“อภิรักษ์” เตือนประชาชนระวังช่วงวันที่ 14-17 พ.ย.นี้ น้ำหนุนสูงอีกรอบ แต่ประชาชนที่อาศัยในแนวเขื่อนปลอดภัย นอกเขื่อนต้องอพยพของขึ้นที่สูง ขณะเดียวกัน เตรียมพัฒนาเส้นทางเดินเรือ 20 คลอง ในแผน 12 ปี โดยจะนำร่องที่ส่วนต่อขยายจากท่าศรีบุญเรืองไปมีนบุรีก่อน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.ว่า จากการรายงานของสำนักการะบายน้ำ (สนน.) คาดว่า ปริมาณน้ำฝนใน 7 วันข้างหน้าจะลดลง อาจมีฝนตก 10-20% ของพื้นที่ ปริมาณน้ำเหนือไหลผ่าน กทม.จะมีปริมาณมากขึ้น แต่คาดว่า จะไม่เกิน 3,200 ลบ.ม.อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 14-17 พ.ย.นี้ น้ำทะเลจะหนุนโดยจะหนุนสูงสุดในวันที่ 17 พ.ย.ที่ระดับ 1.35 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และเมื่อประกอบปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่าน กทม.ซึ่งขณะนี้ปริมาณอยู่ที่ 2,596 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่เกิน 2.10 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
โดยจะส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำได้รับผลกระทบซึ่งทางเขตพื้นที่จะได้ประกาศแจ้งเตือนให้อพยพข้าวของขึ้นที่สูง รวมถึงได้จัดทำสะพานไม้เพื่อช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้นด้วย อย่างไรก็ตาม ในการเตรียมความพร้อมการจัดงานเทศกาลลอยกระทงในพื้นที่ กทม.ตนจะออกตรวจพื้นที่โดยเฉพาะตามท่าเทียบเรือต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนอีกด้วย
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือในประเด็นการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางน้ำ ซึ่งสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้สำรวจว่าพื้นที่ กทม.มีคลองที่สามารถพัฒนาให้เป็นเส้นทางสัญจรได้ จำนวน 28 คลอง ประกอบด้วย 1.คลองเปรมประชากร 2.คลองบางเขน 3.คลองลาดพร้าว 4.คลองบางซื่อ 5.คลองห้วยขวาง 6.คลองสามเสน 7.คลองผดุงกรุงเกษม 8.คลองมหานาค 9.คลองหลุมไผ่ 10.คลองจั่น 11.คลองตัน 12.คลองพระโขนง 13.คลองบางนา 14.คลองประเวศ 15.คลองลาดบัวขาว 16.คลองสอง 17.คลองแสนแสบ 18.คลองมหาสวัสดิ์ 19.คลองบางกอกน้อย 20.คลองชักพระ 21.คลองบางกอกใหญ่ 22.คลองภาษีเจริญ 23.คลองด่าน 24.คลองบางขุนเทียน 25.คลองดาวคะนอง 26.คลองบางบอน 27.คลองราชมนตรี และ 28.คลองสนามไชย
ทั้งนี้ กทม.ได้วางแผนการพัฒนาเส้นทางสัญจรในคลองระยะ 12 ปี ใน 20 คลอง แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2552-2555 จะทำใน 5 คลอง ได้แก่ คลองแสนแสบ คลองลาดพร้าว คลองคลองตัน คลองพระโขนง และ คลองภาษีเจริญ ระยะทาง 62 กม. จำนวน 68 ท่า ระยะที่ 2 เริ่ม พ.ศ.2556-2559 ใน 6 คลอง ระยะทาง 140 กม.จำนวน 170 ท่าเรือ และระยะที่ 3 เริ่ม พ.ศ.2560-2563 จำนวน 9 คลอง 230 กม.จำนวน 283 ท่าเรือ ส่วนอีก 8 คลองที่เหลือนั้น จะมีการสำรวจและวางแผนพัฒนาในรอบการปฏิบัติงานต่อไป
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กทม.จะพัฒนา 3 เส้นทางเดินเรือเป็นโครงการนำร่อง ได้แก่ 1.ส่วนต่อขยายคลองแสนแสบ จากท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ไปยังสำนักงานเขตมีนบุรี ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง ต้นปี 2552 2.จากตลาดยิ่งเจริญ ไปยังคลองพระโขนง และ 3.จากถนนเพชรเกษม ซอย 69 ไปคลองบางหว้า พร้อมกันนั้น จะพัฒนาท่าเรือที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจุดสำคัญ เช่น ท่าเรือประตูน้ำ ท่าเรืออโศก และท่าเรือผ่านฟ้า ให้ได้มาตรฐาน สะดวกต่อการเดินทางของประชาชนมากยิ่งขึ้น