สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวรธัมโมวาท เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. 2552
ความว่า วันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาติ คือ วันเด็กแห่งชาติ ที่ผู้ใหญ่ คือ คณะรัฐมนตรี ประกาศยอมรับความสำคัญของเด็ก ด้วยการให้จัดเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีในวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม เคยกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ว่า เด็กเป็นอนาคตของชาติ จริงดังที่รู้กันและกล่าวถึงกันอยู่ตลอดมา นับเป็นความสำคัญอย่างยิ่งของเด็ก แต่ผู้ใหญ่เป็นอนาคตของเด็ก ผู้ใหญ่จึงเป็นความสำคัญที่สุดของชาติ เห็นได้ชัดเจนเป็นลำดับ ดังนั้น อนาคตของชาติอยู่ในมือของเด็ก และอนาคตของเด็กอยู่ในมือของผู้ใหญ่ นั่นก็เท่ากับชาติอยู่ในมือของผู้ใหญ่ในชาตินั่นเอง ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างอย่างไรให้เด็กดู ให้เด็กรู้ ให้เด็กเห็น จนฝังจิตฝังใจ จนรับไว้เป็นนิสัยใจคอการปฏิบัติของเด็กไปโดยไม่รู้ตัว เป็นอนาคตของเด็ก นั่นคือ เป็นอนาคตของชาติด้วย
ผู้ใหญ่ในปัจจุบันเป็นอย่างไร อนาคตของชาติจะเป็นเช่นนั้น โดยมีเด็กในปัจจุบันนั่นเองเป็นผู้สืบสานเด็กในปัจจุบันที่จะเป็นอนาคตของชาติ หรือเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ก็คือ เป็นผู้ที่รับสิ่งที่พบเห็นเป็นการพูดการทำของผู้ใหญ่ไว้เป็นแบบอย่าง คิดตาม พูดตาม ทำตามตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ คือ เป็นอนาคตของชาตินั่นเอง
กล่าวโดยสรุป ยุคสมัยปัจจุบันเป็นยุคที่เรามองโลกทั้งใบ เด็กๆ ทุกคนถือว่าเป็นสมบัติของชาติ เด็กยังเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เปรียบเหมือนผ้าขาว เอาสีอะไรไปใส่ย่อมเป็นสีนั้น จึงขอฝากเด็กๆ ไว้กับผู้ใหญ่ ฝากอนาคตของชาติไว้กับเด็กๆ เพราะเขาเป็นความหวังของประชาชน การศึกษาถึงโลกในใจของเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดของพวกเขา เป็นหนึ่งในแบบฝึกหัดที่สำคัญที่สุดของผู้ใหญ่ ขออำนวยพร.