พยาบาลเดือด ตบเท้าพบ “วิทยา” เซ็งถูกเอาเปรียบ-บี้เพิ่มค่าตอบแทน

พยาบาลนับพัน ตบเท้าพบ “วิทยา” เซ็งโดนเอาเปรียบ ปัญหาอื้อ ไม่ได้แก้ไข ทั้งไม่บรรจุเป็นข้าราชการ ไม่ก้าวหน้าในอาชีพ สาเหตุใหญ่พยาบาลขาดแคลน-สมองไหล รับไม่ได้ บี้ ขอเพิ่มค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายได้เฉพาะพื้นที่ทุรกันดาร แต่พื้นที่ปกติไม่ได้ ขณะที่ หมอ-หมอฟัน-เภสัชกร ได้หมดถือว่าไม่เป็นธรรม

นางกรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์ ที่ปรึกษาชมรมผู้บริหารการพยาบาลโรงพยาบาลชุมชน กล่าวว่า ในวันที่ 9 ม.ค.เวลา 09.00 น.พยาบาลในสถานีอนามัย โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศจำนวน 1,000 คน จากโรงพยาบาลชุมชน 724 แห่งทั่วประเทศ จะแสดงพลังโดยเดินทางมาขอความเป็นธรรมใน 3 เรื่อง คือ 1. การไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการเลย ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนพยาบาลโดยไม่มีพยาบาลที่จบใหม่เข้ามาแทนที่ ทั้งที่เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้

2.การเลื่อนตำแหน่ง โดยหากจะเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จะทำให้ตำแหน่งเดิมถูกยุบไป จึงไม่เป็นแรงจูงใจ และไม่ทำให้รุ่นน้องที่ทำงานสามารถก้าวหน้าวิชาชีพได้ และ 3.เรื่องค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ที่ได้กำหนดให้ 4 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลให้ได้รับเพื่อสร้างแรงจูงใจในการอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางด้านสาธารณสุข แต่พยาบาลกลับไม่ได้ค่าตอบแทนดังกล่าวสำหรับบุคลากรที่อยู่ในพื้นที่ปกติ ทั้งๆ ที่อีก 3 วิชาชีพได้รับ

“ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เรารับไม่ได้จริงๆ คือ เรื่องของค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายที่ชมรมร่วมกันผลักดันกันมาตั้งแต่ปี 2544 จนเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2551 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข หนังสือที่ สธ.0201.042.1/ว994 ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย สำหรับแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพ แบ่งเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ปกติ พื้นที่ทุรกันดารระดับ 1 และ 2 โดยพยาบาลได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงเฉพาะพื้นที่ทุรกันดาร 1 และ 2 ซึ่งค่าความเสี่ยงของแต่ละวิชาชีพในพื้นที่ปกติไม่มีเช่นนี้ หมายความว่า ค่าชีวิตของพยาบาลไม่มีหรืออย่างไร”นางกรรณิกา กล่าว

นางกรรณิกา กล่าวต่อว่า แพทย์และทันตแพทย์ได้รับค่าตอบแทนในพื้นที่ปกติตั้งแต่ 1-6 หมื่นบาทต่อคนต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงาน ส่วนเภสัชกรได้ 3-6 พันบาทต่อคนต่อเดือน แต่พยาบาลไม่ได้เลย นอกจากนี้ ในส่วนค่าตอบแทนที่ให้พยาบาลในพื้นที่ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก ในพื้นที่ทุรกันดารระดับ 1 แพทย์และทันตแพทย์ได้ 2-6 หมื่นบาทต่อคนต่อเดือนตามอายุงาน เภสัชกรได้ 8 พัน-1.1 หมื่นบาท ส่วนพยาบาลได้เพียง 1.5-3 พันบาทต่อคนต่อเดือนเท่านั้น

นางกรรณิกา กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่ทุรกันดารระดับ 2 แพทย์และทันตแพทย์ได้ 3-7 หมื่นบาทต่อคนต่อเดือน เภสัชกรได้ค่าตอบแทน 1.3-1.6 หมื่นบาท ส่วนพยาบาลได้เพียง 3 -4.5 พันบาทเท่านั้น ทั้งที่พยาบาลต้องทำหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต่างจากวิชาชีพอื่น อีกทั้งต้องปฏิบัติงานอยู่กับคนไข้ตลอดเวลาด้วย และเมื่อเทียบค่าตอบแทนกับแพทย์ ถือว่าต่างกันมากถึง 3 เท่า เพราะแพทย์ ทันตแพทย์ 10 คน ต้องใช้งบประมาณค่าตอบแทน 5 แสนบาทต่อเดือน แต่พยาบาลวิชาชีพ 50 คน หากได้รับคนละ 3พันบาท ใช้งบประมาณเพียง 1.5 แสนบาทเท่านั้น

“ชมรมอยากเสนอให้ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ.ให้ความเป็นธรรมกับวิชาชีพนี้ โดยเฉพาะเรื่องค่าตอบแทนโดยให้มีค่าตอบแทนในพื้นที่ปกติ เป็น 2-5 พันบาทต่อคนต่อเดือนตามอายุงาน สำหรับพื้นที่ทุรกันดาร 1 ปรับเป็น 5-8 พันบาท และพื้นที่ทุรกันดาร 2 ปรับเป็น 7 พัน-1 หมื่นบาท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง”นางกรรณิกา กล่าว

นางกรรณิกา กล่าวอีกว่า ในส่วนของอัตรากำลังพยาบาลก็อยากให้รัฐมนตรีช่วยผลักดันนโยบายการบรรจุพยาบาลเป็นข้าราชการ รวมถึงเร่งรัดการบรรจุพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวขณะนี้ให้เป็นข้าราชการโดยพยาบาลที่เป็นนักเรียนทุนและเป็นลูกจ้างชั่วคราวในระบบอีกประมาณ 6,000 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ ในการทำสัญญาใช้ทุนของรัฐระบุว่า จะมีตำแหน่งงานให้ แต่เมื่อจบออกมากลับมีการปฏิรูประบบราชการทำให้ไม่มีตำแหน่ง จึงทำให้พยาบาลเหล่านี้ไม่สามารถบรรจุเป็นราชการได้ และไม่จำเป็นต้องใช้ทุนกับรัฐอีกต่อไป ทำให้พยาบาลไหลไปนอกระบบเป็นจำนวนมาก อีกทั้งอัตราเกษียณของพยาบาลมีประมาณ 3% แต่อัตราเพิ่มของพยาบาลในชุมชนมีเพียง 0.01% เท่านั้น

“ส่วนเรื่องความก้าวหน้าทางอาชีพก็ต้องการให้เลิกเกณฑ์กำหนดตำแหน่งสายงานพยาบาล ปี 2537 และในการกำหนดตำแหน่งสูงขึ้น โดยไม่ต้องยุบตำแหน่งเดิม ทำให้มีแรงจูงใจให้พยาบาลรุ่นใหม่ๆ ได้เข้ามาทำงานในตำแหน่งงานที่สูงขึ้น ซึ่งขณะนี้มีพยาบาลทั้งประเทศในสังกัด สธ.ประมาณ 6 หมื่นคน แต่มีพยาบาลระดับ 8 เพียง 1,035 คน ระดับ 9 เพียง 18 คนเท่านั้น”นางกรรณิกา กล่าว