xs
xsm
sm
md
lg

“คุณชาย” ชูขยาย 3 เส้นทางเดินเรือ “อ.แก้ว” เตรียมตั้งกองทุนช่วยเหยื่อไฟไหม้ ด้าน “ลีน่า” ดันแสนแสบเป็นแหล่งท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 2
“สุขุมพันธุ์” ชูนโยบายขยายเส้นทางเดินเรือ 3 สาย ดึงส่วนร่วมจากรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสนับสนุน เชื่อ 2 ปีสร้างเสร็จ พร้อมเสนอตั้งองค์กรอิสระตรวจสอบก่อสร้างอาคารกันข้อครหา ด้าน “แก้วสรร” ชู ตั้งกองทุนช่วยเหลือเหยื่อไฟไหม้-ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทุกอาทิตย์ ส่วน “ลีน่า จัง” ชูพัฒนาคลองแสนแสบ เป็นแหล่งท่องเที่ยว

วันนี้ (5 ม.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่พบประชาชนที่บริเวณท่าเรือวัดศรีบุญเรือง พร้อมชูนโยบายผลักดันการดำเนินการขยายการคมนาคมทางน้ำใน 3 สายหลัก คือ 1.ส่วนต่อขยายจากท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ไปยังตลาดมีนบุรี 2.จากตลาดยิ่งเจริญ ย่านสะพานใหม่ ไปยังพื้นที่พระโขนง และ 3.จากเพชรเกษม ไปบางหว้า ด้วยการดึงการมีส่วนร่วมของรัฐบาล คือ กรมขนส่งทางน้ำ กระทรวงคมนาคม เข้ามามีส่วนในการลงทุน ออกแบบ และให้เอกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการหาผู้ประกอบการเดินเรือมาวิ่งให้บริการประชาชน คาดว่า ภายใน 2 ปีจะสามารถดำเนินการได้สำเร็จ ทั้งนี้ ในส่วนของท่าเรือส่วนต่อขยายจากวัดศรีบุญเรือง ไปยังตลาดมีนบุรี นั้น ทราบว่า ได้มีการดำเนินการไปบ้างบางส่วนแล้ว แต่ก็ยังติดปัญหาเรื่องของการวางโป๊ะเรือที่ไม่เหมาะสม ชาวบ้านร้องเรียนให้ย้าย ซึ่งการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวนั้น

“หลังจากที่ตนได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนจะเข้าไปเร่งรัดให้การดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ด้วยการขอความร่วมมือจากรัฐบาล และเอกชน นอกจากนั้นแล้ว ในการดำเนินการขยายท่าเรือนั้นตนจะเน้นเรื่องความปลอดภัย การเดินทางที่สะดวก และลดมลภาวะทางเสียงเป็นหลัก ส่วนอัตราค่าโดยสารนั้น ตนมองว่า ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด แต่จะควบคุมไม่ให้มีราคาที่สูงเกินไป” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 12
นอกจากนี้ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยอาคารสถานที่ในพื้นที่กทม.ว่า ต้องมีการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายโดยเคร่งครัด นอกจากนั้นแล้ว จะสนับสนุนให้มีองค์กรนอกหน่วยงานของ กทม.เป็นเจ้าภาพในการตรวจสอบการก่อสร้างของอาคาร เพื่อลดข้อกังขาว่า กทม.รู้เห็นเป็นใจกับเจ้าของอาคารเพื่อทำผิดกฎหมาย ส่วนการทำประกันภัยของอาคารนั้น ตนอยากเรียกร้องให้บริษัทที่รับทำประกันภัยเข้าตรวจสอบสภาพ และความถูกต้องของอาคารก่อนที่จะรับทำประกัน ซึ่งหากพบว่าอาคารใดไม่มีมาตรฐาน อย่ารับทำประกัน

วันเดียวกัน นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯใหม่ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณท่าช้าง-ท่าพระจันทร์ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ท่าพระจันทร์ ท่าช้าง มีปัญหาการยึดพื้นที่ตั้งโต๊ะจำหน่ายอาหาร ดังนั้น จึงจำเป็นต้องหารือกับผู้ค้าโดยอาจต้องหาแนวทางที่เหมาะสม เช่น หาสถานที่จำหน่ายให้ใหม่ เพื่อเชิญชวนให้ผู้ค้าย้ายมาที่นี่แทน เพราะมันไม่ใช่ตลาดเหมือนที่โบ๊เบ๊ บางลำพู ซึ่งย่านนั้นเป็นแหล่งทำมาค้าขาย แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ทางเดินเท้าต้องให้ประชาชนใช้สัญจรไปมา

นายแก้วสรร ยังกล่าวถึงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ-อาคารเสือป่าพลาซ่า ด้วยว่า ตามแนวทางตามรัฐธรรมนูญ ความปลอดภัยในอาคารสาธารณะ กทม.จะต้องเป็นผู้ที่ดูแลไม่ใช่แค่อนุญาตสร้างอาคาร ซึ่งหากพบว่าอาคารใดสร้างไม่ได้มาตรฐานผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องหน่วยงานของ กทม.ได้ ทั้งนี้ หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนจะจัดตั้งกองทุนเงินเพื่อช่วยผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้ และมีมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทุกอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ตนขอเรียกร้องไปยัง นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกทม.เร่งตรวจสถานบันเทิงในพื้นที่ กทม.ให้ครบโดยเร็ว
ขณะที่ นางลีนา จังจรรจา ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 3 ลงพื้นที่หาเสียงในชุมชนมัสยิดมหานาค ที่ท่าเรือตรงข้ามโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ พร้อมประกาศว่า จะพัฒนาคลองแสนแสบที่ท่าเรือดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยจัดทำตลาดน้ำให้ชุมชนมีแหล่งค้าขาย เพิ่มรายได้และช่วยลดปัญหายาเสพติด นอกจากนี้ จะใช้ข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัดในการควบคุมเรือในคลองแสนแสบ ไม่ให้วิ่งเร็ว เพราะส่งผลให้ชุมชนกว่า 400 ครัวเรือน เดือดร้อนจากคลื่นสูงและเสียงดัง

นางลีนา ยังกล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ ว่า ด้านนโยบายจะจ้างทีมผู้เชี่ยวชาญออกสอนประชาชนให้รู้วิธีเอาชีวิตรอดจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้
กำลังโหลดความคิดเห็น