโยบายการเรียนฟรี 15 ปี เป็นไปตามวัตถุประสงค์และมีคุณภาพ โดยปราศจากข้อกล่าวหาในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันอย่างสิ้นเชิง

สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา
2 กุมภาพันธ์ 2552


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.40 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ.ได้เดินทางลงมาพูดคุยกับกลุ่มสหภาพแรงงาน สกสค. พร้อมทั้งกล่าวว่า ดีใจที่ได้เข้ามาทำงานร่วมกัน และเมื่อเรื่องที่เป็นปัญหานั้นก็จะต้องพูดคุยกันเพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องคุยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ตน และ ปลัด ศธ. จะได้เชิญตัวแทนจากกลุ่มสหภาพแรงงาน สกสค.เข้าประชุมรับฟังปัญหาร่วมกันด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังจากการร่วมประชุมรับฟังปัญหาซึ่ง นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้มอบให้ ปลัด ศธ. คุยกับตัวแทนองค์การค้า ซึ่งตนรับฟังปัญหาอยู่ช่วงหนึ่งเพราะติดภารกิจประชุมบอร์ด สช. แต่จากการฟังก็จะมีการร้องเรียนเรื่องทุจริตที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวต้องดำเนินการตามขั้นตอน และต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

“ผมอยากเห็นองค์การค้า สกสค.เจริญก้าวหน้า อยากเห็นระบบการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ส่วนเรื่องพนักงานได้รับเงินเดือนเดือนมกราคมเพียงครึ่งเดือน อยู่ระหว่างการคุยกันในห้องประชุม ทั้งนี้ปัญหาทุกเรื่องหากเป็นไปได้ควรมีตัวแทนของสหภาพแรงงานองค์การค้า เข้ามามีส่วนร่วมด้วย” รมว.ศธ.กล่าว

นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้า กล่าวว่า เราต้องหาเงินมาจ่ายเงินเดือนพนักงาน 1,975 คน เป็นเงินเดือนและสวัสดิการ เดือนละ 40 ล้านบาท ซึ่งเดือนที่ผ่านมามีเงินเข้ามาเพียง 27 ล้านบาท จึงจ่ายให้คนละครึ่งเดือนก่อน โดยปกติรายได้ขององค์การค้าส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้า ช่วง 1-2 เดือนมานี้ไม่มีการสั่งซื้อตำราเรียน ชุดนักเรียน คาดว่าโรงเรียนต้องการรอความเช็ดเจนของนโยบายเรียนฟรี 15 ปี จากเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้เงินหมุนเวียนขาด ประกอบกับเราต้องการเงินเพื่อสั่งซื้อกระดาษใช้พิมพ์ตำราเรียน จึงมีแนวคิดไปเจรจากับแบงก์เอสเอ็มอี ขอกู้เงิน 150 ล้านบาท เพื่อมาซื้อกระดาษ เมื่อนโยบายเรียนฟรี 15 ปีชัดเจนโรงเรียนจะได้สั่งซื้อตำราเรียน ชุดนักเรียน องค์การค้าจะได้ส่งให้โรงเรียนทันก่อนเปิดเทอม อย่างไรก็ดี 5 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมบอร์ดองค์การค้า  ที่มีนายเกษม กลั่นยิ่ง เป็นประธานบอร์ด ตนจะนำปัญหาต่างๆ รายงานต่อที่ประชุม และรายงาน ปลัด ศธ.ให้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วย

ด้าน พนักงานองค์การค้าฯ กล่าวว่า มีปัญหาระบบการบริหารงาน ทำให้เกิดช่องว่างคอร์รัปชั่น ที่เห็นชัดเจนเรื่องตำราปลอม ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมอยู่แป๊บเดียว เรื่องก็เงียบหาย ปัญหาคอร์รัปชั่นครั้งนั้นเชื่อว่าต้องมีคนในรู้เห็นเป็นใจ  จึงต้องการให้นำคนผิดมาลงโทษ เพราะทำให้องค์การค้าสูญเสียรายได้ เสียหายอย่างมาก และยังมีผลกระทบมาถึงพนักงานได้รับเงินเดือนเดือนมกราคมเพียงครึ่งเดือน และไม่รู้ที่เหลือจะได้เมื่อไหร่

“ผมต้องส่งค่าบ้าน ค่ารถ และต้องจ่ายเงินให้ลูก 3 คนเป็นค่าเดินทางไปโรงเรียนและค่าอาหารกลางวัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นขอให้หาเงินมาจ่ายให้แก่พนักงาน หากปล่อยให้เนิ่นนานพนักงานบางรายอาจต้องไปกู้เงินนอกระบบ เป็นหนี้เป็นสินมากขึ้น” พนง.องค์การค้าฯ กล่าว

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของสหภาพแรงงานฯ ขณะนี้ได้มีการกางเต็นท์บริเวณสนามหญ้า พร้อมกับบอกว่าถ้าไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจะปักหลักอยู่ที่นี่
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากการประชุมร่วมกับผู้แทนสหภาพแรงงานฯ นานกว่า 4 ชั่วโมงนั้น นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัด ศธ. กล่าวว่า ตนจะสั่งการให้เลื่อนการประชุม บอร์ด สกสค. จากวันที่ 11 ก.พ.ให้มีการประชุมเร็วขึ้น เป็นวันที่ 6 ก.พ.เพื่อแก้ไขปัญหาองค์การค้า ตามที่สหภาพแรงงานฯเรียกร้อง เรื่องแรกซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน สกสค.ต้องหาเงินมาจ่ายพนักงานทุกคนวันที่ 6 ก.พ.นี้ หากพนักงานยังไม่ได้รับเงินเดือน จะต้องมีผู้รับผิดชอบ และผู้ที่รับผิดชอบคงไม่พ้น บอร์ด สกสค.

ส่วนกรณีที่สหภาพแรงงานฯ ร้องเรียนว่ามีการทุจริตนั้น  รมว.ศธ.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี ปลัด ศธ. เป็นประธาน โดยจะรู้ผลภายใน 120 วัน
นายชินภัทร กล่าวว่า สหภาพแรงงานองค์การค้าต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับสถานภาพองค์การค้า และบุคลากร จะได้ความชัดเจนเป็นหน่วยงานของข้าราชการ ภายใน 60 วัน

ด้าน นายสุธรรม นทีทอง เลขานุการ รมว.ศธ. กล่าวว่า จุดยืนของ รมว.ศธ. ต้องการสร้างองค์การค้าให้ก้าวหน้า กวาดล้างการทุจริตให้สิ้นซาก และนำบุคคลที่กระทำความผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างองค์การค้าที่ดีในอนาคต

 
“การประชุมร่วมกันระหว่าง ปลัด ศธ. กับ สหภาพแรงงานฯ นับเป็นข้อตกลงที่ดีในการสร้างองค์การค้าให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ดังนั้น พรุ่งนี้ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง”  

อนึ่งในการเคลื่อนไหวของพนักงานองค์การค้า สกสค.ครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตัวแทนสหภาพองค์การค้าฯ ได้ร้องเรียนต่อ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สอบสวนการทุจริตและสภาพปัญหาขององค์การค้าฯ เนื่องจาก ขณะนี้องค์การค้าฯ อยู่ในภาวะวิกฤต มีการทุจริตอย่างกว้างขวาง และขาดเงินทุนสะสมจำนวนกว่า 2,300 ล้านบาท ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง อีกทั้งล่าสุดในวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือเวียนจากสำนักบริหารการเงินและบัญชี องค์การค้า สกสค.ระบุว่า ในวันสิ้นเดือนนี้จะจ่ายเงินให้แก่พนักงานจำนวน 1,975 คน เป็นจำนวนครึ่งเดียวก่อน และมิได้ระบุว่าอีกครึ่งที่เหลือจะจ่ายเมื่อใด

นอกจากนี้ยังได้ขอให้ตรวจสอบ 15 กรณีฉาวที่สหภาพแรงงานฯ แจ้งว่ามีการทุจริต ดังนี้

1. เรื่องการรับจ้างทำสมุด อบจ.อุดรธานี (สัญญา 11 เม.ย.2550)
2. เรื่องการขายสินค้าผ่านหัวบิล บ.สี่ภาคเกษตร (ปุ๋ย)
3. เรื่องสัญญาขายหนังสือแบบเรียนผ่าน บ.อินเตอร์บุคส์ และสมาคมผู้ค้าหนังสือและเครื่องเขียน ให้ส่วนลดมากกว่าปกติ (วันจดทะเบียนการค้าจัดตั้งบริษัทและวันทำสัญญา สกสค.เป็นวันเดียวกัน)
4. การแก้ไขสัญญารับจ้างทำกล่องซีดีโครงการเพลงลูกทุ่งเทิดพระเกียรติ 60 ปี ไม่เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง
5. เรื่องคดีหนังสือปลอมและหนังสือแบบเรียนหาย (มีผู้รับเงินรางวัลนำจับ 500,000 บาท)
6. การนำปั๊มน้ำมันองค์การค้าให้เช่าในราคาถูก เนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 10.8 ตารางวา โดยไม่โปร่งใส ค่าเช่าเดือนละ 102,060 บาท
7. เรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง (ผู้อำนวยการสำนัก) โดยไม่มีการเปิดรับสมัครอย่างโปร่งใสและผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหนี้องค์การค้าฯ และยังไม่มีการชำระหนี้จนถึงปัจจุบัน
8. จัดจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยที่มีคดีลักทรัพย์ (หนังสือแบบเรียน) พัวพันมาต่อสัญญาจ้างใหม่
9. ประมูลขายรถที่ใช้งานเก่าแล้วให้มีการเช่ารถเพื่อใช้งานโดยเสียค่าเช่าวันละ 2,100 บาท (สัญญา 4 ปี) ราคาสูงผิดปกติ
10. องค์การค้าฯ เป็นโจทก์ฟ้องลูกหนี้กว่า 100 กว่าคดี ชนะแล้วไม่สามารถบังคับลูกหนี้ได้เป็น 200 กว่าล้านบาท แต่องค์การค้าถูกฟ้องแพ้คดีจ่ายให้โจทก์ทุกคดี
11. ไม่ดำเนินการตามคำข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกาตามเรื่องเสร็จที่ 126/2549 เป็นเหตุให้องค์การค้าฯ เสียหายจนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง
12. เรื่องลูกโลก, รองเท้าไนกี้ และร้านมินิมาร์ท KBO
13. เรื่องยักยอกเงินสหกรณ์ 30 ล้านบาท
14. การนำเงินกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่ (ประมาณ 80 ล้านบาท) ไปใช้ไม่เป็นไปตามระเบียบกองทุนฯ
15. ไม่กันเงินกองทุนบำเหน็จสำหรับเจ้าหน้าที่เกษียณอายุเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4 ปี จนทำให้เจ้าหน้าที่เกษียนยังไม่ได้รับเงิน




นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ. ระหว่างพบกลุ่มสหภาพแรงงานฯ




กำลังโหลดความคิดเห็น