“หมอประเวศ” เห็นดีรัฐแจก ส.ป.ก.4-01 แต่ต้องโปร่งใส เตือนอย่าปล่อยให้ตกอยู่ในมือนักการเมือง แนะให้ที่ดินทำกินครอบครัวละ 5 ไร่ ครบทุกหมู่บ้าน ไม่ต้องให้กรรมสิทธิ์ แต่ให้ชุมชนดูแลพื้นที่กันเอง ชี้รัฐแจก 2,000 บาท แค่แก้ปัญหาชั่วคราว ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง ส่วนดีทีวีจัดได้แต่อย่าด่าฟรี ควรทำรายการอย่างมีความรู้ มีเหตุผล
วันที่ 19 มกราคม ที่อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะผลักดันการแจกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ว่า การแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนจะต้องคิดให้ไกลกว่านั่น ยิ่งในภาวะที่โลกพบกับวิกฤตเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนไม่อดตาย โดยรัฐบาลอาจจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 5 ไร่ เพื่อสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ มีสัมมาอาชีพเต็มพื้นที่ จึงเห็นด้วยหากรัฐบาลจะแจกที่ดินทำกินเพื่อการเกษตรให้กับประชาชน แต่จะต้องทำให้ดี มีความสุจริตโปร่งใส ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการเมืองจะต้องระมัดระวัง เพราะขณะนี้มีระบบตรวจสอบที่เข้มแข็งมากขึ้น หากใครทุจริตจะถูกลงโทษ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นแล้ว คือ อดีตนายกรัฐมนตรี 2 คนที่ถูกตัดสินจำคุก
“ที่สำคัญรัฐบาลจะต้องไม่ปล่อยให้ที่ดิน ส.ป.ก.ตกอยู่ในมือของนักการเมือง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกพ้องของตนเอง หากจะทำให้ดี ควรจะแจก ส.ป.ก.ให้แก่ชุมชนเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการพื้นที่เอง โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องให้กรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเมื่อประชาชนทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลมีที่ดินทำกินแล้ว ทุกคนมีสัมมาอาชีพทุกอย่างก็จะเรียบร้อย บ้านเมืองจะสงบสุข” ศ.นพ.ประเวศ กล่าว
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ การทำเกษตรที่ยั่งยืนต้องเป็นการปลูกพืชผักเพื่อกินเอง ไม่ใช่ปลูกเพื่อขายเพราะมีที่ดินเป็น 10 ไร่ ก็ไม่พอ แต่หากทำไว้กินเองมีที่ดินเพียง 1 ไร่ก็สามารถอยู่ได้ และมีความสุขด้วย จึงไม่ควรไปวัดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพราะบอกแต่ตัวเลขทางการเงินเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงความสุขของคนด้วย และอย่าไปเอาอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีอัตราการทำเกษตรทั้งประเทศเพียง 13% ถือว่าน้อยเกินไป ปัจจุบันหากประเทศใดสามารถผลิตอาหารเองได้ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพียงใดก็จะไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะคนในประเทศยังมีกินอยู่ ไม่อดตาย
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะแจกเงิน 2,000 บาท ให้กับผู้มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาทต่อเดือนนั้นว่า เป็นการกระตุ้นให้คนเกิดการใช้จ่าย แต่จะช่วยแก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะรัฐบาลเข้ามาในภาวะที่เกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะระบบการเงินที่ดำเนินการมาไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น จะทำให้ถูกในทันทีคงไม่ได้ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องอัดฉีดเงินเพื่อให้คนมีกำลังซื้อ แก้ปัญหาด้วยการเลี้ยงระบบเศรษฐกิจไปก่อนด้วยการแจกเงิน 2,000 บาท แต่สุดท้ายก็จะไปไม่รอดปัญหาจะกลับมาใหม่ เพราะปัญหาที่แท้จริงยังไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้น จึงต้องเร่งแก้ปัญหาที่แท้จริงอย่างเร็วที่สุดซึ่งก็คือให้คนมีสัมมาอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้
เมื่อถามถึงกรณีที่แกนนำ นปช.จัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดีทีวีออกอากาศผ่านระบบเคเบิลทีวี ซึ่งจะออกอากาศวันนี้เป็นวันแรกว่า ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า โดยปกติตนไม่ชอบดูโทรทัศน์และฟังวิทยุ จึงไม่ได้ดูสถานีโทรทัศน์ช่องนี้ แต่หากใครจะสื่อสารเรื่องใดออกไปสู่ประชาชนสามารถกระทำได้ เพราะการปกครองระบบประชาธิปไตยย่อมมีความหลากหลายทางความคิด และเป็นเรื่องปกติที่จะมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลแล้วออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ควรนำเสนอโดยใช้ความรู้และเหตุผล
“ผู้ที่เกี่ยวข้องควรให้ฝ่ายที่มีความเห็นไม่ตรงกัน จัดรายการและออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ที่เป็นของรัฐ เช่น ช่อง 9 และช่องเอ็นบีที โดยเปิดโอกาสให้นำความรู้และเหตุผลของแต่ละฝ่ายมานำเสนอในเวลาที่เท่าๆ กัน เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศเข้ามาตัดสิน วิธีการนี้จะทำให้ประชาชนฉลาดขึ้น ในขณะที่ผู้จัดรายการก็จะพิจารณาถึงพฤติกรรมของตนเอง มากขึ้น ไม่ใช่จะด่าใครฟรีๆ” ศ.นพ.ประเวศ กล่าว
